xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.ยื่นศาลปกครอง ไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชีวิต ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


40 ส.ว.ประณาม “รัฐบาลเขยแม้ว” จงใจเข่นฆ่า ปชช.เตรียมยื่นศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชีวิต ปชช.ห้าม ตร.ใช้อาวุธ พร้อมขับไล่ ตชด.ออกจากพื้นที่ จ่อตั้งกระทู้ด่วนจี้ถามนายกฯ ต่อที่ประชุมวุฒิสภา

วันนี้ (8 ต.ค.) ที่รัฐสภากลุ่ม 40 ส.ว.นำโดย พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงเป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ว่า 1.ขอแสดงความเสียใจและห่วงใยต่อญาติของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทุกคน ทุกฝ่าย และเห็นว่ารัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขควรดูแลรับผิดชอบและเยียวยาทุกคนทุกฝ่ายที่ประสบความสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว 2.เพื่อคลายความกังวลของสังคมเราเห็นว่า ตชด.ที่มีความคุ้นเคยต่อการปฏิบัติการรบในชายแดนต้องออกจากพื้นที่ กทม.ในทันที 3.รัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตและเลือดเนื้อของทุกคนทุกฝ่าย ด้วยการสอบสวนเอาผิดกับผู้สั่งการที่ละเมิดวิธีปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างไร้มนุษยธรรม และรัฐบาลต้องยุติปฏิบัติการความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยทันที

นายประสาร กล่าวว่า 4.พวกตนจะประเมินเหตุการณ์ทั้งหมด และหลักฐานทั้งภาพ เสียง และเอกสารต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ และสถานเอกอัครราชทูตแห่งประเทศไทย เพื่อให้เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง 5.พวกตนจะตั้งกระทู้ด่วนต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้นายกฯ มาตอบคำถามต่อที่ประชุมวุฒิสภาให้ชี้แจงแสดงเหตุผลว่าใครเป็นคนสั่ง ใครเป็นผู้ปฏิบัติต้องการให้เกิดผลอะไร และรัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร 6.คณะกรรมาธิการหลายคณะของวุฒิสภาจะตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติการใช้ความรุนแรงเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสมชายจะต้องจิตสำนึกมนุษยธรรมด้วยการลาออก หรือยุบสภาโดยทันที หาไม่ประเทศชาติจะประสบวิกฤตรุนแรงจนยากจะเยียวยา นายสมชายควรจะนำอดีตของนายกรัฐมนตรีคนอื่นมาศึกษาว่า ไม่ควรฝืนกระแสสังคม ทั้งนี้ 40 ส.ว.จะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบเหตุทุกฝ่ายและจะร่วมกันบริจาคเงินลงขันให้ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่ากลุ่ม 40 ส.ว.จะถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเพียงกระแสข่าว กลุ่ม ส.ว.40 ไม่ประสงค์ที่จะรบกวนเบื้องพระยุคลบาท การถวายฎีกาเป็นสิทธิของประชาชนทั่วไปที่จะทำได้ โดยเฉพาะนายกฯ จะต้องรับผิดชอบต่อประชาชนทั้งประเทศ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นใหญ่หลวงเกินกว่าที่จะรับได้

เมื่อถามว่าหากประชาชนจะลาออกหรือยุบสภาทางกลุ่มจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้สื่อช่วยกันพิจารณาเรื่องนี้ และสื่อไปยังรัฐบาลว่าสมควรหรือยังที่จะลาออก ถ้ายังอ้างว่าเป็นวิถีประชาธิปไตยมาจากเสียงส่วนมาก วงจรนี้ก็จะไม่จบ เพราะก่อนที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะออกมาชุมนุมมาจากการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 การประชุมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ถ้าไม่มีวาระซ่อนเร้นที่จะบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของ นพ.เหวง โตจิราการ กลุ่มพันธมิตรฯ เองก็คงไม่ออกมาต่อต้าน เรื่องนี้จึงมีที่มาที่ไป จึงคำนึงถึงต้นเหตุของปัญหาก่อน การมาดูปลายเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ว่าประชาชนยั่วยุจนต้องมีการโต้ตอบ ตราบใดที่มาแก้ปัญหาด้วยการดูปลายเหตุเป็นหลัก ปัญหาก็คงไม่ยุติ

พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันอังคารที่ 7 ต.ค.รัฐบาลได้จุดไฟเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่ยุติเหตุการณ์ตรงนี้ ตนเกรงว่าจะบานปลาย เพราะเมื่อประชาชนไม่มีทางสู้ก็ลองคิดดูว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป หากเราไม่ร่วมมือกันบ้านเมืองก็จะกลายเป็นสงครามกลางเมืองจริงๆ

ด้าน นายสมชาย กล่าวเสริมว่า กลุ่มตนจะไปยื่นต่อศาลปกครองขอให้มีคำสั่งฉุกเฉินไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อาวุธกับประชาชน ขณะที่ น.ส.รสนา กล่าวว่า จะดำเนินการยื่นศาลปกครองอย่างเร่งด่วน อย่างช้าพรุ่งนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากเกรงว่าภายใน 1-2 วันนี้อาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นอีก หากรัฐบาลยังใช้วิธีการแบบเดิมโดยการเคลียร์พื้นที่ยิงแก๊สน้ำตาปูพรมแบบนี้ การรับผิดชอบทางการเมืองเป็นเรื่องที่อารยประเทศเขาทำกัน แต่ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลไทยเป็นอารยชนหรือไม่ เหตุการณ์เมื่อวานเหมือนเป็นกรือเซะ 2 จึงทำให้ประชาชนขาดความศรัทธาที่จะยอมให้รัฐบาลบริหารบ้านเมืองต่อไปอีกได้ หากลาออกตอนนี้อาจจะยังมีศักดิ์ศรีอยู่ว่าได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองแล้ว แต่ถ้ารอให้ทุกอย่างไม่มีอะไรเหลือก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะทางกลุ่มยังมีมาตรการอีกหลายอย่างที่จะตามมา

นายประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ตนอยากเรียกว่านายกฯ สมชายได้จุดไฟขึ้นมาทั้งประเทศแล้ว ถ้าไฟนี้ไม่มีการดูแลหรือดับลงจะทำให้เกิดปัญหาระดับประเทศ ซึ่งจะยิ่งใหญ่กว่าปัญหาภาคใต้ ขอเรียกว่าเป็นรัฐบาลมือเปื้อนเลือดเพราะใช้ความรุนแรงเข้าสู่การแถลงนโยบาย เมื่อแถลงเสร็จก็ใช้ความรุนแรงอีกรอบหนึ่ง

ขณะที่ พล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนรับราชการเป็นตำรวจมา 40 ปี การสลายการชุมนุมมีวิธีการปฏิบัติชัด เริ่มจากการเจรจา การเดินเป็นรูปลิ่มเจาะฝูงชน การใช้น้ำฉีด สุดท้ายถึงใช้แก๊สน้ำตา แต่การสลายการารชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม กลับใช้อาวุธปืนแก๊สน้ำตาแก๊สระเบิด จ่อยิงลักษณะต้องการให้ถูกคน และยิงไม่กระทบพื้นก่อน ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องตามวิธีการ แถมยิงซ้ำหลายรอบ มีเจตนาฆ่า ทั้งที่ผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ ตนขอวิงวอน ผบ.ตร. ผบช.น. ผู้กำกับการสถานีตำรวจ ใช้ความคิดให้มากๆ ก่อนสั่งการ และเลิกใช้แก๊สน้ำตา ขอให้ใช้ความละมุนละม่อม เพราะผู้ชุมนุมไม่ใช่โจร แต่เป็นญาติพี่น้อง ซึ่งตำรวจต้องเห็นใจ หากจะใช้น้ำฉีดก็ว่าไป เพราะไม่มีใครจะไปเผากองบัญชาการตำรวจนครบาล เพราะทุกคนรู้ว่าเป็นทรัพย์สินของส่วนรวม

เมื่อถามถึงกรณีประธานวุฒิสภายังยืนยันจะหารือร่วม 4 ฝ่ายเพื่อหาทางออกจากทางตันการเมือง พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เดิม ส.ว.มุ่งหวังว่าตอนที่นายกฯ รับตำแหน่งจะมุ่งแนวทางสมานฉันท์เป็นหลัก ซึ่งมีทิศทางดีเมื่อมีการหารือร่วม 4 ฝ่าย ต่อมาสถานการณ์เปลี่ยนไปเพราะมีการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม ทำให้การหารือ 4 ฝ่ายสูญสิ้นประโยชน์

เมื่อถามถึงแนวทางการตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ส.ว.คุยเรื่องนี้กันเล็กน้อย และเห็นว่ารัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกก่อน จากนั้นหากจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติจริงๆ ก็ต้องหารือกัน อย่างไรก็ดี ตอนนี้นายกฯยังไม่แสดงความรับผิดชอบ แถมไม่สะทกสะท้าน เฉยเมยผิดมนุษย์ ไม่ปริปากพูดถึงความสูญเสียชีวิตและการบาดเจ็บแม้แต่น้อยในการประชุมกับฝ่ายทหารเมื่อคืนวันที่ 7 ตุลาคม ฉะนั้น แม้แต่การหารือร่วม 4 ฝ่าย ตอนนี้ยังเป็นไปได้ยากแล้ว

ส่วน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.กล่าวว่า ส.ว.ยังไม่ได้หารือละเอียด แต่ถ้ารัฐบาลลาออก ก็ต้องตั้งรัฐบาลใหม่ อาจมีการจับขั้วใหม่ก็ว่าไป ส่วนเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ จะมาเป็นรัฐบาลกันทุกพรรคคงไม่ได้เพราะต้องมีฝ่ายตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นจะขัดรัฐธรรมนูญ ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ส.ว.กำลังประสาน นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เกี่ยวกับข้อเสนอของ 24 อธิการบดี ที่เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการเมือง และให้นพ. ประเวศ มาเป็นประธาน

นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง กล่าวว่า ตนได้รวบรวมรายชื่อ ส.ว.15 คน เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยภายใน 1-2 วันนี้ ในกรณีนายกฯ ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีเนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ ที่ทำสัญญากับ กสท ซึ่งเป็นบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐรวมถึงกรณี น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน บุตรสาวนายกฯ ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากถือหุ้นในบริษัท เอ็มลิ้งค์เอเชียคอเปอเรชั่น ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐวิสหกิจคือบริษัท กฟภ. โดยทั้งสองกรณีเป็นกรณีเดียวกับที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องต่อ กกต.ไปแล้วก่อนหน้านี้

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการกำลังรวบรวมภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย และหลักฐานต่างๆ อาทิ ปลอกกระสุน เพราะได้รับข้อมูลจากฝ่ายสรรพาวุธว่า ปืนยิงแก๊สน้ำตาที่ตำรวจใช้สามารถใส่กระสุนได้หลายแบบ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนข้อมูลให้กับญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ในการดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งกับผู้สั่งการ ไล่ตั้งแต่นายกฯ ผบ.ตร. ผบช.น. ผู้กำกับการสถานีตำรวจ กรณีการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง เพราะเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง และจะประสานสภาทนายความให้เข้ามาช่วยเหลือในกรณีการดำเนินคดีด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น