“สมชาย” ก้นร้อน พันธมิตรฯ ปิดพื้นที่หน้าอาคารรัฐสภา หวั่นแถลงนโยบายต่อสภาไม่ได้ตามกำหนด อดบริหารประเทศ เรียกประชุม ครม.ด่วนกลางดึกที่ดอนเมือง ก่อนได้ข้อสรุป ยืนยันแถลงต่อสภาตามกำหนด 09.30 น.วันนี้ มอบหมาย “จิ๋ว” ดูสถานการณ์ชุมนุม อ้ำอึ้งสลายการชุมนุมหรือไม่
มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นการด่วน ที่สนามบินดอนเมือง เพื่อหารือถึงการเปิดประชุมสภาเพื่อแถลงนดยบาย หลังจากที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ปิดล้อมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.30 น.เป็นต้นมา โดยได้ประกาศแถลงการณ์ขัดขวางไม่ให้รัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 7 ต.ค.นี้ได้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลนายสมชายไม่สามารถบริหารประเทศได้อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ นายสมชายได้เรียก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรฯ ด้วย
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 01.10 น.ที่ผ่านมา การประชุมครม.นัดเร่งด่วนได้เสร็จสิ้นลง โดยนายสมชายให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามเวลาที่กำหนดไว้ในเช้าวันนี้ (7 ต.ค.) และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าจะมีการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ หรือไม่ นายสมชายไม่ตอบ และรีบขึ้นรถไป
ทั้งนี้ ก่อนที่นายสมชายจะเดินออกมาจากห้องประชุมนั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีได้เดินลงมาก่อน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอย่างไร พล.อ.ชวลิตไม่ตอบ แต่ยืนยันว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามกำหนดเดิมในเวลา 09.30 น. วันนี้
มีรายงานว่า ครม.ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต เป็นคนดูแลสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรฯ และให้เป็นผู้ประสานงานกับแกนนำหากจำเป็น ทั้งนี้เพื่อที่จะเปิดประชุมสภาเพื่อให้มีการแถลงนโยบายให้ได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าทางพรรคพลังประชาชนและแกนนำรัฐบาลได้มองสถานที่ไว้อย่างน้อย 3 แห่งที่สามารถจัดประชุมสมาชิกสภาได้กว่า 600 คน ได้แก่ 1.อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถบรรจุคนได้นับหมื่นคน และมีสถานที่จอดรถอย่างเพียงพอ แต่มีขนาดใหย๋เกินไปและระบบปรับอากาศอาจไม่เพียงพอ 2.สนามกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ของกรุงเทพมหานคร สามารถจุคนได้ถึง 2,000 คน ระบบการปรับอากาศอาจสมบูรณ์กว่า และใช้เวลาในการเตรียมการน้อยกว่า และ 3.หอประชุมของมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น สุโขทัยธรรมาธิราช ที่จุคนได้ประมาณ 1,000 คน หรืออาจรวมถึงโรงแรมต่างๆ ที่มีห้องขนาดใหญ่
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 20.00 น. นายสมชาย ได้เดินทางไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อสนทนากับนายบันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติผ่านทางโทรศัพท์ เป็นเวลา 30 นาที หลังจากนั้นได้ใช้เวลาอยู่ในห้องทำงานอีกนานพอสมควร
จนกระทั่งเวลา 21.40 น.ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนมวลชนมาปิดล้อมรัฐสภาว่า เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลให้เรียบร้อย เมื่อถามต่อว่า แต่พันธมิตรฯได้ปิดล้อมไว้หมดแล้ว นายกฯ ได้ถามกลับว่า แล้วเขาปิดล้อมทำไม ผู้สื่อข่าวได้ตอบกลับไปว่า เขาไม่อยากให้รัฐบาลแถลงนโยบายรัฐบาล นายกฯ จึงกล่าวว่า มันถูกต้องแล้วหรือ ตำรวจต้องดูแล
เมื่อถามว่า การให้ตำรวจดูแลคือใช้รูปแบบใด จะสลายการชุมนุมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องดูแลให้คนเข้าประชุมสภาได้
“เพราะสภาเป็นที่ประชุมของผู้แทนราษฎรทั้งประเทศ ที่ประชาชนเลือกมา การขัดขวางมันก็ไม่น่าจะถูก นี้เป็นการทำหน้าที่ของตัวแทนประชาชนทั้งประเทศ ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องที่ห้ามให้เขาประชุม มันไม่ถูก” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่ากำหนดการในวันที่ 7 ตุลาคมยังเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดไว้ เราต้องไปตามนัด และยังไม่มีการเลื่อน แต่ตนก็ยังไม่ได้คุยกับนายชัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมสภาถือว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า นั้นสิ ไปปิดทำไม ตัวแทนของประชาชนจะประชุมกัน เมื่อถามว่า นายกฯจะให้สลายการชุมนุมภายในคืนนี้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้บอก แต่เป็นหน้าที่ตำรวจที่จะทำเพื่อที่จะให้มีการประชุมได้
เมื่อถามว่า ต้องให้ทหารออกมาดูแลด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจก่อน เมื่อถามว่า อยากฝากบอกอะไรกับกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า จะบอกยังไงดี
เมื่อถามอีกว่า ประชาชนในต่างจังหวัดเริ่มเข้ามาสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ คิดว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ก็ไม่รู้วัตถุประสงค์คิดว่าเราต้องทำงานเรื่อยๆ
