“สมศักดิ์” รู้ทันเล่ห์ตำรวจ จับ “ไชยวัฒน์” หวังขู่ให้พันธมิตรฯ กลัว และทดสอบพลังมวลชน เย้ยกลับไม่เคยสะทกสะท้านต่อคนชั่ว แม้จะมีอำนาจ ลั่นนำ ปชช.ขับไล่ต่อไป โต้บทวิเคราะห์มติชนกล่าวหาพันธมิตร “เหี่ยว” หลังมี ส.ส.ร.3 ชี้เด็กตาบอดยังคิดได้ว่ารัฐบาลคุมเสียงข้างมาก ไม่มีทางปฏิรูปการเมืองสำเร็จ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 4 ต.ค. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงการเมืองใหม่ว่า คือการเมืองที่ประชาชนฉลาดรู้เท่าทันไม่ก้มหัวให้นักการเมืองข้าราชการที่ไม่ยุติธรรมในสังคมอย่างเด็ดขาด การเมืองใหม่ไม่ใช่การตั้ง ส.ส.ร.3 หรือการแก้รัฐธรรมนูญ การเมืองใหม่คือการที่เราเห็นตำรวจยศ พ.ต.อ. พ.ต.ท. พร้อมกับรถอีก 8 คัน ไปล้อมจับนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แล้วเห็นว่าไม่ถูกต้อง แล้วออกมาชุมนุมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย เพราะมันอยู่ในจิตสำนึกว่าจะต้องร่วมกันต่อสู้เพื่อประโยชน์ของคนทุกๆ คน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การต่อสู้ในวันนี้ ฝ่ายหนึ่งนั้นมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการสู้เพื่อคนส่วนใหญ่ สู้เพื่อปกป้องอธิปไตยและ 3 สถาบันหลัก แต่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการจะสืบทอดการโกงกินขายชาติ เป็นศัตรูของประชาชน และเห็นชัดๆ ว่านักการเมืองชั่วเหล่านี้ทำอะไร และเรานั้นทำอะไร แต่ตำรวจก็ยังรับใช้นักการเมืองชั่ว และนักการเมืองชั่วก็ทำหน้าที่ชั่วของมันต่อไป
“การเดินแต้มของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พยายามใช้ท่าทีนุ่มนิ่ม สร้างสถานการณ์ว่าจะเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา แต่เขากลับบอกว่าศรัทธาและเชื่อมั่นในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างมากมาย และเห็นชัดเจนว่า ที่แต่งตั้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาเจรจานั้น สุดท้ายก็ใช้ตำรวจตบหน้า พล.อ.ชวลิตไปเรียบร้อยแล้ว” นายสมศักดิ์กล่าว
หลังจากนั้น นายสมศักดิ์ ได้กล่าวถึงบทวิเคราะห์ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ฉบับล่าสุด ที่ปรามาสว่า หลังจากนายสมชาย ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ 24 อธิการบดีเสนอเรื่องปฏิรูปการเมือง และมีการตั้ง ส.ส.ร. 3 ทำให้ พันธมิตรฯ เหี่ยวลงไปทันที
นายสมศักดิ์ ได้ตอบโต้ว่า จริงๆ แล้ว พวกเราไม่ได้เหี่ยว ตนและแกนนำรู้ว่าพี่น้องประชาชนมีจิตใจที่จดจ่ออยู่กับการต่อสู้ ทุกคนเป็นดาวฤกษ์ มีแสงสว่างในตัวเอง รู้ถูกผิดชั่วดี รักชาติยิ่งชีวิต เพราะฉะนั้นเราไม่มีทางเหี่ยว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การที่ตำรวจออกมาปฏิบัติการจับนายไชยวัฒน์เพราะเห็นว่าพันธมิตรฯ มีคนมาร่วมชุมนุมน้อย จึงลองดูว่าจะมีอะไรหรือไม่
“เขาคิดว่าเรากลัวติดคุก แต่คนอย่างเราไม่เคยกลัว พวกนักการเมือเลว รัฐบาลชั่วจะจับเราไปประหารก็ทำเลย เราไม่เคยสะทกสะท้าน ไม่เคยกลัว อย่าเอาสันดานขี้ขลาดตาขาวของคุณมาอธิบายกับคนอย่าวงพวกเรา เราไม่กลัว เพราะรู้ว่าเราไม่ผิด จะไปกลัวอะไรกับคนชั่วแม้จะมีอำนาจ เราจะเดินอย่างไม่สะทกสะท้าน ไม่มีทางไปขอวิงวอนคุณแม้แต่นิดเดียว หน้าอย่างเราไม่ใช่พันธุ์ขี้ขลาดตาขาว ไม่เคยคิดจะไปประจบสอพลอนักการเมืองเลว เพื่อเห็นแก่เงิน หรือตำแหน่งหน้าที่ แต่เราเห็นแก่ความยุติธรรม และชาติบ้านเมืองมากกว่า” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการท้าทายเราก็ต้องพิสูจน์ ถ้ามีนักการเมืองชั่วอยู่ เราก็ไม่ควรอยู่ เพราะชั่วกับดีอยู่ด้วยกันไม่ได้ คนขายชาติกับคนกู้ชาติอยู่ด้วยกันไม่ได้ นี่คือการต่อสู้
“มีคนถามผ่านหนังสือพิมพ์มติชนว่าทำไมสหภาพรัฐวิสาหกิจเขานัดหยุดงาน ผมจะอธิบายให้ฟังว่า รัฐวิสาหกิจนั้นเป็นของประชาชน แต่เมื่อระบอบทักษิณเข้ามา จำนวนเงิน 180,000 ล้านที่โกงไปนั้น เป็นการโกงในรัฐวิสาหกิจ 110,000 ล้านบาท ไม่รวมการโกงที่เสียหายไปแล้ว เฉพาะกรณี ปตท. ตั้งแต่ขายไป แทนที่เงินกำไรจะเข้ามาเป็นของแผ่นดิน แต่กลับไปอยู่ในผู้ถือหุ้นที่เป็นเครือข่ายทักษิณรวมแล้วราว 6 แสนล้านบาทที่แบ่งกันทุกปี
เมื่อพี่น้องมาขับไล่รัฐบาลนอมินีของทักษิณ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจเขามีสำนึกและสู้มานานก็มาเข้าร่วมกับประชาชน เมื่อมีการปราบปรามประชาชนที่สู้เพื่อความุยติธรรมเขาก็นัดหยุดงานเพื่อประท้วง เพื่อให้ผลประโยชน์กลับมาตกอยู่กับประชน เราอย่าเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้าเล็กๆ น้อยๆ เห็นไหม ปตท.ที่เขาขายไป ทำให้น้ำมันราคาแพง คนงานได้ค่าแรงไม่พอก็เดือดร้อน เศรษฐกิจเกิดวิกฤติ ถ้ารัฐบาลใหม่เข้ามา ไม่โกงกิน ทรัพย์สินที่เป็นของประชาชนก็ยึดคืนมา ค่าบริการก็จะไม่แพง จะเป็นประโยชน์ต่อคุณ ลูกเมียคุณ ถ้าคนที่ถามไม่เห็นแก่ตัวจนเกินไป ก็จะมองออก ว่าประเทศชาติได้ประโยชน์ไปด้วย”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การปราบปรามประชาชนในช่วงรัฐบาลนายสมัคร ก็เอาอันธพาลมารังแก พวกเราแล้วหาเรื่องประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อตั้งข้อหาแกนนำจะได้จับกุมด้วยข้อหาว่าชุมนุมในภาวะฉุกเฉิน นี่คือเล่ห์ของนักการเมืองเลวในสมัยนายสมัคร ตอนนี้พอเห็นว่าสถานการณ์มันไม่ฉุกเฉิน ประกาศไปแล้วมันสร้างแต่ความเสียหายก็ยกเลิกประกาศ แต่ก็ยังตามจับพวกเราอยู่ ที่พูดนี้ไม่ได้กลัว แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมีเจตนาอย่างไร เมื่อนายสมัครไปแล้ว ก็เกิดนายสมชาย น้องเขยที่เป็นทายาทโดยตรง เราจึงต้องขับไล่ต่อไป
“มันง่ายมากที่จะเข้าใจ ถ้าไม่เห็นแก่ตัว ไม่อคติ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจนั้นเขามีหน้าที่รักษา ประโยชน์ของชาติ ต่อต้านคนโกง นี่คือหน้าที่ตามกฎหมายของเขา มันผิดตรงไหน หลายคนคงเห็นว่า ทำไมเครือข่ายสหภาพแรงงานทั่วโลก จึงออกแถลงการณ์ บอกว่าอย่าปราบปรามประชาชน และประท้วงให้ยกเลิกหมายจับ ก็เพราะสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจไทย ก็เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานระหว่างประเทศด้วย เพราะในวงการแรงงานทั่วโลกเขาถือว่าคนงานทั้งโลกเป็นพี่น้องกัน”
นายสมศักดิ์ยังกล่าวถึงประเด็นที่ผู้วิเคราะห์ในมติชนสุดสัปดาห์อ้างว่า หลังจากมีการเห็นชอบให้ตั้ง ส.ส.ร.3 ทำให้การเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ เหี่ยวลงไปเลย ว่า อยากถามหน่อยว่า เรื่องการปฏิรูปการเมืองหรือการเมืองใหม่นั้น ใครเป็นผู้เสนอ ถ้าไม่ใช่พันธมิตรฯ การพูดแบบนี้เขาเรียกว่านักฉวยโอกาส แล้วการตั้ง ส.ส.ร.3 และนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภารับเอาร่างรัฐธรรมนูญของ นพ.เหวง โตจิราการ บรรจุเข้าวาระนั้น ขอถามว่าเป็นประชาธิปไตยตรงไหน สภาที่ซื้อเสียงมาก็เป็นอันเดียวกันกับรัฐบาล ในเมื่อคนชั่วคนโกงเป็นคนจัดการเพื่อปฏิรูปการเมือง มันจะปฏิรูปได้อย่างไร งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัขฉันใด การเมืองใหม่ก็ไม่สามารถเกิดได้ในรัฐบาลทุนสามานย์
“ปัญหาของประเทศวันนี้ คือการโกงกิน ขายชาติ การละเมิดกฎหมายรัฐธรรมตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ มาถึงรัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชาย บ้านเมืองจึงย่ำแย่ เศรษฐกิจก็ย่ำแย่ ประชาชนลำบาก ข้าวยากหมากแพงทุกย่อมหญ้านี่คือปัญหา และตัวปัญหาคือนักการเมืองเลวที่ไปซื้อเสียงเพื่อเข้ามาโกงกิน และสืบทอดตำแหน่งต่อไปให้ลูกหลาน ไม่ได้บริหารประเทศเพื่อประชาชน เพราะฉะนั้นตัวปัญหา ของประเทศคือรัฐบาลในขณะนี้ใช่หรือไม่”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เราต้องสู้เพื่อไม่ให้นักการเมืองโกงกิน ขายชาติ มาบริหารประเทศอีกต่อไป เพราะเราสงสารประเทศ เราทนไม่ได้ที่ลูกหลานเราจะต้องลำบาก ทนไม่ได้ที่นักการเมืองเนรคุณต่อบรรพบุรุษของเราที่รักษาบ้านเมืองไว้ด้วยความยากลำบาก เป้าหมายเราต้องกันไม่ให้มีนักการเมืองแบบนี้อีกต่อไปในอนาคต วิธีการคือไล่นักการเมืองเลวออกไป
เป้าหมายเรามีแค่นี้ ไม่ใช่เอานักการเมืองเก่ามาตั้ง ส.ส.ร.3 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม แล้วมีกลุ่มไหน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ส.ส. ส.ว. เมื่อรวมกันแล้ว เสียงส่วนใหญ่ก็เป็นของรัฐบาล มันก็เท่ากับมีกลุ่มเดียว แม้แต่เด็กตาบอดก็คำนวณได้ว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลต้องเสียงมากกว่า ยกมือยังไงก็แพ้ ลองดูกรณีนายการุณ โหสกุล ที่ถีบนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.266 คนยกมือบอกไม่ต้องไปขึ้นศาล เหมือนกับว่า ต่อไปนี้ให้ ส.ส.ไปถีบใครก็ได้
“นี่ขนาดเรื่องเล็กมันยังเข้าข้างกันเลย ไม่รู้จักถูกผิด ไปทำร้ายร่างกายกันในสภา คนยกมือให้ 266 คน รู้จัดผิดถูกไหม ไม่รู้จัด ยังเข้าข้างพวกเดียวกันเอง แล้วพ่อแม่มันที่ไปลอนดอนจะจงรักภักดีขนาดไหนเพราะกินเศษเงินมันอยู่ แล้วมันจะปฏิรูปอะไร อย่าไปหวัง อย่าไปยุ่ง ไม่มีทาง เพราะเขาคิดแต่จะหาเงินอย่างเดียว
พลังของประชาชนเท่านั้นที่จะให้เกิดสิ่งดีๆ ขอพี่น้องรวมตัวกันให้มาก และอย่ากลัวกับความไม่ถูกต้อง รัฐบาลนี้หลักของเขาคือต้องยึดอำนาจรัฐให้ได้ จะต้องปล้นก็เอา ใช้ ตำรวจจับคนโน้นรังแกคนนี้ ทำได้ทุกอย่าง ตำรวจก็ยังขึ้นกับเขา ทั้งที่หมดความชอบธรรมไปแล้ว จะลงไม่กี่วันนี้แล้ว เพราะจะถูกยุบพรรค และมีคดีอาญาอีกเยอะแยะที่เราไปแจ้งความ เพียงแต่เราโชคร้ายที่กระบวนการต่างๆ ล่าช้า พวกนี้ก็หาทางกินไปเรื่อยๆ อย่างตอนนี้กำลังจะทำถนนไร้ฝุ่น เอาถนนทุกสายทั่วประเทศมาเชื่อมกัน งบประมาณหลายแสนล้านบาท เขาจะเร่งกินก่อนที่จะยุบพรรค”
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรารู้ว่าคนพวกนี้มาจากไหน องคุลีมาลย์ยังใช้เวลานานกว่าจะเป็นคนดีได้ แล้วคนพวกนี้เพิ่งปล้นมาเมื่อวานนี้ แล้วจะเป็นคนดีได้อย่างไร คนพวกนี้มีแผลรุงรังเน่าเฟะที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างของเราให้แกร่งและกล้าขับไล่พวกมัน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขอให้พี่น้องยืนหยัดสู้ไม่ก้มหัวให้พวกมัน ส่วนแกนนำเราจะไม่มอบตัว เพราะเราไม่ผิด เรื่องอะไรต้องไป และคนพวกนี้ เชื่อถือไม่ได้ จะไม่ฟังให้เสียเวลา ซึ่งถ้าระบบปัจจุบันดีน่าเชื่อถือเราจะมาเหนื่อยขับไล่รัฐบาลเพื่ออะไร เพราะมันไว้ใจไม่ได้ ขอให้พี่น้อง ผนึกกำลัง ตรึงกำลัง ขยายการต่อสู้ออกไป เพราะเดือนตุลาคมนี้มีความหมาย มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ อาจมีอะไรเกิดขึ้น แต่ขอให้เชื่อมั่นในพลังของพวกเรา เมื่อเราชัดเจนว่ารัฐบาลนี้ชั่ว เราจะตั้งหน้าตั้งตาไล่มันไปอย่างเดียว ถ้ามันยังอยู่ การปฏิรูปการเมืองก็ไม่ต้องมาพูด ตั้ง ส.ส.ร.3-4-5 ก็ไม่มีความหมายเมื่อโจรมันตั้งขึ้นมา มันก็แก้ปัญหาไม่ได้
“เราต้องสู้ทุกรูปแบบ ทางพลังของประชาชนต้องสู้ ทางกฎหมายก็สู้ ตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่อย่าซีเรียส ขอให้พี่น้องจงสู้อย่างมีความสุข รักษาสุขภาพ เดินหน้าขับไล่มันไปเรื่อย ไม่กี่วันก็จะอยู่ไม่ได้แล้ว” นายสมศักดิ์กล่าว