xs
xsm
sm
md
lg

กกต.เงื้อค้าง! ตอกตะปูฝัง 111 ซาก ทรท.ง่วนจัดโผ ครม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาฯกกต.
เลขาฯ กกต.บ้อท่า ขอรอดู กม.อดีต กก.บห.พรรค ทรท.อยู่เบื้องหลังจัดโผ ครม.เข้าข่ายขัด พ.ร.บ.เลือกตั้งหรือไม่ อ้างศาล รธน.สั่งเพิกถอนสิทธิเท่านั้น วอนนักการเมืองต้องมีวิจารญาณ ด้าน “สดศรี” เชื่อ ปชช.ไม่สับสนระหว่าง “พท.”กับ “พปช.” อ้างชื่อ-โลโก้ต่างกันชัดเจน ระบุหากไม่อยากให้เกิดพรรคนอมินีหลังถูกยุบต้องแก้ รธน.

วันนี้ (24 ก.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่มีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเข้าไปมีส่วนในการจัดโผคณะรัฐมนตรี “สมชาย 1” ว่าได้รับฟังจากสื่อเท่านั้น ซึ่งต้องดูข้อมูลก่อนว่าการเข้าไปดำเนินการของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการเลือกตั้ง ส.ว. และพ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ห้ามอดีตกรรมการบริหารพรรคซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไปเป็นกรรมการบริหารพรรค หรือไปมีส่วนในการจัดตั้งพรรคใหม่เท่านั้น ส่วนที่ในอดีต กกต.ห้ามไม่ให้คนเหล่านี้ไปมีส่วนช่วยในการหาเสียงเลือกตั้งก็เป็นแค่แนวทางที่ใช้มีการเลือกตั้งเท่านั้น

“หากดูตามวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงแค่เพิกถอนสิทธิทางการเมือง แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จึงต้องดูว่าการไปมีส่วนในการจัดโผ ครม.เข้าข่ายผิดกฎหมายรวมถึงความเหมาะสมหรือไม่ประกอบกัน ซึ่งผมคิดว่าทุกคนก็ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมา ควรมีวิจารณญาณว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควร”

เมื่อถามว่า หากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา กกต.สามารถตั้งอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบได้หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ กกต.ว่าเรื่องที่ร้องเข้ามามีประเด็นข้อกฎหมายที่ กกต.รับผิดชอบหรือไม่ หากมีประเด็นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ก็จะต้องสรุปผลก่อนให้ กกต.พิจารณาอีกครั้ง

ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย การที่พรรคเพื่อไทยใช้ชื่อย่อของพรรค รวมถึงโลโก้พรรคที่มีลักษณะคล้ายกับพรรคพลังประชาชนว่า คงไม่ทำให้ประชาชนสับสน เพราะชื่อย่อของพรรคพลังประชาชนที่ใช้คือ พปช. แต่พรรคเพื่อไทยที่ใช้ พท.ซึ่งแตกต่างกันชัดเจนอยู่แล้ว และโลโก้ของพรรคที่เป็นตัวอักษร “พ” สีขาวตัวใหญ่ ก็จดแจ้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2550 เพียงแต่มีการเพิ่มตัวอักษร “ท” เข้าไป ตอนที่มีการประชุมพรรคครั้งที่ผ่านมา เมื่อมีการแจ้งมา กกต.ก็จะพิจารณาใหม่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง อย่างไรก็ตามก็ยังเห็นว่าโลโก้ของพรรคเพื่อไทยนั้นแตกต่างจากพรรคพลังประชาชนอย่างชัดเจนไม่น่าทำให้ประชาชนเกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดได้

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทยเป็นนอมินีเพื่อรองรับสมาชิกหากพรรคพลังประชาชนถูกยุบนั้น ถ้าจะห้ามกันก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ให้พรรคตั้งขึ้นใหม่มีลักษณะเป็นนอมินีกับพรรคที่ถูกยุบไป แต่เมื่อไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้ว พรรคในปัจจุบันก็ตั้งจากพรรคการเมืองเก่าๆ ที่แตกออกมาทั้งนั้น อีกทั้งนักการเมืองก็มีแค่คนกลุ่มเดียว

อย่างไรก็ตาม จากตรวจสอบและสรุปข้อมูลเกี่ยวกับเกี่ยวกับพรรคการเมืองที่ยังดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน ณ วันที่ 15 ก.ย.มีจำนวน 66 พรรค มีกรรมการบริหารพรรค 897 คน สาขาพรรค 392 สาขา และสมาชิกพรรค 5,817,895 คน ทั้งนี้ มีพรรคการเมืองมาจดแจ้งจัดตั้งพรรคเพิ่มเติมจำนวน 1 พรรค คือ พรรคสุวรรณภูมิ ซึ่งจัดตั้งเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา มี ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ อยากให้กรรมการบริหารพรรคทุกพรรคได้ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะที่ พ.ร.บ.พรรคการเมืองกำหนดว่า ภายใน 1 ปีนับแต่นายทะเบียนรับจดแจ้งจัดตั้ง พรรคการเมืองต้องดำเนินการรับสมัครสมาชิกให้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 5พันคนอย่างน้อยต้องประกอบด้วยสมาชิกที่มีอยู่ในแต่ละภาคตามบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัดที่นายทะเบียนประกาศกำหนดและมีสาขาพรรคอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา หากไม่ดำเนินการก็อาจถูกนายทะเบียนพรรคการเมืองสั่งสิ้นสภาพได้ รวมทั้งให้ระมัดระวังการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับตนเองและพรรค จนอาจต้องถูกยุบพรรค

นางสดศรี ยังกล่าวถึงการลาอออกของ 2 อนุกรรมการสอบสวนคำร้องคัดค้านวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นเรื่องจริง โดยทั้ง 2 คนเป็นบุคคลภายนอกไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของ กกต. โดยเหตุผลของการลาออกก็ระบุว่ามีภารกิจมาก ไม่สามารถร่วมพิจารณาในสำนวนดังกล่าวได้ แต่ข้อเท็จจริงจะมีการกดดันในการพิจารณาสำนวนดังกล่าวจนอนุกรรมการต้องลาออกหรือไม่ ต้องสอบถามจากเจ้าตัวเอง ยอมรับว่าการลาออกระหว่างที่มีการสอบสวนอยู่ทำให้อาจถูกมองได้ว่าถูกกดดัน
กำลังโหลดความคิดเห็น