ปธ.วิปฝ่ายค้าน จี้รัฐบาลเร่งแต่งตั้ง ครม. ค้านสานต่อนโยบาย “หอกหัก” ชี้ไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ เตือนอย่าซ้ำเติมวิกฤตตั้ง รมต.ยี้ โวย “ปู่ชัย” เลิกทำตัวเป็นคน พปช. ไม่บรรจุกระทู้ฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของ ปชช.
วันนี้ (23 ก.ย.) นายสาทิตย์ วงศหนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ที่ประชุมวิปได้หยิบยกเรื่องสำคัญที่เป็นวาระความสำคัญของบ้าน 2 เรื่องขึ้นมาหารือ คือ การจัดทำรายชื่อคณะรัฐมนตรี วิปฝ่ายค้านมีความเห็นว่า สังคมกำลังสับสนการเสนอข่าวโผ ครม.ซึ่งสับสนมากกว่าใครจะเป็นผู้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ขณะที่ในเวลาที่การจัดสรรผลประโยชน์ยังไม่ลงตัวปัญหาของประเทศไม่ได้หยุดลง เพราะมีประชาชนกว่า 30 จังหวัดต้องประสบปัญหาน้ำรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีท่าทีคุกคามเศรษฐกิจไทย ฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นที่น่าเสียดายที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้โอกาสที่ได้รับจากประชาชนในการเร่งรัดจัดตั้ง ครม.ให้เสร็จโดยเร็วเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาของประเทศ
“คุณสมชายมัวแต่เสียเวลาการการแก้ไขปัญหาการจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัวภายในพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล ในเวลาที่มีปัญหาการจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัวมันมีปัญหากระทบกับประชาชนแล้ว คือ ปัญหานโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล ปลายยุครัฐบาลสมัครมีการประกาศราคาจำนำข้าวชัดเจน แต่เมื่อพ้นตำแหน่งไปแล้ว ข้อเท็จจริงในหลายจังหวัดโรงสีฉวยโอกาสไม่ซื้อข้าวและกดราคาข้าว ข้าราชการก็ไม่เร่งรัดโครงการ และยังมีปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำจนมีการชุมนุมของเกษตรกรที่เวียงป่าเป้า โดยคนที่มาดูแลกลับมีแค่นายอำเภอกับ ส.ส.ในพื้นที่ และมาตราการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ฝ่ายรัฐไม่สามารถชี้แจงกับชาวบ้านได้ว่าจะมีมาตรการชดเชยผลผลิตทางเกษตรอย่างไรเพราะต้องรอ ครม.ใหม่” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่วิปฝ่ายค้านต้องการเรียกร้อง คือ นายกรัฐมนตรีต้องแสดงภาวะผู้นำในการเร่งจัดคนมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยเร็ว โดยต้องมีหลักคือ รัฐมนตรีที่แต่งตั้งต้องอธิบายได้ว่ามีความเหมาะสมกับตำแหน่งนั้นเพราะเหตุใด เนื่องจากเวลานี้มีข่าวเสนอผลประโยชน์ต่อรองตำแหน่ง ดังนั้น ทุกตำแหน่งต้องอธิบายความเหมาะสมได้ และการจัดทำนโยบายของ ครม.ต้องทำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เท่าที่ฟังเหมือนกับว่าจะใช้นโยบายเดิมของ ครม.สมัครกว่าร้อยละ 90 ขณะที่นโยบายของรัฐบาลสมัครไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนี้
“เวลานี้นอกจากต้องเร่งตั้ง ครม.ต้องมีนโยบายที่เหมาะสมด้วย นอกจากนั้น ต้องไม่สร้างเงื่อนไขที่เป็นวิกฤตการเมืองเพื่อซ้ำเติมสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยอดีตนายกรัฐมนตรี และข่าวใบสั่งจากลอนดอนที่กระทบความเชื่อมั่นของรัฐบาล หากมีข่าวเช่นนี้นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นคนที่มาจากกระบวนการยุติธรรมจะไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมนั้นคงไม่จริง” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ในเวลาที่ไม่มี ครม. ฝ่ายนิติบัญญัติโดยประธานสภาผู้แทนราษฎรกลับไม่เร่งรัดให้ฝ่ายนิติบัญญัติแก้ไขปัญหาของราษฎร เช่น ไม่ยอมบรรจุกระทู้สดมาแล้ว 2 สัปดาห์ โดยอ้างว่าไม่มีรัฐมนตรีมาชี้แจง ขณะที่มีรัฐมนตรีมาเสนอกฏหมายและชี้แจงงบประมาณ สิ่งที่วิปขอเรียกร้องต่อนายชัย ชิดชอบ คือ ต้องเลิกทำตัวเป็นคนในพรรคพลังประชาชนเสียที และเอาสภานิติบัญญัติเป็นที่แก้ไขปัญหาของประชาชน โดยสิ่งที่วิปฝ่ายค้านจะยื่นญัตติในสัปดาห์นี้ คือ กรณีที่มีอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปเจรจากับคนที่อ้างตัวว่าเป็นกองกำลังมลายู รัฐปัตตานี ที่ประเทศอินโดนีเซีย จนเป็นข่าวใหญ่ไปทั้งโลกและกระทบกับนโยบายแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
“ถ้าประธานชัยไม่ยอมให้ยื่นญัตติ ปัญหาคือ ฝ่ายนิติบัญญัติจะทำอะไรไม่ได้ และไม่มีใครมารับผิดชอบปัญหาของประเทศในขณะนี้ และถ้าประธานชัยยังไม่บรรจุ ผมจะลุกขึ้นถามว่าจงใจจะทำขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่” นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามถึงความเห็นต่อภาพ ครม. ฝ่ายค้านมองว่าดีกว่าหรือแย่กว่า ครม.ชุดที่ผ่านมา นายสาทิต กล่าวว่า คงต้องรอให้โปรดเกล้าฯ ก่อน ไม่ควรไปสับสนกับชื่อว่าใครจะได้เป็นอะไร เราอยากเห็นมากกว่าว่าคนที่คนที่จัดสรรให้มาเป็นรัฐมนตรีเหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่ เราไม่สนว่าคุณเฉลิม หรือ พล.อ.ชวลิต จะกลับมาหรือไม่ แต่อยากรู้ว่าคุณเฉลิมกับ พล.อ.ชวลิตเหมาะกับสถานการณ์อย่างไร หรือจะเป็นผู้มาซ้ำเติมวิกฤต เราจะรอให้มีการแต่งตั้งก่อนแล้วเราจะวิจารณ์ ครม.ได้
