ผู้จัดการออนไลน์ - สามเกลอเอ็นบีที “วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ” ยกบทความ นิธิ เอียวศรีวงศ์ โจมตีพันธมิตรฯ บ้องตื้นระบุปฏิรูปการเมืองไร้ผล ถ้าไม่ปฏิรูปสังคม ชี้ ถ้าพันธมิตรฯ ไม่ “ไฮแจ็กทำเนียบ” ก็ไม่มีใครสนใจเรื่องการเมืองใหม่ “ไข่แม้วดำ” ไม่เข็ดคุก ลามปามอีก ระบุเดี๋ยวนี้ต้องเรียก “รัฐบุรุษสุริยะใส”
รายการความจริงวันนี้ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการกล่าวถึงการประชุมวงเล็กเพื่อร่างข้อเสนอการเมืองใหม่ให้กับสังคมพิจารณา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ย.2551 โดยทั้ง 3 คนกล่าวว่า การประชุมดังกล่าวนั้นเป็นการประชุมที่ผิดกฎหมาย เพราะบุกรุกเข้าไปประชุมในสถานที่ราชการ ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวยอมรับว่า ตนเองก็ดูเอเอสทีวีเป็นประจำเหมือนกัน โดยหลังจากจัดรายการเสร็จก่อนเข้านอนก็จะต้องเปิดดูว่า พันธมิตรฯ มีการพูดเรื่องอะไรบ้าง
ต่อมา นายวีระ ได้มีการยกบทความเรื่อง “ปฏิรูปสังคม” ของ นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซึ่งวันนี้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชน โดยระบุว่า การเมืองใหม่จะไม่สามารถเกิดได้ หากปราศจากการปฏิรูปทางสังคม การปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูประบบภาษี การปฏิรูปการศึกษา การปฏิรูประบอบปกครอง ฯลฯ โดย นายวีระ กล่าวว่า นายนิธิ แสดงความประหลาดใจเรื่อง “ประชาภิวัฒน์” ของกลุ่มพันธมิตรฯ
จากนั้น นายจตุพร ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้อ่านเนื้อหาในบทความของ นายนิธิ ที่ระบุว่าสิ่งที่พันธมิตรฯ ทำอยู่ในปัจจุบันนั้น คือ การไฮแจ็กทำเนียบ เหมือนกับการไฮแจ็กเครื่องบิน
“อันที่จริง ในการ “ปฏิรูป” ใครจะเสนออะไรที่ไร้เดียงสา หรือเห็นแก่ตัวเท่าไรก็ได้ทั้งนั้น หากมีบรรยากาศที่เปิดกว้าง ปราศจากการไฮแจ็ก ไม่ว่าจะเป็นไฮแจ็กทำเนียบ หรือไฮแจ็กรัฐสภา ดังเช่นข้อเสนอปฏิรูปการเมืองของฝ่ายพันธมิตรฯ หากเป็นข้อเสนอในบรรยากาศปกติธรรมดา สังคมไม่ถูกบังคับขู่เข็ญ ก็จะถูกตีตกไปในเวลาอันรวดเร็ว และไม่มีใครใส่ใจจริงจังอีกเลย”
“พันธมิตรฯมีความกล้าที่จะยุติการประท้วงด้วยท่าทีนี้หรือไม่ แน่นอนว่า ฝ่ายแกนนำต้องเผชิญกับคดีตามกระบวนการยุติธรรม ท่านเหล่านั้นล้วนอ้างว่าไม่ได้ทำผิด และอ้างความเสียสละกล้าหาญมาโดยตลอด ถึงเวลาที่ท่านต้องพิสูจน์คำพูดด้วยการกระทำเสียที” นายจตุพรระบุถึงเนื้อหาในบทความ
ขณะเดียวกัน นายวีระ ก็กล่าวเสริมว่า “เมื่อฟังเช่นนี้แล้ว ผมจะต้องส่งเสียงไปยัง อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ถ้าอาจารย์ยังไม่นอนหลับ แล้วฟังรายการนี้อยู่ ก็อยากให้อาจารย์เข้าห้องพระ และสวดมนต์ เพราะวันนี้อาจารย์จะโดนพันธมิตรฯ สับเละแน่นอน” ส่วน นายณัฐวุฒิ ก็เสริมว่า ในปัจจุบันสถานการณ์การเมืองนั้นเหมือนกับเด็กนักเรียนถูกจับล็อกอยู่โดยคนเมายาบ้า
นอกจากนี้ ยังมีการโจมตีข้อเสนอเรื่องการเลือกผู้แทนแบ่งแยกตามสาขาอาชีพอันเป็นข้อเสนอของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ไม่มีวันที่จะได้ตัวแทนผู้ประกอบอาชีพในสาขาต่างๆ มาอย่างแท้จริง ส่วน นายวีระ ได้กล่าวลามปาม โดยระบุว่า ถ้าจะเรียก นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ต้องเรียกว่าเป็น “ท่านรัฐบุรุษ สุริยะใส”
สำหรับ นายวีระ นั้น ถือเป็นผู้ที่พูดจาไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงมาหลายครั้งแล้ว โดยในอดีตเคยต้องคดีจำคุก เนื่องจากคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ขณะที่ล่าสุด นายวีระ ก็ยังมีคดีหมิ่นฯ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของตำรวจอยู่ด้วย จากกรณีกล่าวปราศรัยที่ท้องสนามหลวง
อย่างไรก็ตาม นายนิธิ รวมถึงพิธีกรรายการดังกล่าวไม่ได้พูดเลยว่า การชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ก็เพื่อขับไล่รัฐบาลและบุคคลใน ครม.ที่ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ รวมถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม-จริยธรรมอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสังคมของนายนิธิก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากการ “ปฏิรูปทางการเมือง” อันเป็นสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ กำลังเรียกร้องอยู่
อ่านบทความ : “ปฏิรูปสังคม” โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์