อดีตรองนายกฯ “ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม” แนะ ว่าที่นายก “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ควรหาคนนอกที่มีความสามารถมาร่วมเป็นรัฐมนตรี เพื่อป้องกันข้อครหา จัด ครม.ตามโควตา ผลประโยชน์ของพรรค ดักคอ อย่าหาเรื่องแก้ รธน.เพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง หากคิดจะแก้ ต้องแก้เพื่อสร้างกติกาทางการเมืองให้ดีขึ้นเท่านั้น
วันนี้ (17 ก.ย.) นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ ถามจริง-ตอบตรง ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายจอม เพชรประดับ ถึงแสดงทัศนะที่มีต่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า ตนคิดว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ ก็ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองทั้งนั้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ตนคิดว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีของ นายสมชาย ก็ดูจะมีแนวโน้มที่ดีที่จะสามารถแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองได้มากกว่าสมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความที่ นายสมชาย มีบุคลิกที่รอมชอม ไม่แข็งกร้าว การทำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ น่าจะสามารถทำได้ดี
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า สิ่งแรกที่รัฐบาลโดยการนำของ นายสมชาย ควรทำ ก็คือ แก้ปัญหาความแตกแยกในสังคม และจัดการเรื่องกติกาทางการเมืองที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องของการแก้ไข รธน.นั้น ตนคิดว่า หากเป็นการแก้เพื่อปรับปรุงให้กติกาทางการเมืองดีขึ้น โดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ก็คงถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะขณะนี้ก็เห็นอยู่แล้วว่า หลายฝ่าย เช่น กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังต้องการเรียกร้องให้เกิดกติกาใหม่ขึ้นในสังคม ซึ่งหากเรื่องนี้สามารถทำความเข้าใจจนลงตัว แล้วแก้ รธน.ไปตามวัตถุประสงค์นั้น ได้ก็จะถือเป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่หากเป็นการตั้งโดยการตั้งธงไว้แล้ว ว่า แก้เพื่อผลประโยชน์ของคนเพียงกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด อย่างนั้นก็คงไม่เป็นผลดี และไม่ควรจะแก้
สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้นั้น ตนคิดว่า หลักทั่วไปก็คือ ให้หลายๆ ฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องการเมือง ทั้งฝ่ายค้าน วุฒิสภา รวมไปถึงฝ่ายต่างๆ ของสังคม เช่น พันธมิตรฯ มารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือกัน ทางออกในสังคมก็น่าจะเป็นไปได้ง่ายขึ้น ส่วนการที่ นายสมชาย จะเดินไปจับเข่าคุย เพื่อตกลงกับแกนนำพันธมิตรฯ ในตอนนี้ ตนเชื่อว่า จะเร็วเกินไป เพราะการเข้าไปพูดคุยกันนั้น เป็นเรื่องที่จะต้องใช้ศิลปะ และความพยายาม ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงในเรื่องของการจัดสรรโควตารัฐมนตรี เพราะสิ่งนี้จะเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะทำให้คนมองว่ารัฐบาล ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แต่ยังคงคิดถึงเรื่องของโควตา เรื่องของผลประโยชน์ภายในคณะรัฐบาล ดังนั้น ตนมองว่า หากรัฐบาลนายสมชาย จะนำคนนอกที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นรัฐมนตรี คงจะช่วยได้เยอะ เพราะจะเป็นสิ่งที่แสดงให้ประชาชนได้เห็นว่า รัฐบาลคำนึงของผลประโยชน์ของประเทศ มากกว่าที่จะคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของพรรคพวกเดียวกันเอง แต่หากจะนำคนที่อยู่ในพรรคมาเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ เพื่อให้คนยอมรับได้
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สถานการณ์ในวันนี้ จากภาพการจับมือระหว่างนายสมชาย และพรรคฝ่ายค้าน รวมไปถึงภาพรวมขององค์กรต่างๆ ในภาคสังคมที่ต่างมีทัศนะในแง่บวกต่อตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ถือเป็นแนวโน้มที่ดีแล้ว ที่ภาคสังคม และฝ่ายค้านเหมือนจะถอยมาหนึ่งก้าวแล้ว ซึ่งต่อไปก็ต้องดูว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะว่าอย่างไร
ส่วนเรื่องที่ นายสมชาย มีความสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น มองว่า ถึงแม้สิ่งนี้จะถือเป็นจุดอ่อนที่ นายสมชาย มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ผลงาน และความตั้งใจทำงาน ของนายสมชาย จะสามารถเป็นสิ่งที่ลบล้างจุดอ่อนตรงนี้ได้ ซึ่งก็คงต้องรอดูกันต่อไป
