นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกรกฎาคม 2552 ว่า ดัชนีทุกรายการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับขึ้นจาก 65.4 มาอยู่ที่ 66.3 เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากรัฐสภาเห็นชอบ พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.กู้เงิน 800,000 ล้านบาท ให้รัฐบาลมีเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ประกอบกับการต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน 5 มาตรการของรัฐบาลจนถึงเดือนธันวาคมนี้ ส่งผลบวกทางจิตวิทยาให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังต่ำกว่าระดับ 100 แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มั่นใจและยังมีความกังวลต่อการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางการเมือง การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น รัฐบาลควรดำเนินการเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้วยการเริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนไทยเข้มแข็งให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเดือนกันยายนนี้ เพื่อกระตุ้นการจ้างงานและดูแลพลังงานไม่ให้สูงเกินไป เช่น การลดเงินจัดเก็บกองทุนน้ำมันดีเซล 2 บาท ดูแลเสถียรภาพทางการเมืองให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากรัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณและเร่งแผนไทยเข้มแข็งให้เกิดขึ้นรวดเร็วจะทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 กลับมาเป็นบวกร้อยละ 1-2 ขณะที่จีดีพีปีนี้ยังติดลบร้อยละ 3.5
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับขึ้นจาก 65.4 มาอยู่ที่ 66.3 เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากรัฐสภาเห็นชอบ พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.กู้เงิน 800,000 ล้านบาท ให้รัฐบาลมีเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ประกอบกับการต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน 5 มาตรการของรัฐบาลจนถึงเดือนธันวาคมนี้ ส่งผลบวกทางจิตวิทยาให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังต่ำกว่าระดับ 100 แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มั่นใจและยังมีความกังวลต่อการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางการเมือง การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น รัฐบาลควรดำเนินการเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้วยการเริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนไทยเข้มแข็งให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเดือนกันยายนนี้ เพื่อกระตุ้นการจ้างงานและดูแลพลังงานไม่ให้สูงเกินไป เช่น การลดเงินจัดเก็บกองทุนน้ำมันดีเซล 2 บาท ดูแลเสถียรภาพทางการเมืองให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากรัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณและเร่งแผนไทยเข้มแข็งให้เกิดขึ้นรวดเร็วจะทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 กลับมาเป็นบวกร้อยละ 1-2 ขณะที่จีดีพีปีนี้ยังติดลบร้อยละ 3.5
