xs
xsm
sm
md
lg

“นิด้า” ขีดเส้น 4 เดือน “สมชาย” พังครืน!! หนีไม่พ้นยุบสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์
นักวิชาการ ชี้ 6 พรรคร่วมหาญกล้าฝ่ากระแสตั้ง “สมชาย” นั่งนายกฯ เชื่ออยู่ไม่เกิน 4 เกิน เหตุเจอแรงกดดันทั้งนอกและใน สุดท้ายหนีไม่พ้นยุบสภา แนะตั้งคกก.ปฏิรูปการเมือง วอนอย่าแก้ รธน.ช่วยเหลือเครือญาติ

วันนี้ (17 ก.ย.) ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อธิการบดีสาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงกรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีว่า แสดงให้เห็นว่า 6 พรรคร่วมรัฐบาลประกาศและลงมติที่จะให้พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลไม่เลือกที่จะมีรัฐบาลแห่งชาติตามที่หลายฝ่ายเสนอ ซึ่งเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าจะไม่เป็นการซ้ำเติมหรือก่อสร้างเงื่อนไขปัญหา ที่สำคัญต้องฟื้นฟูกอบกู้ความเป็นเอกภาพ สมานฉันท์ สงบเรียบร้อยของผู้คนในชาติ ซึ่งพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ก็ถือว่าล้มเหลว ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลใหม่จะต้องละเว้นคือไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นเงื่อนไขสู่การขัดแย้งทางการมือง เช่น การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดำเนินการต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อนักการเมือง ที่สำคัญต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือแสดงให้เห็นว่าเป็นการช่วยเหลือในทางคดีแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“ต้องทุ่มเทให้กับการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ปากท้องของชาวบ้านซึ่งประชาชนกำลังประสบกันอยู่ในขณะนี้ และสิ่งนี้เป็นเงื่อนไขหนึ่งในหลายเงื่อนไขที่จะสร้างเสถียรภาพหรือความเสียหายให้แก่รัฐบาล เพราะหากมัวแต่หมกมุ่นผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างเดียวจะเกิดการลุกฮือของประชาชนขึ้นมา และคุณสมชายซึ่งเป็นคนประณีประนอมไม่ใช่เผชิญหน้า ไม่สามารถทนแรงเสียดทาน ความกดดันทางการเมืองได้ อาจตัดสินใจยุบสภาและลาออกไปเลย” ศ.ดร.สมบัติ กล่าว

ศ.ดร.สมบัติ กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นยังคงดำเนินการต่อไป เนื่องจากขณะนี้พวกเขายังไม่มีหลักประกันอะไรที่เป็นเงื่อนไขการยุติการชุมนุม ซึ่งการชุมนุมก็สามารถดำเนินการต่อไปได้หากเป็นไปโดยสงบ สันติ ทั้งนี้ก็เห็นสมควรที่จะต้องให้เวลาพิสูจน์การทำงานของรัฐบาลด้วย

ผศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมฯนิด้า กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งทางด้านการเมืองยังไม่จบสิ้น เนื่องจากโครงสร้างปัญหายังคงเป็นแบบเดิม กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายนั้นก็ยังไม่จบสิ้น เพียงแต่ในขณะนี้นั้นหลายคนยังอยู่ในช่วงโล่งอกที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีไม่กลับมา แต่เมื่อตั้งตัวได้ การทำตัวของรัฐมนตรีและ ส.ส.ยังคงเป็นแบบเดิม ก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งนอกจากปัญหาผู้ชุมนุมกดดันแล้วนายสมชาย ยังต้องเผชิญกับปัญหาความแตกแยกต่อรองผลประโยชน์ภายในพรรคพลังประชาชน พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งหากนายสมชายไม่สามารถต้านทานจัดการปัญหาไม่ได้ก็ต้องหาทางออกโดยการยุบสภา ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะระบบการเลือกตั้งยังเป็นระบบตัวแทนปัญหาเหล่านี้ก็จะกลับมาอีกเป็นลักษณะวิวัฒน์เวียนวน

“จริงอยู่ นายสมชายไม่ก้าวร้าว ไม่อล่างฉ่าง แต่ในสถานการณ์การเมืองที่รุนแรง ดุเดือด ประกอบกับปัญหาภายในพรรค และที่สำคัญพรรคพลังประชาชนกำลังโดนศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ขึ้นอยู่ว่าจะช้าหรือเร็วเพียงใด คงอยู่ไม่ครบเทอมแน่นอน ผมคิดว่าอยู่ได้ไม่เกิน 3-4 เดือนเท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องทำนั้นควรตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิรูปการเมือง โดยดึงทุกฝ่ายให้เข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจะยุติและเกิดประโยชน์ในระยะยาวได้” ผศ.ดร.พิชาย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น