“ชวน” ชี้นายกฯ นอมินีแม้ว การเมืองตึงเครียดระลอกใหม่

ปธ.สภาที่ปรึกษา ปชป.ระบุการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีผลต่อผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อ นปช.เตรียมเคลื่อนไหว 19 ก.ย.ไม่น่าห่วง ชี้ “สมชาย” นั่งนายกฯ นอมินอมินีแม้วจะต้องถูกตรวจสอบอย่างหนัก ไม่เห็นด้วยเร่งรีบจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

วันนี้ (15 ก.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระแสข่าวที่พรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะจะสามารถแก้วิกฤตของประเทศได้ ว่า ยังไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ว่านายสมชาย จะแก้วิกฤตของประเทศได้หรือไม่ เนื่องจากจะต้องรอดูวันที่ 17 ก.ย.นี้ก่อน ว่าพรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ที่สำคัญจะต้องดูว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะสามารถคลี่คลายปัญหาและเงื่อนไขที่มาจากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้หรือไม่ ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลใหม่มีความชัดเจนในการทำงานก่อนจึงจะวิจารณ์ได้

ส่วนที่มองว่านายสมชาย เคยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่มาจากการแต่งตั้งของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นคนใต้ด้วย จะสามารถทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ง่ายนั้น นายชวน กล่าวว่า จะเป็นคนภาคเหนือหรือภาคใต้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ คนภาคไหนเป็นนายกฯ ก็ทำงานได้เหมือนกัน และสาเหตุที่รัฐบาลประชาธิปัตย์แต่งตั้งนายสมชาย เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ก็เพราะเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ต้องแยกแยะระหว่างข้าราชการประจำกับนักการเมืองออกจากกัน และการแต่งตั้งนายสมชายเป็นปลัดกระทรวง ก็เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่เคยมีการเลือกปฏิบัติ ว่าใครจะเป็นพี่เขยหรือน้องเขยของหัวหน้าพรรคการเมืองอื่น ก็สามารถเข้ามาทำงานได้หากมีความเหมาะสม แต่เมื่อผ่านยุคของพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้วสิ่งเหล่านี้ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะปัจจุบันการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการถูกนำมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่า นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ออกมาสนับสนุนนายสมชายเป็นนายกฯ เพราะเห็นว่าสามารถทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ จึงอยากให้ชวนพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลเป็นรัฐบาลแห่งชาติ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองอย่างนั้น ไม่ใช่นายสมชายเข้ากับพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ แต่พรรคจะปฏิบัติกับบุคคลที่เข้ามาบริหารงานโดยไม่คำนึงถึงว่าบุคคลนั้นมาจากพื้นที่ใด เมื่อนายสมชายมาเป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านตรวจสอบให้ถึงที่สุด และไม่ว่าจะใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่ไม่แตกต่างกัน

“ถ้านายสมชายเป็นคนดี และไม่เป็นเครื่องของระบอบที่ไม่ดี ก็สามารถคุยได้ และแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ ที่บางคนเสนอ ต้องเป็นเงื่อนไขพิเศษ หลายฝ่ายต้องมีความเห็นที่สอดคล้องกัน เพราะประชาธิปไตย จะหลีกเลี่ยงการตรวจสอบไม่ได้ และอย่าไว้วางใจตัวบุคคลมากเกินไป จะทำให้ประเทศชาติมีปัญหา ผมเคยคุยกับอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ) เรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งท่านก็ชี้แจงว่าเป็นเรื่องของเงื่อนไขเวลาและภารกิจที่จะต้องนำมาประกอบว่าต้องทำอะไรบ้างให้ฝ่าฟันวิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไปให้ได้ แต่หากส่วนใหญ่เห็นว่ายังไม่วิกฤตก็ยังไม่จำเป็นต้องถึงขนาดนั้น อีกทั้งรัฐบาลแห่งชาติก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ฝ่ายการเมืองแต่ละฝ่ายก็ต้องการมีอำนาจในการเป็นรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ก็อยากเป็นรัฐบาล แต่ต้องเป็นภายใต้เงื่อนไขที่ถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่อะไรก็ได้ที่ต้องเป็นรัฐบาล” นายชวนกล่าว

ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาหนุนนายสมชายเป็นนายกฯ นั้น ต้องดูข้อเท็จจริงประกอบ ว่านายสุเทพออกมาให้ความเห็นในลักษณะตอบคำถามว่า 3 ส. ใครเหมาะสมเป็นนายกฯ ที่สุด ดังนั้นสิ่งที่นายสุเทพพูดจึงไม่ใช่เป็นการเชียร์แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น สำหรับตน คงจะมองเฉพาะ 3 ส. แล้วปิดกั้นคนอื่นไม่ได้ โดยส่วนตัวเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เหมาะสมเป็นนายกฯ ที่สุด