รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน “นพ.แวมาฮะดี แวดาโอะ” แจงเหตุ ส.ส.เพื่อแผ่นดิน ไม่ร่วมประชุมสภา เพราะต้องการแสดงอารยะขัดขืนทางรัฐสภาต่อ “หมัก” ที่หมดความชอบธรรมเป็นนายกแล้ว แต่ยังดื้อแพ่งอยากรับตำแหน่ง – ส.ส. ประชาธิปัตย์ “สิริโชค โสภา” แจง พรรคไม่ได้ฉวยโอกาสให้ “มารค์” เป็นนายก แต่ทำเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบประชุมเท่านั้น
วันนี้ (12 ก.ย) นพ.แวมาฮะดี แวดาโอะ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ในรายการ คมชัดลึก ทางสถานีโทรทัศน์ เนชั่นแชลแนล ถึงสาเหตุที่ ส.ส.ในพรรคเพื่อแผ่นดินไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภาวันนี้ว่าเป็นเพราะ เราต้องการส่งสัญญาณบอกกับนายสมัครว่า นายสมัคร ไม่มีความสง่างามที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้ ส.ส.ทั้งพรรคพลังประชาชนเอง และพรรคร่วมรัฐบาลจะพยายามบอกนายสมัครมาหลายครั้งแล้วแต่นายสมัครก็ไม่รับฟัง ดังนั้น ส.ส.ทั้งหลายที่ไม่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ก็เพื่อต้องการแสดงอารยะขัดขืน ทางสภาให้นายสมัครเห็นนั่นเอง
นพ.แวมาฮะดี กล่าวด้วยว่าโดยส่วนตัวแล้ว ตนมองว่าการโหวตเลือก นายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ประธานสภา เร่งรีบในการเลือกตัวนายกมากจนเกินไป ทั้งที่การเลือกนายกครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะหหากเลือกคนที่ไม่เหมาะสมอย่างนายสมัคร กลับมาเป็นนายก จะยิ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองรุนแรงมากขึ้น และ ถึงแม้จะมีการเลือกคนอื่นของพรรคพลังประชาชนเป็นนายก แทนนายสมัคร ปัญหาจะไม่จบเพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังไม่เลิกชุมนุม แต่ตนก็เชื่อว่าความชอบธรรมในการชุมนุมอาจจะไม่มีมากเท่ากับ การให้นายสมัคร และแนวทางในการคลี่คลายความขัดแย้งน่าจะมีมากกว่า การที่ให้นายสมัคร กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ช่วงค่ำที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า นายสมัคร บอกว่าจะถอนตัวออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ตนถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะคงเป็นแนวโน้มที่ดี ที่จะทำให้ปัญหาทางการเมืองคลี่คลายไปได้ ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินตนก็ต้องขอบอกว่า เรายังยินดีสนับสนุนให้พรรคพลังประชาชน เป็นผู้เสนอเลือกตัวนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ดังนั้นพรรคพลังประชาชน จึงไม่ต้องใจร้อนในการเลือกคนมาเป็นนายก แต่ควรคิดพิจารณาให้ดี ว่าจะหาคนใดมาเป็นผู้นำบริหารบ้านเมืองแล้ว จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ได้ อย่าเอาประเทศชาติมาเป็นตัวประกัน โดยการคิดแต่ว่าจะชนกับกลุ่มพันธมิตรฯ โดยไม่ลดราวาศอกอย่างที่ อย่างที่นายสมัคร เคยปฎิบัติ
ด้านนายสิริโชค โสภา โฆษกคณะรัฐมนตรี (เงา) พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่าในครั้งแรกทาง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนใหญ่ก็ไม่อยากเข้าประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ เพราะหลังจากได้ทราบข่าวว่า พรรคพลังประชาชน จะเสนอชื่อนายสมัคร เป็นนายก เราจึงไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับนายสมัคร แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจเข้าร่วมประชุม ด้วยหน้าที่ ส.ส.ที่ต้องทำไปตามระบอบรัฐสภา ดังนั้นการที่พรรคเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เป็นนายก ก็ไม่ได้เป็นการฉวยโอกาสอยากเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นเพราะเราทำไปตามระเบียบการประชุมเท่านั้น
นายสิริโชค กล่าวต่อไปว่า โดยส่วนตัวแล้วตนเชื่อว่าเมื่อนายสมัคร ไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็น่าจะสามารถทำให้ปัญหา มีแนวทางคลี่คลายได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็อาจจะแก้ไม่ได้หมดอยู่ดี เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ก็คงยังไม่พอใจ ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้มีรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลแห่งชาตินั้นตามแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์ก็คือ การที่อยากให้คนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร และคลี่คลายบ้านเมือง เช่น รัฐมนตรีอาจจะเป็นคนนอกที่มีความสามารถ แต่ตัวนายกต้องเป็น ส.ส. ตามระเบียน รธน. เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กันอย่างแท้จริง
ต่อคำถามว่า รู้สึกอย่างไรกับข่าวว่านายสมัคร จะลาออกจากห้วหน้าพรรคพลังประชาชน นายสิริโชค กล่าวว่า ตนอยากให้นายสมัคร ออกมากล่าวอย่างชัดเจน ว่าจะลาออกแล้วจริงหรือไม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ยังเป็นเพียงกระแสข่าว แต่ยังไม่มีการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการจากตัวนายสมัคร ตนจึงหวั่นว่าอาจจะยังเชื่อถือไม่ได้
นายสิริโชคกล่าวด้วยว่า สำหรับทางออกในวันนี้ ตนคิดว่าให้ทุกฝ่ายควรมานั่งคุยกันว่าควรจะทำอย่างไร โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชนเองก็ควรหาทางออกในเรื่องนี้ ไม่ใช่ยึดติดกับตำแหน่งและตนเชื่อว่าหากพรรคพลังประชาชน สลัดภาพว่ามี พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังได้ ปัญหาที่เป็นอยู่ก็น่าจะมีแนวโน้มที่จะคลี่คลายได้ แต่ไม่ใช่เวลามีเหตุการณ์อะไร ทั้งจัดสรรโควต้ารัฐมนตรี หรือเลือกนายก ก็ต้องมีแต่ละกลุ่มออกมาว่า ต่อสายคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าพรรคพลังประชาชนจะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร เพราะในเมื่อปฏิเสธว่าไม่ใช่นอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วจะต้องต่อสายคุยกันทำไม หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บอกว่าเลิกยุ่งการเมืองแล้ว ยังจะต่อสายมาคุยเรื่องการเมืองทำไมอีก