ส.ส.พลังประชาชน “สุทิน คลังแสง” แจง ผู้ใหญ่ในพรรคคุยกับ “หมัก” แล้ว ยัน หากที่ประชุมสภายังสนับสนุน ก็พร้อมกลับมาเป็นนายกฯรอบสอง เมินข้อเสนอเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ อ้าง แนวทางต่างกัน อยู่ร่วมกันไม่ได้ - นักวิชาการศูนย์พัฒนาสันติฯ “โคทม อารียา” เชื่อ หากเลือก “หมัก” กลับมาเป็นนายกฯ บ้านเมืองวุ่นกว่านี้แน่ แนะ “พลังแม้ว” คิดให้รอบคอบก่อนหาคนมาดำรงตำแหน่งสำคัญ
วันนี้ (10 ก.ย.) นายสุทิน คลังแสง กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ในรายการ ถามจริง-ตอบตรง ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ถึงกรณีความคืบหน้าการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า ขณะนี้ที่ประชุมส่วนใหญ่ในพรรคได้มีมติเบื้องต้น ว่า ควรสนับสนุนให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งทางผู้ใหญ่ในพรรคก็ได้มีพูดคุยกับนายสมัคร ในเบื้องต้นแล้ว โดย นายสมัคร ก็กล่าวว่า หากทางสภาสนับสนุนให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ตนก็พร้อมที่จะกลับมาแน่นอน
ผู้ดำเนินรายการถามว่า เกรงหรือไม่ว่า การให้ นายสมัคร กลับมาเป็นนายกฯจะต้องเจอกับวิบากกรรมต่างๆ อีกมาก เช่น คดีความในเรื่องหมิ่นประมาทที่จะตัดสินในวันที่ 25 ก.ย.นี้ หากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ว่า นายสมัคร มีความผิดในฐานหมิ่นประมาทอดีตรองผู้ว่าฯ กทม.จริง นายสมัคร ก็ต้องออกจากตำแหน่งอีก นายสุทิน กล่าวว่า ตนก็เชื่อว่า สถานการณ์วันนี้ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีวิบากกรรมกันทุกคน เช่น หากเสนอ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมช.คลัง เป็นนายกรัฐมนตรี นพ.สุรพงษ์ ก็อาจต้องเจอวิบากกรรมในเรื่องคดีหวยบนดินอยู่ดี หรือแม้แต่หาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นมาเป็นนายกฯจริง ก็อาจถูกคนกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนรัฐบาลนายสมัคร ใช้วิธีขับไล่ เช่นเดียวกับที่กลุ่มพันธมิตรฯ ขับไล่รัฐบาลอยู่ในขณะนี้ก็เป็นได้
ต่อคำถามว่า เหตุใดมติของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ขณะนี้ จึงมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยที่จะให้นายสมัคร กลับมาดำรงตำแหน่ง นายสุทิน กล่าวว่า ไม่แปลก เพราะพรรคพลังประชาชน เป็นพรรคใหญ่ก็ย่อมมีความคิดแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ตนก็เชื่อว่า ที่ประชุมในพรรคจะสามารถพูดคุยกันด้วยเหตุและผลจนเข้าใจกันได้ แต่ทั้งนี้ ทุกคนในพรรคก็จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกและความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ โดยที่จะไม่เลือกฟังเฉพาะเสียงของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เช่น เสียงของกลุ่มพันธมิตรฯ และเท่าที่ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ทราบในขณะนี้ ก็คือ ประชาชนส่วนใหญ่ยังสนับสนุนให้ นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีอีก
ส่วนกรณีที่ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เสนอแนวทางให้พรรคพลังประชาชน จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น แท้จริงแล้วพรรคพลังประชาชนก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธใคร สามารถรับได้ทุกคน ทุกฝ่าย แต่สำหรับเรื่องนี้คงเป็นไปได้ยาก เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยบอกเองว่า แนวทางของพรรค แตกต่างกับแนวทางของพรรคพลังประชาชน เรื่องดังกล่าวจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ ดังนั้น แนวทางแก้ไขในวันนี้ควรมองถึงแนวทางที่มีความเป็นไปได้มากกว่า
นายสุทิน กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ ส.ส.ในพรรค ยังยืนยันที่จะเลือก นายสมัคร เป็นนายกฯอีกครั้ง ก็เพราะความผิดที่ทำให้ นายสมัคร พ้นจากตำแหน่ง เป็นเพียงความผิดเล็กน้อย ยิ่งกว่าความผิดลหุโทษ นายสมัคร จึงยังมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ อีกทั้งนายสมัคร ยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนมาแต่แรก รวมถึงยังมีความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับทหาร ซึ่งก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า อำนาจการเมืองและอำนาจทางการทหาร จะต้องพึ่งพิงกันและกัน ดังนั้น ความคิดของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนในวันนี้ จึงมองว่า นายสมัคร เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
ด้าน นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ตนเชื่อว่า หาก นายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีจริง สถานการณ์คงจะตึงเครียดมากกว่านี้ ตนจึงอยากจะเตือนพรรคพลังประชาชน ว่า ควรจะฟังเสียง และคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนให้มากๆ ควรคิดพิจารณาให้ดีก่อน ไม่ควรที่จะรีบร้อน เพราะหากได้บุคคลที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ประเทศก็จะมีปัญหาความขัดแย้งเพิ่มขึ้นมาอีก ดังนั้น พรรคพลังประชาชน ควรหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ เช่น อาจจะมีการสำรวจความคิดเห็น (โพล) สอบถามความคิดเห็นของประชาชนจากทั่วประเทศ เพื่อนำมาเป็นแนวทาง ว่าควรจะเลือกใครมาดำรงตำแหน่งอันสำคัญนี้
