“สมศักดิ์” หยันคอลัมนิสต์ไร้สมองรับใช้ “แม้ว” บ่อนทำลายพันธมิตรฯ กล่าวหากลัว ปชต. สวนกลับ พปช.ต่างหากไม่เป็นประชาธิปไตยเพราะโดน กกต.ลงมติยุบพรรคฐานซื้อเสียงไปแล้ว แฉสารพัดวิชามารใส่ไฟพันธมิตรฯ บิดเบือนประเด็น “การเมืองใหม่” ปลุก ปชช.งดเสียภาษีช่วงกลางเดือนและปลายเดือนนี้ ต้านรัฐบาลโกงนำเงินไปถลุงเล่น
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 7 ก.ย. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล กล่าวถึง หนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่นำเสนอข่าวว่า พายุฝนทำพิษม็อบป่วย แต่เราป่วยจนงอมแงมไม่มีแรงจริงหรือเปล่า ที่จริงการป่วยเป็นเรื่องธรรมดา คนมาเป็นแสน แต่ป่วย 100-200 คน มันเรื่องธรรมดา แต่เขาชอบเสนอข่าวทำนองว่าเราไม่ไหวแล้ว รวมทั้งอ้างว่าตอนฝนตหหนัก ที่หน้าเวทีมีคนเพียง 100 คน ขณะเดียวกันในหน้าการเมืองยังรายงานอ้างว่า แกนนำ 5 คน เอาพี่น้องเป็นบังเกอร์ ขี้ขลาดตาขาว ที่จริงคนเขียนขี้ขลาดตาขาวมากกว่าที่ไม่กล้าบอกว่าเป็นใครเขียน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ 5 คนไม่ไปมอบตัวก็เพราะต้องการร่วมต่อสู้กับผู้ชุมนุม เพื่อชัยชนะร่วมกัน เราไม่เคยกลัวนักการเมืองชั่ว เลว คนที่รับจ้างเขียนไม่มีความหมายกับเรา จะรวยล้นฟ้าเราไม่เคยให้เกียรติ เพราะรวยแต่ชั่วบิดเบือนความจริง และการรายงายข่าวก็ตรงกับ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.ที่รายงานต่อนายสมัคร สุนทรเวช ว่าพวกเรามีอยู่น้อย ประมาณ 1 พันคน จะสลายการชุมนุม เตรียมจะเข้ามาบุก แต่บังเอิญเราอยู่กันเยอะจึงทำอะไรไมได้ จึงเป็นแค่รายงานเท็จเพื่อให้มาบุกพวกเรา
นอกจากนี้ นายสมัครยังไปพูดในรายการวันอาทิตย์ หาว่าพวกเรากันคนไม่ให้ออก มีแต่ให้เข้ามา พูดเหมือนคนบ้า พี่น้องก็เห็นว่าเราได้ตรวจอาวุธคนที่เข้ามาให้ดี เพราะมีสันติบาลมี นปก.แอบแฝงเข้ามา เราตามจับได้ทุกคืน ซึ่งสันติบาลพวกนี้มาหาข่าวเพื่อให้คนเข้ามาตีประชน พวกนี้ไม่ควรเรียกว่าสันติบาล
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการไปสร้างสถานการณ์ที่ภูเก็ต ลูกน้องนายเนวิน คือนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ไปเอารถ บขส.มา 6 คัน มาโฆษณารับคนกลับภูเก็ต อ้างว่าไม่พอใจการประชุมให้กลับบ้าน คนเขาก็ไม่รู้ พอตนรู้ทันก็บอกชาวภูเก็ต เขาก็ลงมาหมดเลย เหลือแต่รถ 6 คัน ไม่มีคน
“พี่น้องครับ วันนี้มันใช้เงินเยอะ ซื้อคนโน้นซื้อคนนี้ แต่คนขายตัวมีไม่มากหรอก เครือข่ายพันธมิตรฯ ไม่ขายตัว ดังนั้น นี่คือวิชามารขั้นสุดท้าย หลังจากนี้ไม่รู้จะเอาอะไรมาพูดแล้ว ดูสมัครพูดสิ เอาการเมือง 70-30 ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่สุริยะใสเอามาพูดเพื่อให้คนคิดว่า เอาอย่างนี้มันจะดีไหม โดยเอามาจากการสรรหา ส.ว.ในปัจจุบัน ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มี ไม่ใช่เอา 70-30 นั่นเป็นการขุดเอาคำพูดเมื่อเดือนที่แล้ว เขาหมดอาวุธแล้วพี่น้อง กำลังรอความตายอย่างเดียว”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้มีการใช้วิชามารที่ใช้ตำรวจตระเวนชายแดนสกัดกั้นการมาชุมนุมของประชาชนที่จะเดินทางมาชุมนุม โดยอ้างการประกาศภาวะฉุกเฉิน มาเกิน 5 คนไมได้ คนที่ใจไม่ถึงไม่แน่วแน่ก็สับสน ทั้งที่มันไม่ใช่ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นแค่ประกาศภาวะฉุกละหุก เพราะรัฐบาลที่ทำผิดรัฐธรรมนูญประกาศไม่มีความหมาย
รัฐบาลในขณะนี้กำลังหาเรื่องที่จะกล่าวหาพันธมิตรฯ อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งเรื่องของการกล่าวหาพันธมิตรว่ามีการสะสมอาวุธไว้ในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเราก็สะสมอาวุธทั้งหนักทั้งเบา ไว้ในห้องส้วมที่เสียค่าเช่าวันละ 35,000 บาท อย่างไรก็ตาม อาวุธจริงๆ ที่พันธมิตรสะสมมาตลอดคืออาวุธทางปัญญา
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ตำหนิมหาวิทยาลัยศรปถทม ที่มห่ให้นักศึกษามาร่วมชุมนุมว่า ความจริงนายสนธิตำหนิเฉพาะอธิการบดี ไม่ได้ว่าถึงตัวนักศึกษา เพราะขณะนี้มีนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุมที่กล้าหาญมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรหลายร้อยและอาจจะถึงพันคน อย่างไรก็ตาม หากอธิการบดีผู้นี้ออกไป มหาลัยจะเจริญขึ้นกว่านี้
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการเดินทางไปประชุมที่สหประชาชาติของนายสมัครว่า ไม่รู้ว่าจะได้เดินทางกลับมารึปล่าว โดยนายสมัครนั้นเป็นนายกฯ ที่หมดความชอบธรรมไปนานแล้ว เพราะไม่มีที่ทำงาน และไม่สามารถสั่งใครได้ และขอชื่นชมลูกหลานที่ไม่เรียนหนังสือในวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งหลังจากนั้นครูก็จะออกมาและข้าราชการส่วนอื่นๆ จะออกมาตาม
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้ไม่ปฏิบัติตามที่ถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นรัฐบาลเถื่อนมาตั้งแต่ต้น รัฐบาลพยายามที่จะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหากรัฐบาลนี้อยู่ต่อไปประช่าชนจะยากจนลงมากกว่านี้ และมีแต่หนี้สิน รัฐบาลนี้ไม่ได้เดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง คิดแต่จะทำเมกะโปรเจกต์ เช่น จะสร้างรัฐสภาใช้เงิน 3 หมื่นล้าน ทั้งที่ยังไม่จำเป็น จะทำประชามติ เอาเงินอีก 3-4 พันล้านเพื่อที่จะถามว่าจะเลือกข้างใครระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตรฯ ซึ่งมันทำไม่ได้ ตามรัฐธรรมนูญ เพราะเกี่ยวกับบุคล ไม่เกี่ยวกับการบริหารประเทศ ก็ยังพยายามที่จะทำ แล้วสื่อที่รับใช้ระบอบทักษิณก็ยังเขียนไปหาว่าเรากลัวประชาธิปไตย ทั้งที่พรรคพลังประชาชนถูก กกต.มีมติยุบไปแล้ว อย่างนี้เป็นประชาธิปไตยหรือ ประชาธิปไตยต้องไม่ซื้อเสียง พรรคพลังประชาชนถูกยุบเพราะซื้อเสียง แล้วคำพิพากษาของศาลก็พูดชัดเจนว่าพรรคนี้ไม่ได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและละเมิดสิทธิมนุษยชน ไมได้ทำเพื่อประเทศชาติ จึงให้ยุบพรรคไทยรักไทย แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณก็มาตั้งพรรคพลังประชาชน ก็ถูก กกต.ยุบอีก
นักการเมืองพวกนี้เอาภาษีของพี่น้องประชาชนไปถลุงเล่นครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ตัวเองหลีกเลี่ยงภาษีตลอดแม้แต่หัวหน้าใหญ่ของตัวเองก็หลีกเลี่ยงภาษี คนพวกนี้หลอกประชาชน อ้างว่าตัวเองเป็นสื่อ แต่เป็นปิศาจที่เห็นแก่เศษเงิน ความรู้ไม่มีแต่มาวิเคราะห์การเมืองให้คนอ่าน แล้วคนไม่รู้เรื่องก็พลอยหลงเชื่อ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า พรรคพลังประชาชนกำลังจะถูกยุบอยู่แล้ว ยังจะมาทำประชามติ ถ้าทำแล้วพรรคถูกยุบเงินที่เสียไปเงินใคร ก็เงินเรา ที่เรามาขับไล่รัฐบาล เพราะไม่ต้องการให้ความเลวมันต่อยอดพอกพูนออกไปอีก เป็นห่วงประเทศชาติ เป็นห่วงคนรุ่นหลัง ถ้าปล่อยพวกนี้บริหารประเทศต่อไป สิ้นชาติแน่นอน ที่ดินก็จะตัดขาย เฒ่าสารพัดพิษ เตี้ยหมาตื่น พวกหลงจู๊ ไม่มีสำนึก ไม่ได้เป็นรัฐบาลก็อดอยากปากแห้ง ที่ร่ำรวยขึ้นมาก็เพราะทำธุรกิจการเมือง
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า วันที่ 15 ก.ย.นี้จะครบรอบการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภพ.30 พี่น้องที่จะไปเสียให้ขีดทุกช่องแล้วเซ็นชื่อ ไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐบาบโจร ให้มีรัฐบาลใหม่ การเมืองใหม่ค่อยเสียภาษี เราต้องทำให้ได้ สิ้นเดือนวันที่ 30 จะเสีย ภงด.34 คนที่รายได้ไม่ถึง ไม่เสียภาษีอยู่แล้ว ส่วนคนที่รายได้ถึงก็ขีดๆ แล้ว เซ็นชื่อ ไม่ต้องเสียภาษี
นายจ้าง สถานประกอบการที่หักเงินเดือน ณ ที่จ่ายไว้ ก็ไม่ต้องไปเสียภาษีให้รัฐบาลโจร ไม่เข่นนั้น มันจะเอาไปผลาญเล่น นี่เป้ฯวิธีการอารยะขัดขืนที่ทำกันในอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป สแกนดิเนเวีย และในอินเดีย เพราะเมื่อรัฐบาลไม่ชอบธรรม ไปเสียภาษีเหมือนเอาเงินไปให้โจร
ดังนั้น การเมืองใหม่พี่น้องจะต้องมีรายได้ค่าจ้างสูง พืชผลเกษตรกรราคาสูง ฝีมือแรงงานต้องสูง มีการกระจายรายได้ ทุกคนมีอำนาจซื้อ แล้วตลาดส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์อยู่ในประเทศ เอสเอ็มอีก็จะอยู่ได้ ที่เหลือส่งออก และใช้ระบบสหกรณ์ป้องกันการผูกขาดเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร สังคมไทยจะสันติสุข เราจะวัดกันด้วย GDH ด้วยความสุข ไม่ใช่จีดีพี รายได้ไม่เป็นธรรม ช่องว่างในสังคม เราไม่เอา ทุกคนต้องรายได้ดี อยู่ดีกินดี และเรียนฟรี เรื่องนี้ตนไปดูงานมา 20 ประเทศ ที่เขาทำ เด็กไม่ต้องแบกหนังสือไปโรงเรียน หนังสือ เครื่องเล่นกีฬา-คอมพิวเตอร์อยู่ที่โต๊ะหมด เดินไปเรียนอย่างเดียว เราจะทำอีก 10 กว่าปี และให้เด็กจบปริญญาตรีร้อยละ 50 เป็นอย่างน้อย
สินค้าเกษตรเป็นอุตสาหกรรมเราจะทำเอง ในการเพิ่มมูลค่า คนทุกคนทำเอง เพราะประเทศเราเป็นสุวรรณภูมิ บรรพบุรุษเรารักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ดีที่สุดในโลก แต่โชคไม่ดีที่เรามีนักการเมืองเลวต่อเนื่องยาวนาน สู้ครั้งนี้จึงต้องสู้ให้ถึงที่สุด ถ้าวิ่งพันเมตรก็เหลือไม่ถึง 100 เมตร ฉะนั้นต้องรักษาที่มั่นไว้ให้ได้อย่างเต็มที่ อย่าประมาท และเราต้องเหนื่อยไม่เป็น ให้มันรู้ว่าเราคนจริง ไม่กลัวความชั่วทั้งหลาย ลูกหลานเราก็มาเคียงข้าง ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบ