xs
xsm
sm
md
lg

"สมเกียรติ"อัดยับ"อธิการ"เชลียร์ รบ.หวังเศษซากงบประมาณ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
"สมเกียรติ" อัดยับ "อธิการ" ไร้ปัญญาหาทางออกให้นักศึกษา-คอยแต่เชลียร์ "รบ.โจร" หวังเพียงแค่เศษซากงบประมาณ ชี้ชัดเปรียบเสมือน "ผู้รับจ้างสอน" เข่นฆ่าประชาชน ตอกซ้ำกรรมตามทันตามคำ "หลวงตาบัว"

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วานนี้ (6 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวบนเวทีพันธมิตร ฯ บริเวณทำเนียบรัฐบาลว่า นับตั้งแต่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งแต่วันแรก จนมาจนถึงวันนี้ที่มีกลุ่มนิสิต นักศึกษาจำนวนมาก ซึ่งคงไม่ต่ำกว่า 40 สถาบันเข้ามาร่วมนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ระบบศึกษาของชาติถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะทำให้นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจต่อระบบการเมือง การปกครองของประเทศ

แต่ก็มีเรื่องที่น่าเสียใจอยู่ว่า กลุ่มอธิการบดีของสถาบันศึกษาส่วนใหญ่ของนักศึกษาเหล่านี้ กลับเป็นผู้เดินตามหลังนักศึกษา เพราะเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม อธิการกลุ่มนี้ไม่เคยเสนอทางออกให้กับสังคมเลย ตรงกันข้ามก็คอยแต่จะรวมกลุ่มกันสนับสนุนหรือทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อเอาใจรัฐบาลด้วยความหวังที่จะให้ได้งบประมาณจากรัฐบาลมาก ๆ โดยการออกแถลงการณ์ตำหนิกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาร่วมชุมนุมขับไล่กับกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้ตนมองว่า คนกลุ่มนี้ไม่ใช่เรือจ้าง ผู้รับจ้างสอนลูกศิษย์อีกแล้ว แต่กลายเป็น ผู้รับจ้างสอนในการเข่นฆ่าประชาชน

นายสมเกียรติกล่าวด้วยว่า มหาวิทยาลัยหนึ่งที่ตนอยากจะกล่าวถึงเป็นพิเศษ ก็คือมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ออกแถลงการณ์ตำหนิ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแม้ตนจะไม่เคยกล่าวถึงการกระทำของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เลย แต่วันนี้คงต้องกล่าวถึงเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ ความเป็นจริงของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และตนจะรอดูว่ากลุ่มนักวิชาการของมหาวิทยาลัยดังกล่าวจะออกมาตอบโต้ตนว่าอย่างไรบ้าง

นอกจากนี้ตนยังอยากให้ประชาชน ร่วมกันจับตาดูองค์กรครู ด้วยว่าจะมีการดำเนินการคล้ายคลึงกับกลุ่มของอธิการบดีหรือไม่ เพราะตนได้ทราบข่าวมาว่า ขณะนี้เริ่มมีครูกลุ่มหนึ่งในครุสภา เริ่มมีการ ร่วมมือกับนายเนวิน ชิดชอบ เพื่อดำเนินการขัดขวางการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ แล้ว

นายสมเกียรติกล่าวต่อไปว่า เรื่องสำคัญอีกอย่างที่ตนต้องกล่าวก็คือ เรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ขณะนี้ ตกอยู่ในสภาวะที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยโพส ระบุว่าปัจจุบัน มีการพบเว็บหมิ่นสถาบันเบื้องสูงมากกว่า 1,200 เว็บไซด์แล้ว นอกจากนี้ยังมีสัญญาณต่าง ๆ ที่ส่งมาจากบุคคลในสังคม ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น หลวงตามหาบัว ที่เคยกล่าวเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วตีพิมพ์เป็นหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คเมื่อ 3 ปีที่แล้วว่า

“สลดสังเวช รัฐบาลเผาบ้านเผาเมือง ยึดอำนาจทุกหน่วยงานทั้งหมด ทั้งทหาร ตำรวจ และตุลาการหลังเปลี่ยนเป็นประธานาธิบดี กดหัวคนทั้งชาติ ทำบาปมหันต์ ระวังมีจุดจบเหมือเทวทัต ที่แข่งบุญกับพระพุทธเจ้า แล้วถูกธรณีสูบ” และว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พยายามให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดย เหยียบย่ำชาติ ศาสนา และพรมหากษัตริย์ และสร้างอำนาจระบอบการเมืองอันชั่วร้าย เหยียบหัวศาลเอาไว้ เพื่อให้ศาลทำตามความต้องการของตัวเอง ซึ่งจนถึงวันนี้ก็เห็นได้หลายอย่างแล้ว ทั้งการซื้อตัวตุลาการศาล รธน. ในคดีซุกหุ้นภาค 1 รวมไปถึงการติดสินบนศาล ในเรื่องถุงขนม 2 ล้านบาท ซึ่งสิ่งนี้เองเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ถึงความแม่นยำของคำเตือนหลวงตาบัว

นอกจากนี้ยังมีบทกวีของ อาจารย์อังคาร กัลญาณพงษ์ รัตนกวี แห่งรัตนโกสินทร์ ที่เคยแต่งกลอนเปรียบเทียบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เปรียบเสมือน ฮิลเลอร์ ที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมไปถึง งานวิจัยทางวิชาการของ นายดันแคน แม็คคาร์โก ได้เคยเสนอไว้ที่มหาวิทยาลัยนอร์เทอร์น อิลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนเมษายน 2548 ซึ่งภายหลังมีนักวิจารณ์สังคมชื่อก้องโลกของไทย ที่ใช้นามปากกาว่า ส.ศิวลักษณ์ ได้แปลแล้วนำมาเผยแพร่ ในหนังสือชื่อ “สรรพสาระของผู้แสวงหา” ซึ่งมีใจความว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการท้าทายพระราชอำนาจ โดยมีการแสดงอำนาจว่าตนเองใหญ่ ซึ่งแม้จะถูกสถาบันองคมนตรี ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ตักเตือน องคมนตรีเหล่านั้นก็ถูกตบหน้า โดยการไม่เชื่อฟัง ไม่เคารพ แล้วใช้อำนาจของรัฐบาลรุกรานองคมนตรีอีกด้วย ซึ่ง ส.ศิวลักษ์ ได้แสดงทัศนะไว้ด้วยว่า ตนเห็นว่าวิธีการบริหารประเทศแบบ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้ประเทศไปไม่รอด และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ บริหารประเทศอยู่สถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ไปไม่รอด

นายสมเกียรติ์ กล่าวด้วยว่า จนถึงวันนี้การก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ยังถูกสืบทอดมาจนถึง รัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช ในปัจจุบัน เห็นได้จากการที่นายสมัครที่นอกจากจะไม่ยอมดำเนินการเอาผิดกับ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมว.สำนักนายก ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่กลับนำเอาถ้อยคำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพดังกล่าว ไปเผยแพร่ต่อในเว็บไซด์ของรัฐบาลไทย แล้วเผยแพร่ไปทั่วโลก ตนจึงอยากถามนายสมัครว่า ในเมื่อไม่ยอมปกป้องสถาบันกษัตริย์แล้ว ยังมีความชอบธรรม มาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ได้อย่างไร

ทั้งนี้ ตนมองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อสถาบันกษัตริย์ในวันนี้เอง เป็นสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองอยู่ในสภาวะสงคราม ที่ฝ่ายหนึ่งปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักของเรา แต่อีกฝ่ายคือฝ่ายที่จองล้างจองผลาญ และปล่อยปะละเลย ให้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกทำลาย สงครามครั้งนี้จึงถือเป็นสงครามอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสงครามครั้งสุดท้าย

นายสมเกียรติ กล่าด้วยว่าตนมองว่า ขณะนี้นายสมัคร ใกล้บ้าเข้าไปทุกทีแล้ว เพราะขณะนี้ก็ทำการดึงอำนาจทางการทหาร ทุกอย่างมาอยู่ในมือของตัวเอง หวังจะควบคุมอำนาจทุกอย่างเอาไว้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเพราะทั้งทหาร และตำรวจกระทำอารยะขัดขืนต่อนายสมัคร โดยการไม่สลายการชุมนุม ไม่ทำร้ายประชาชนตามคำสั่งของนายสมัคร
กำลังโหลดความคิดเห็น