xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” จวกนักวิชาการติดประเด็นยิบย่อยขวางพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิภพ ธงไชยแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“พิภพ” ยันรัฐตำรวจเกิดขึ้นจริงมานานแล้วและนับวันยิ่งปรากฏชัดขึ้น ชี้ชอบใช้อำนาจเกินกว่ากฎหมาย แนะนักวิชาการควรจะออกมาร่วมชุมนุมกันบ้าง อย่ามัวแต่วิจารณ์แบบมั่วๆ และติดอยู่กับประเด็นเล็กๆ น้อยๆ พร้อมวอน ปชช.ออกมาร่วมให้มากขึ้น เพื่อกดดันให้มากขึ้น มั่นใจหากรัฐบาลยิ่งดื้อการปฏิรูปการเมืองใหม่เกิดขึ้นได้แน่นอน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

วันที่ 4 ก.ย.51 เวลาประมาณ 21.35 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีบริเวณทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ขอพูดถึงเพื่อนๆ พันธมิตรฯ ที่ถูกจับไป 83 คน ซึ่งตอนนี้กำลังใจยังดีอยู่ และทางพวกเราพยายามเต็มที่ที่จะนำออกมา แต่ตำรวจไม่ให้ประกันตัว ความจริงแล้วเรื่องไม่ได้หนักอะไร เพียงแต่ตำรวจชอบตัวข้อหาหนักๆ อย่างที่ตั้งขอหากับพวกแกนนำฯ รวมถึงผู้ประสานงานพันธมิตรฯให้เป็นข้อหาที่หนักและสูงสุกนั่นคือ กบฏ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อไม่ให้ประกันตัว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ที่พวกตนเคยบอกว่าเริ่มมีรัฐตำรวจแล้ว แต่มีนักหนังสือพิมพ์ค้านว่าจะมีได้อย่างไร แต่ตอนนี้พวกเราเห็นกันแล้วว่ารัฐบาลสามารถควบคุมตำรวจ และตำรวจก็พร้อมที่จะรับใช้รัฐบาล มาตั้งข้อหาต่างๆ มาบุกรุกเรามากมาย จนบางครั้งตำรวจไม่อาจเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ชอบใช้อำนาจเกินขอบเขตอยู่เสมอ ฉะนั้นเมื่อตำรวจใช้อำนาจเกินกว่ากฎหมาย ถ้าเราทำการเมืองใหม่ได้ ก็สามารถปฏิรูประบบการเรียนการสอนได้นี่คือสิ่งแรกที่ต้องทำ

นอกจากนี้ พระราชกำหนดที่ประกาศมา ผู้ที่ดูแลรับผิดชอบพระราชกำหนดนี้ได้ใช้อย่างระมัดระวัง อันนี้จึงเป็นประโยชน์กับเรา และไม่ได้หมายความว่าเข้าข้างเรา แต่เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเนื่องจากพวกเราชุมนุมกันอย่างสงบตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

“พวกเรากำลังต่อสู้กับระบบการเมืองเก่า กำลังจะเปลี่ยนแปลงการเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยทุจริตคอร์รัปชัน และต้องสร้างคุณค่าใหม่ จริยธรรมใหม่ ปฏิรูปใหม่ แต่ยังอยู่ในโครงสร้างของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อยู่ในโครงสร้างของการเลือกตั้ง แต่ต้องเปลี่ยนระบบการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้กระจายตัวไปทุกชนชั้นอาชีพ และไม่จำเป็นต้องไปรับระบบการเลือกตั้งแบบตะวันตก แต่แน่นอนสุดท้ายต้องอยู่ที่กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และการเมืองใหม่ต้องเข้มข้นขึ้น” นายพิภพกล่าว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกดีใจที่นักศึกษาได้ออกมากันมาก การที่ออกมาพวกเขาเหล่านี้ต้องไตร่ตรองมาก ต้องเชื่อมั่นวันพันธมิตรฯไม่มีผลประโยชน์ส่วนตน เป็นการทำประโยชชน์เพื่อชาตินักศึกษาถึงได้ออกมา แต่นักวิชาการยังไม่ค่อยได้ออกมาเท่าไร และม่เห็นด้วยกับเรา เพราะมัวไปยึดติดกับประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ในอดีต เช่น เรื่องที่เราเคยขอรัฐบาลพระราชทานตามมาตรา 7 เรื่องที่กล่าวหาว่ามีส่วนในการรัฐประการ 19 ก.ย. และหาว่าเราสนับสนุนรัฐธรรมนูญ 2550 ที่มาจากเผด็จการ

นายพิภพ กล่าวต่อว่า การเขียนประวัติศาสตร์นั้น ถ้าเขียนประวัติศาสตร์ของคนที่ตายแล้ว เราไปศึกษาจากเอกสารได้ แต่ถ้าเขียนประวัติศาสตร์เกี่ยวกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ จะต้องออกมาสัมผัสด้วยตัวเอง จึงอยากให้นักวิชาการที่เขียนถึงพันธมิตรฯ ได้มาสัมผัสการชุมนุม มารับรู้อารมณ์ความรู้สึก ประเด็นปัญหา ไม่ใช่มัวแต่นั่งวิจารณ์อยู่มุมใดมุมหนึ่งแล้วว่ามันไม่ดีอย่างเดียว จึงอยากเชิญชวนให้มา แต่ต้องระวังว่ามาแล้วอาจจะติดใจ ไม่สามารถออกจากการชุมนุมได้

“ถ้าหากมาสามารถเชื่อมโยงได้ว่าปัญหาของทักษิณอยู่ตรงไหน มาเกี่ยวข้องกับรัฐบาลสมัครได้อย่างไร รวมถึงมาเกี่ยวข้องกับการชุมนุมพันธมิตรได้อย่างไรด้วย” นายพิภพกล่าว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า เมื่อเช้านายกฯสมัครได้พูดโกหกแทบทั้งสิ้น ถ้าให้วิเคราะห์ว่าทำไมถึงสมัครยังดื้อและคิดว่าตัวเองทำถูกเสมอ ซึ่งตนจะสรุปให้ฟังอยากอยู่นานเพราะอะไร แน่นอนให้งบประมาณผ่านอันนี้ชัดเจน พวกพรรคร่วมรัฐบาลกำลังดูช่องทางเงินที่กำลังออกของงบประมาณอยู่ ถ้างบประมาณผ่านต้องมีมติ ครม.ในหลายเรื่องที่จะให้ทำโปรเจกยักษ์ เห็นได้ชัดเลยว่าพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังเพื่อประชาชนอยู่เพื่อหากินกับเงินงบประมาณทั้งนั้น ไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศเลย

“กล่าวหาได้เลยว่า พวกนี้ไม่ได้รักประเทศไทย ไม่สนใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น เพราะตัวเองเป็นต้นเหตุ พวกเราที่มาที่นี่เพราะทักษิณ สมัคร พรรคพลังประชาชนเป็นต้นเหตุ ถ้าหากนำปัญหาเหล่านี้ออกปัญหาก็จะหมดไป” นายพิภพกล่าว

นายพิภพ กล่าวต่ออีกว่า พวกนักการเมืองนั้นตกใจ ที่เห็นว่าพวกเราเสนอการเมืองใหม่เพราะมีพลัง ซึ่งพวกเขากลัวเรื่องนี้ ฉะนั้นต้องคิดเรื่องกระจายตัวเพื่อไม่ให้เกิดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และทำอย่างไรให้นักการเมืองที่เข้ามานั้นทำงานทางการเมืองแบบเป็นผู้เสียสละ ไม่ใช่ผู้ประกอบโกยกิน เข้าไปแล้วทำงานปฏิรูปทั้งหมดทุกส่วนให้สู้กับต่างประเทศได้ สิ่งนี้จึงอยากให้มาชุมนุมกันมากขึ้น และประท้วงแบบสันติวิธีใช้อาวุธแบบสันติอหิงสาให้มากขึ้น เพื่อกดดันให้มากขึ้น และยิ่งสมัครออกมาพูดมากขึ้น สังคมยิ่งจับเท็จได้ ยิ่งพูดยิ่งได้เปรียบ ยิ่งดื้อยิ่งปฏิรูปการเมืองใหม่ได้แน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น