อธิการบดีนิด้า เชื่อ มติ ครม.หมัก เสนอทำประชามติแก้ปัญหาไม่ได้ ชี้แค่ซื้อเวลาทำประเทศทรุดหนัก นศ.นิด้า ยัน รบ.ต้องลาออกสถานเดียว ใช้กระบวนการสภาเปิดทางคนนอกนั่งนายกฯชั่วคราว ดีที่สุด
วันนี้ (4 ก.ย.) ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงกรณี ครม.นัดพิเศษเห็นด้วยทำประชามติ หาทางออกวิกฤตประเทศ ว่า รัฐบาลพยายามที่จะหาความชอบธรรมให้กับตัวเองอยู่ได้ ในขณะเดียวกัน ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขาดความชอบธรรม แต่โดยหลักการของประชามติแล้วนั้น ไม่ได้ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง นอกจากนี้ การทำประชามติครั้งนี้มีจุดอ่อนเนื่องจากพรรคพลังประชาชนที่เคยไม่ยอมรับการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 การทำครั้งนี้พันธมิตรฯก็อาจไม่ยอมรับ เพราะเห็นว่าอยู่ภายใต้กลไกของรัฐ
ดังนั้น จึงเชื่อว่า 1.ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เป็นเพียงยืดเวลา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาล 2.สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงจะเลวร้ายและยืดเยื้อยาวนาน 3.ประเทศชาติจะได้รับความเสียหายจากการดำเนินการของรัฐบาล 4.ความขัดแย้งอาจทวีคูณเพิ่มขึ้นหากฝ่ายใดฝ่ายไม่ยอมรับผลประชามติ ดังนั้น ทำไปก็เสียเปล่า ยิ่งสร้างปัญหามากขึ้น
ผศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมฯ นิด้า กล่าวว่า การทำประชามตินั้นต้องอาศัยเวลาในดำเนินการเตรียมการโดยให้ กกต.เป็นผู้เข้ามาจัดการ ทั้งนี้ ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารของทั้ง 2 ฝ่าย และให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีโอกาสมีพื้นที่ทั้งในช่องฟรีทีวี และเคเบิลทีวี อย่างเต็มที่ ซึ่งจะเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนตัดสินใจ นอกจากนี้ สมควรที่จะให้มีผู้สังเกตการณ์ที่เป็นกลางจริง เพื่อป้องกันการใช้อำนาจไปในทางที่ผิดเหมือนการเลือกตั้ง ซึ่งหากมีเงื่อนไขดังกล่าว ตนคิดว่า กลุ่มพันธมิตรฯน่าจะยอมรับได้ แต่คิดว่ารัฐบาลคงไม่กล้า เพราะรู้ดีว่าพ่ายแพ้แน่นอน
“ถ้ามีเงื่อนไขชัดเจนว่าเวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน เปิดโอกาสให้ใช้สื่อเพื่อนำเสนอข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย มีคนกลางเข้ามาสังเกตอย่างอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม คิดว่า พันธมิตรฯควรรับพิจารณา เพราะอาจจะทำให้ปัญหาคลี่คลายลงไปได้ แต่หากกระทำแบบปิดประตูตีแมว ชิงความได้เปรียบสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง ซึ่งนอกจากปัญหาจะไม่จบแล้ว จะทำให้เกิดความไม่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ฝ่ายรัฐบาลจะตกอยู่ฝ่ายเพลี้ยงพล้ำอีกครั้ง” ผศ.ดร.พิชาย กล่าว
นายจักรินทร์ แก้วพิชัย รองประธานกลุ่มนิด้าพัฒนาสังคม กล่าวว่า ขอคัดค้านมติ ครม.ดังกล่าว เพราะเห็นว่ารัฐบาลใช้ความได้เปรียบเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง จะทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นอีก เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯและประชาชนอีกหลายฝ่ายไม่ยอมรับการทำประชามติที่อาจจะใช้อำนาจรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ควรซื้อเวลา เพื่อให้ตัวเองอยู่ได้นานต่อไป เพราะคนที่เสียหาย คือ ประเทศ และประชาชนในประเทศ ทางกลุ่มขอเสนอว่ารัฐบาลลาออก หลังจากนั้น ให้รัฐสภามีมติงดใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 171 วรรค 2 ที่ให้นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเสนอชื่อบุคคลภายนอกที่สังคมยอมรับเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชั่วคราว