“อธิการบดีนิด้า” วิตกสถานการณ์ทางการเมืองนำไปสู่การเผชิญหน้า เพราะรัฐบาลยังดึงดันที่จะแก้ไข รธน.เพื่อพวกพ้อง เชื่อปรับ ครม.แก้เกี้ยว หวังยื้อเวลาก่อนยุบสภา
วันนี้ (31 ก.ค.) นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ว่าคงจะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้นได้น้อยมาก แต่เป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ เพราะปัจจัยคุกคามรัฐบาลมีหลายกรณี และคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีผลต่ออายุรัฐบาลและปัจจัยอื่นๆ คุกคาม ดังนั้น การปรับ ครม.ครั้งนี้เพื่อยืดอายุรัฐบาลต่อไป ซึ่งอาจจะมีเวลาไม่ยาวมากนัก และจบด้วยการยุบสภา เนื่องจากมีการส่งสัญญาณหลายประการ ทั้งการออก 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลหวังผลสำหรับการเลือกตั้งโดยเฉพาะ
นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นปัจจัยคุกคามอายุรัฐบาลใหญ่ที่สุด และเป็นประเด็นขัดแย้งทางการเมืองมาตั้งแต่ต้น หากยังยืนยันแก้ไขมาตรา 309 ที่จะมีต่อความไม่ชอบของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทำให้คดีต่างๆ ขาดความชอบธรรมที่จะดำเนินการต่อไป ถ้าเดินหน้าเร่งรัดก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งหลัก และเป็นอุปสรรคต่อการบริหารของรัฐบาล
“สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้น่าเป็นห่วงและน่าวิตกกับอนาคตการเมืองไทยอย่างยิ่ง ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และเป็นผลเสียต่อทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ต้องเผชิญความสูญเสีย เพราะการเมืองนำไปสู่ความขัดแย้งชัดเจนจนไม่มีใครสนใจเหตุผล สนใจแค่ว่าใครพวกใคร ถ้าไม่ตรงกันก็จะถูกประณาม สถานการณ์อย่างนี้เป็นภัยต่อประเทศอย่างยิ่ง และคนที่เป็นรัฐบาลควรทำทุกวิถีทางไม่ให้เกิดสภาพอย่างนี้ การบริหารประเทศตั้งแต่ 2,000 ปีมาแล้ว มีหลักสำคัญว่าผู้ปกครองต้องมีศิลปะสร้างความเห็นพ้องต้องกันในหมู่ประชาชน หมายความว่าต้องสร้างความสามัคคีสมานฉันท์ เมื่อไหร่ก็ตามที่รัฐบาลไม่สามารถสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติ หรือไปทำให้เกิดความแตกแยก นั่นคือมหันตภัยสำคัญทั้งประเทศและสังคม ยากจะทำให้สังคมอยู่ได้ด้วยความสงบ” อธิการบดีนิด้า กล่าว
