“สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ปูดแผนพลังแม้ว ปลุกระดม จ้างวานลูกอีสานบุกเข้าเมืองหลวง ไล่เข่นฆ่าพันธมิตรฯ ระบุ ให้จับตานายกฯ หุ่นเชิด ถูกจับออกไมโครโฟนบังคับทิ้งเก้าอี้ผู้นำประเทศหรือไม่ เผย “สมัคร” คิดผิดประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวังยืมกองทัพสลายพันธมิตรฯ จวกอีก “หุ่นเชิด” เขมือบงบ แอบซุกให้พรรคพวกใช้หาเสียง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วันนี้ (3 ก.ย.) เวลา 22.30 น.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยระบุถึงแผนชั่วร้ายของระบอบทักษิณและรัฐบาลหุ่นเชิด กำลังวางแผนจ้างนักรบแทบภาคพื้นอีสานเดินทางเข้ามาห้ำหั่นกับพันธมิตรฯในกรุงเทพฯ พอจ้างมาวันแรกก็เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน จากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ด้านหลัง แต่การสูญเสียในครั้งนี้ใช่ว่าจะจบ นักการเมืองจากพรรคพลังประชาชน ยังมีความพยายามเกณฑ์คนอีสานเข้ามาทำร้ายพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง หวังให้คนไทยเข่นฆ่ากันเอง จึงไม่แปลกที่ญาติผู้เสียชีวิตจะออกมาดำเนินการฟ้องร้องกับนักการเมืองชั่วเหล่านั้นแล้ว
ขณะเดียวกัน นายสมเกียรติ ยังได้ตั้งข้อสังเกตกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ ยืนประจำการอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกตเป็นอย่างมาก แต่เท่าที่แหล่งข่าวที่สนิทสนม บอกว่า เป็นการเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก ฉะนั้นแล้วต้องดูว่าเจ้าหน้าที่เตรียมการเพื่ออะไร หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่า จะเกี่ยวข้องกับการออกอากาศทางสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ เวลา 7 โมงเช้า ของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หรือไม่
“ไม่รู้ นายสมัคร สุนทรเวช ถูกล็อกตัวให้พูดหรือไม่ ถึงไม่มีการถ่ายทอดสดทางสถานโทรทัศน์ ผมฝันว่า นายสมัคร สุนทรเวช จะใช้โอกาสนี้พูดสารภาพความผิดกับคนทั้งประเทศ ถ้าขืนยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ประชาชนจะล้มตายมากขึ้นกว่านี้อีกแน่นอน ยังไม่รู้ตัวเองอีกหรือว่า กำลังเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนมาเข่นฆ่ากัน เฉกเช่นเดียวกลับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยทำมาแล้วในอดีต ฉะนั้น ในวันพรุ่งนี้เตรียมน้ำสะอาดไว้ล้างหน้าล้างตา รอการประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ได้เลย” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีคิดผิด ที่ตัดสินใจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเมื่อประกาศออกไปแล้วผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ดูมีอำนาจขึ้นมาทันที อำนาจไปอยู่ที่กองทัพหมด นายกรัฐมนตรี จึงไม่มีอำนาจอะไรเหลืออยู่ในมือ จะมาออกมาคำสั่งให้ ผบ.ทบ.ปราบปรามพันธมิตรฯ ก็ทำไม่ได้
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายสมเกียรติ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 วงเงิน 1.835 ล้านล้านบาท โดยระบุว่า เป็นการพิจารณาอย่างเร่งรีบของรัฐบาล มีการตั้งงบกลางจำนวนมากไว้ให้นายกรัฐมนตรีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังตั้งงบเพื่อเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้า อีกทั้งยังซุกงบไว้อีกหลายส่วนในพื้นที่ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน หยิบฉวยนำไปใช้หาเสียง ทั้งที่งบเหล่านั้นเป็นภาษีของประชาชน แต่พวกนักการเมืองขายชาติกลับออกแบบนำไปใช้สำหรับตนเอง ทั้งที่ผลประโยชน์ของประชาชนจะต้องตกถึงประชาชนโดยตรง