xs
xsm
sm
md
lg

“เลี้ยบ” ไขสือ พธม.ชุมนุมยื้อ ด้านเข็น “หมัก” ถ่างควบต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
เลขาธิการ พปช.ย้อนถามพันธมิตรฯ ชุมนุมยืดเยื้อต้องการอะไรกันแน่ ป้ายสีระบอบประชาธิปไตยกำลังถูกท้าทาย เอาดีใส่ตัวโวรัฐบาลหอกหักไม่อยากเห็นความรุนแรง ดื้อด้านทั้งโคตรหนุนหมักนั่งนายกฯ ต่อ ไม่สนคดียุบพรรคย้ำเรื่องเล็ก

วันนี้ (3 ก.ย.) ที่รัฐสภา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ กกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณายุบพรรคพลังประชาชนว่า เรื่องคดียุบพรรคเป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดหมาย เพราะว่าก่อนหน้านี้เราก็มีการพิจารณาว่าจะมีโอกาสเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง กี่ทาง และกรณีที่ กกต.มีความเห็นว่าจะส่งเรื่องคดียุบพรรคไปให้ศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ฉะนั้นพรรคก็จะทำข้อเท็จจริงและเรื่องต่างเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป และประเด็นเรื่องยุบพรรค คงไม่ใช่เงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออก เพราะวันนี้คดียุบพรรค ต้องถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เล็กมาก ถ้าเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ของบ้านเมืองทั้งหมด

“เพราะวันนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะเป็นการบอกว่าระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขนั้นจะยังอยู่ต่อไปได้หรือไม่ เพราะวันนี้รัฐธรรมนูญก็ดี กฎหมายก็ดี อำนาจอธิปไตยทั้ง 3 อำนาจก็ดี เริ่มมีปัญหาว่าเราสามารถที่จะบังคับใช้กฎหมาย สามารถจะยึดมั่นกติกาประชาธิปไตยได้ต่อไปหรือเปล่า” นพ.สุรพงษ์ กล่าว

นพ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าการพิจารณางบประมาณในช่วงนี้ ถือเป็นการทำหน้าที่เพื่อให้สามารถพยุงบ้านเมืองต่อไปได้ แต่สิ่งที่น่าห่วงมากกว่าคือระบอบประชาธิปไตยของเรากำลังถูกท้าทายจากพันธมิตรฯ เพราะพันธมิตรฯ ไม่ยอมรับอำนาจศาล ไม่ยอมรับอะไรเลย เราไม่รู้ว่าวันนี้พันธมิตรฯ ต้องการอะไร เพราะข้อเสนอของพันธมิตรฯเปลี่ยนไปตลอดเวลา อาจจะเป็นการเมืองใหม่ที่เป็นการเมือง 30-70 อย่างที่พันธมิตรฯ เคยพูดมาตลอดหรือไม่ ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการท้าทายว่าระบอบประชาธิปไตยของเราที่จะต้องถอยหลังกลับไป 20-30 ปีหรือไม่ ตนคิดว่าการยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย.ทำลายความเชื่อมั่นของทุกคนต่อการพัฒนาประเทศ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และวันนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนมากกว่า เพราะตอนที่มีการยึดอำนาจนั้น คมช.ประกาศโดยเร็วว่าจะคืนอำนาจให้กับประชาชนใน 1 ปี แต่วันนี้ เราไม่รู้ว่าพันธมิตรจะได้ดำเนินการทางการเมืองอย่างนี้ และจะทำให้ประเทศชาติกลับสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ว่าพันธมิตรต้องการอะไร

ต่อข้อถามว่า มีการมองกันว่านายกรัฐมนตรีโยนเผือกร้อนให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานคณะกรรมการตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เป็นการทำตามขั้นตอนมาโดยลำดับตั้งแต่ที่มีการยึดทำเนียบรัฐบาล มีการไปพึ่งอำนาจศาล เพื่อที่จะให้ศาลได้ดำเนินการตามกระบวนการที่ตามมา แต่เมื่อไม่สามารถเดินตามกระบวนการได้ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ ที่ประชาชน 2 กลุ่มที่มีความเห็นแตกต่างกัน ก็เป็นเรื่องที่ผู้ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งตนก็เห็นใจ เพราะผบ.ทบ.จะเป็นผู้ที่มีหลักสำคัญในการที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยของเราเดินหน้าต่อไปได้ จึงต้องให้กำลังใจและอยากให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่ารัฐบาลไม่อยากเห็นความรุนแรง แต่อยากเห็นระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่ระบอบพันธมิตร

ส่วนที่ขณะนี้รัฐบาลไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้แล้วจะอยู่อย่างไรนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาว่ารัฐบาลอยู่หรือไม่ หรือจะมีการยุบสภาหรือไม่ แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของการท้าทายระบบของรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ว่าเรามีอำนาจอธิปไตย อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ แต่วันนี้พันธมิตรฯไม่ยอมรับอะไรเลย แม้แต่อำนาจตุลาการก็ไม่ยอมรับ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องว่ารัฐบาลอยู่หรือไป ลาออก หรือยุบสภา เพราะเล็กเกินไปแล้ว แต่ต้องตั้งคำถามว่าประเทศไทยเรากำลังจะอยู่ภายใต้การปกครองระบอบอะไรแน่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 1 สัปดาห์ ได้พิสูจน์แล้วว่าอำนาจอธิปไตยทั้ง 3 อำนาจ ไม่ได้รับการยอมรับจากพันธมิตรฯ ก็ขอถามว่าแล้วเราจะทำอย่างไร

“ในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล เหมือนกับว่าไม่มีกฎหมายใดๆ แล้ว ไม่มีอำนาจของรัฐธรรมนูญใดๆ ที่สามารถที่จะทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ที่คนภายในทำเนียบรัฐบาลยอมรับได้” นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า

เมื่อถามว่า แล้วรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไปในเมื่อทุกอย่างก็แก้ไม่ได้ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว รัฐบาลเองพยายามทำ ในสิ่งที่ต้องทำและทำได้อยู่แล้ว แต่วันนี้มันเกินเลยเกี่ยวกับคำถามว่ารัฐบาลควรจะทำอย่างไร สิ่งที่วันนี้ต้องถามคือประชาชน จะเอาอย่างไร ประเทศชาติควรจะทำอะไร ต่อข้อถามว่า แสดงว่าต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ถึงจะคืนอำนาจ ยุบสภา พันธมิตรฯ ก็ไม่ได้ยอมรับ เพราะพันธมิตรฯ บอกแล้วว่า ถึงยุบสภา ก็ไม่หยุดการเคลื่อนไหว ดังนั้นวันนี้ต้องถามให้ชัดว่าพันธมิตรฯ มีเงื่อนไขอะไร เพราะไม่มีใครตอบได้ว่าตก ลงพันธมิตรฯ ต้องการอะไรแน่ ส่วนที่ว่ารัฐบาลมีอำนาจเต็มแต่ยังทำอะไรไม่ได้ แล้วทางออกของประเทศคืออะไรนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ประสงค์ที่จะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคม ฉะนั้นการที่เราจะดำเนินการอะไรด้วยความเสี่ยง เป็นเรื่องที่เราไม่ทำและไม่ประสงค์จะทำเลย ถ้าถามว่าทางออกของประเทศคืออะไรเป็นสิ่งที่เราควรจะต้องช่วยกันหาให้เจอ

ส่วนที่มีสมาชิกของพรรคพลังประชาชนไปอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ก็ต้องสอบสวนใครกระทำผิดก็ต้องเอาตัวมาลงโทษ และหากข้อมูลชี้ไปว่าใครทำผิดทุกคนต้องรับผิดชอบทั้งนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น