พันธมิตรฯ เดินแผนล้อมกรอบผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 กองร้อย จากประตู 7 ออกนอกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลผ่านทางประตู 4 ได้สำเร็จ พร้อมยึดพื้นที่บริเวณด้านหลังสันติไมตรีไว้อย่างเบ็ดเสร็จ
เมื่อเวลา 00.12 น.วันนี้ (29 ส.ค.) รายข่าวแจ้งสถานการณ์ความคืบหน้าการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาลว่าได้มีสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ชุมนุมนำร่ม และผ้าใบมากางเพื่อป้องกันสายฝน ส่วนแกนนำพันธมิตรฯ ยังคงขึ้นเวทีปราศรัยตามปกติ
ส่วนการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจนครบาล 4 กองร้อยที่บริเวณปะตู 4 ของทำเนียบรัฐบาลนั้น สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงไปในทางที่ดี เนื่องจากแกนนำพันธมิตรฯ มีมติให้เปิดประตู 4 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนเดินทางกลับไปพักผ่อน
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 23.50 น.ของวันที่ 28 ส.ค. กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 1 พันคน ได้เปิดประตู 4 พร้อมตั้งแถว 2 แถว โดยเว้นช่องว่างไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางออกจากทำเนียบฯ แต่เมื่อเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง ยังไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่จะเคลื่อนกำลังออกไปพักผ่อน แต่ตำรวจได้แจ้งกลับมายังกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ผู้บังคับบัญชายังไม่ได้สั่งการลงมา จึงยังเคลื่อนกำลังออกไปไม่ได้ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมาก ต่างไม่ไว้ใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงยังคงปักหลักยืนรอส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่บริเวณประตู 4 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ย้ำกับผู้ชุมนุมว่า ไม่ให้ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีการเคลื่อนกำลังพลออกไปพักผ่อน
จนเวลาประมาณ 00.40 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงไม่ออกไปจากบริเวณประตู 4 โดยอ้างว่ายังไม่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ขณะที่ผู้ชุมนุมยังคงเปิดประตูไว้ให้อยู่ อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณประตู 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนและตำรวจปราบจลาจล ได้ถูกการ์ดและผู้ชุมนุมประมาณ 2 พันคน ตะโกนคำว่าออกไปๆ เพื่อให้ออกจากทำเนียบรัฐบาล
จนเวลาประมาณ 00.45 น.ผู้ชุมนุมเริ่มดันเจ้าหน้าที่จากประตู 7 มาจนถึงประตู 4 และดันออกประตูไปพร้อมกับกำลังตำรวจที่ประจำประตู 4 อยู่แต่เดิม จนกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปอยู่นอกทำเนียบรัฐบาลเกือบทั้งหมด ยังเหลือบางส่วนที่หลบไปอยู่ตามซอกตึกประมาณ 10 คน ขณะที่แนวของผู้ชุมนุมได้กระจายมาจากประตู 7 จนถึงประตู 4 แล้ว ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ยอมถอยออกไปจากทำเนียบแล้ว ผู้ชุมนุมได้ตะโกน “ขอบคุณครับๆๆ” พร้อมกันหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม การผลักดันเจ้าหน้าที่ออกไปครั้งนี้เป็นยุทธศาสตร์ของพันธมิตรฯ ที่วางแผนไว้อย่างดี หลังจากที่ตำรวจได้ตรึงกำลังไว้ 3 จุด ด้านหลังตึกสันติไมตรี ภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล ประกอบด้วยตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจหน่วยปราบจลาจล และตำรวจนครบาล ซึ่งเข้ามาประจำการปฏิบัติหน้าที่แล้ว 2 คืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในสภาพที่อิดโรย
การเรียกระดมพลของพันธมิตรฯ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น โดยการระดมมาครั้งละ 200 คน เพื่อเป็นอาสาสมัครที่ประตู 4 จนเวลาประมาณ 23.00 น.ได้ขอกำลังคนประมาณ 1 พันคน มาที่ประตู 7 ก่อนที่จะเปิดช่องที่ประตู 4 รอเอาไว้แล้วใช้กำลังผลักดันจากประตู 7 มาถึงประตู 4 ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ผลักดันเจ้าหน้าที่ออกนอกเขตทำเนียบรัฐบาล และยึดพื้นที่ด้านหลังตึกสันติไมตรี โดยกลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน หลังจากผลักดันตำรวจออกไปสำเร็จแล้วนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้มาให้กำลังใช้การ์ดอาสาและผู้ชุมนุมด้วย
ด้าน นายสมศักด์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า มนุษย์กู้ชาติสั่งตรงมาจากสวรรค์พันธุ์พิเศษ ไม่หวั่นไหวต่อแดดเผา และต้องขอขอบคุณกองทัพประชาชนที่รัก ซึ่งไปดำเนินการให้ตำรวจจำนวน 4 กองร้อย ออกไปจากทำเนียบรัฐบาล น่าสงสารตำรวจตระเวนชายแดนเหล่านั้น เพราะแม้แต่ข้าวพวกเขาก็ยังไม่ให้ตำรวจตระเวนชายแดนกิน และถ้าเรามีความพร้อมเพรียง และพร้อมใจกัน ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการ์ดอาสาทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมทุกคน
“ภารกิจวันพรุ่งนี้จะมีความคืบหน้า ฉะนั้นขอให้พ่อแม่พี่น้องอยู่ที่ทำเนียบด้วยกัน เพื่อปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วง เพราะผมเชื่อว่าเราทำดี ต้องได้ดี” นายสมศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า มีการระดมกำลังตำรวจจากจังหวัดรอบๆ กรุงเทพมหานคร อาทิ สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยาเข้ามาจนบางสถานีเหลือตำรวจแค่ 2 นาย และร้านทองบางแห่งต้องปิดทำการเนื่องจากกลัวโจรผู้ร้าย และมีกระแสข่าวว่าอาจมีการสลายการชุมนุม โดยการบุกเข้าทางประตู 4 ในเวลาประมาณ 8 โมงเช้าวันนี้ (29 ส.ค.)