“พิภพ” อัดยับ “เลี้ยบ” ใช้อำนาจเปิดช่องคืนเงิน “แม้ว” 7.6 หมื่นล้าน ชี้ชัดถือเป็นบุคคลขายชาติ สลด “รัฐบาล” เดินหน้าถลุงเงินแผ่นดินนับแสนล้านโดยไม่ยอมฟัง “พระราชดำรัส” มั่นใจเป่านกหวีดครั้งใหญ่ 26 ส.ค.นี้ชนะแน่นอน พร้อมปลุกจิตสำนึก ปชช.เรือนล้าน ร่วมแสดงพลังแห่งธรรมเพื่อกอบกู้วิกฤตประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วานนี้ (22 ส.ค.) เวลาประมาณ 22.09 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า ในวันอังคารที่จะชุมนุมใหญ่ พวกเราจะใส่เสื้อเหลืองกัน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2549 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงขอร้องให้ตุลาการออกมาแก้ปัญหาวิกฤติที่สุดในโลก ทำให้เกิดตุลาการภิวัฒน์ ซึ่งการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ยืดเยื้อมา ก็เพื่อให้ตุลาการภิวัฒน์ได้ทำงาน เราชุมนุมมาครั้งนี้ 90 วันก็เพื่อให้ตุลาการภิวัฒน์ทำงานเช่นกัน และเมื่อพระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัสว่าบ้านเมืองใกล้จะล่มจม ถ้าพันธมิตรฯ ไม่เป่านกหวีดกู้ชาติวันนี้แล้วจะเป่าวันไหน เพราะเราทำเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
นายพิภพ กล่าวต่อว่า เมื่อมีพระราชดำรัสที่ทรงเป็นห่วงการบริหารการเงินว่าจะทำให้ประเทศชาติไม่มีเงินใช้ ประเทศชาติใกล้ล่มจมเพราะใช้เงินไม่ระวัง ใครที่เป็นนักบริหารการคลังย่อมเข้าใจ แต่รัฐบาลนี้ฟังหรือเปล่า ไม่ฟังเลย ยังจะทำโครงการต่างๆ ที่พันธมิตรฯ ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐบาลนี้ต้องการถลุงเงินของชาติ จะทำประชานิยม 4.6 หมื่นล้าน สร้างสภาใหม่ 3 หมื่นล้าน เช่ารถเมล์เอ็นจี 1.1 แสนล้าน ทำยังกะพิมพ์แบงก์เองได้ และยังมีโครงการแฝงในงบประมาณปีหน้าอีก 2 แสนล้าน ทั้งยังจะให้เงิน ส.ส.อีกคนละ 60 ล้าน เอาไปใช้เตรียมการเลือกตั้ง อ้างว่าจะเอาไปพัฒนาชุมชนของตัวเอง
“ถามว่า ส.ส.มีสิทธิ์อะไรที่จะเอาเงินภาษีของประชาชนไปใช้เลือกตั้ง หรือเอาไปพัฒนาพื้นที่ของตัวเอง นักการเมืองแบบนี้ปล่อยไว้วันเดียวการเงินการคลังของประเทศก็จะเสียหาย และขณะที่รัฐบาลกำลังใช้เงินจำนวนมหาศาลอยู่นั้น เมื่อมีข่าวว่าอัยการจะฟ้องยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ 7.6 หมื่นล้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลัง กลับเตรียมที่จะเอาเงิน 7.6 หมื่นล้านบาท คืนให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ
"แต่กรณีดังกล่าวจะต้องชิงดำ เพราะอัยการกำลังจะยื่นเรื่องอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นสู่ศาล แต่ นพ.สุรพงษ์ กลับรีบทำจดหมายไปถึงธนาคารต่างๆ เพื่อเอาเงินออกมาจากแบงก์ทันที อย่างนี้ต้องการช่วยทักษิณมากกว่าช่วยประเทศชาติ ไม่อยากกล่าวหาว่าคนแบบนี้ขายชาติเลย เพราะ 90 วัน เราทำมาพอแล้ว ฉะนั้นเราจึงปล่อยไปไม่ได้ เพราะการเมืองเน่าเฟะแบบนี้ มีทางเดียวคือต้องให้รัฐบาลชุดดังกล่าวออกไป”นายพิภพ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า งบประมาณในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลนั้น แฝงไปด้วยเล่ห์กล แต่เรามีตัวอย่างคือ นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ ซึ่งเป็นคนตงฉิน เข้าไปดูแลโครงการเภสัช ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณของรัฐบาลไปได้ถึงครึ่งต่อครึ่ง ที่สำคัญคือวันนี้เราผ่านพ้นวิกฤตในเรื่องตุลาการ เพราะเราช่วยเรื่องการนำคดีต่างๆ ขึ้นสู่ศาล โดยรัฐบาลสมควรที่จะสนับสนุนตุลาการให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่กลับปล่อยให้ลูกน้องพยายามที่จะเข้าไปทำลายกระบวนการยุติธรรม ทำลาย ป.ป.ช. และ คตส. แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าสนับสนุนแนวทางพระราชดำรัสหรือไม่
“พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่จนลงเพราะถูกอายัดทรัพย์แน่นอน เพราะเขามีทุนซ่อนอยู่มากมาย อีกทั้งขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังรับเงินปีละหมื่นกว่าล้านบาทในโครงการโทรศัพท์มือถือจากรัฐบาลจีน ส่วนเงิน 7.6 หมื่นล้านบาทนั้น มาจากการขายดาวเทียม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ แต่เผลอแป๊บเดียวกลับไปขายให้สิงค์โปร์ จน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สิทธิ์ในดาวเทียมดวงใหญ่ไปครอบครองเพื่อทำโทรศัพท์มือถือที่เป็นคลื่นเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งสามารถดักฟังได้ ซึ่งถือเป็นการขายความมั่นคงของชาติ ถามว่า นพ.สุรพงษ์ จะไปกังวลใจอะไรกับเงินของนายพานทองแท้ และ นส.พิณทองทา ชินวัตร เพราะหน้าที่ของ รมว.คลัง หากรักชาติ ต้องดึงเงินเหล่านั้นกลับประเทศ”แกนนำพันธมิตรฯ ระบุ
นายพิภพ กล่าวต่อว่า กว่า 90 วันที่พันธมิตรฯ ต่อสู้กันมาอย่างเหนื่อยยาก แต่วันนี้ถ้าเราไม่เป่านกหวีดใหญ่ เราจะไม่สามารถหยุดยั้งรัฐบาลชั่วที่ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขายชาติขายแผ่นดิน ทั้งๆ ที่ขณะนี้เศรษฐกิจกำลังแย่แต่รัฐบาลกลับเฉือนแผ่นดินของประชาชนไปขาย ฉะนั้นถ้ารัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้ ก็ขอให้ออกไป และถ้ามีกฎหมายออกมาว่า คนต่างชาติสามารถซื้อแผ่นดินได้ เกาะภูเก็ตก็จะถูกประเทศสิงค์โปร์ซื้อเป็นอันดับแรก เพราะรัฐบาลไทยเอื้อเฟื้อกับประเทศสิงค์โปรเหลือเกิน
“เป็นที่น่าสังเกตว่า สิงค์โปรซื้อเครื่องบินเอฟ 16 แต่ไม่สามารถขึ้นบินได้ โดยจะเห็นได้จากการที่สิงค์โปร์มาเช่าสนามบินในประเทศไทย อีกทั้งยังเอาทหารมาฝึกที่ จ.กาญจนบุรี และถ้าประเทศไทยเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้อแผ่นดินไทยได้ สิงค์โปร์ก็ซื้อที่ดินเพื่อเอาไว้ฝึกทหาร และเอาไว้ใช้เป็นฐานบินบินเอฟ 16 ของเขา รวมทั้งยังสามารถทำธุรกิจได้ทันที ผมจึงไม่รู้ว่า รมช.มหาดไทย มาดูถูกพ่อแม่พี่น้อง หาว่าใจแคบที่ไปคัดค้านความคิดดีๆ ถามว่าความคิดดังกล่าวนั้น ดี หรือจัญไรกันแน่”นายพิภพ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ในวันอังคารที่ 26 ส.ค.นี้ว่า ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จในการเป่านกหวีดครั้งนี้ เพราะเราเอาธรรมนำหน้า ฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนมากันเป็นเรือนแสน เรือนล้าน เนื่องจากเราต้องช่วยกันกู้วิกฤตของชาติที่เกิดขึ้นในเวลานี้