“เทพไท” เตือน “หมัก” หยุดใช้รายการ “ความจริงวันนี้” ฟาดฟันคนอื่น ยอมสร้างสมานฉันท์ตามคำถวายสัตย์ฯ ย้อนถาม “วีระ” ลืมสัมพันธ์ “ไอ้ซ่าส์จอมเนรคุณ” หลัง “หมัก” ยกย่องเป็นพิธีกรสุดคลาสสิก
วันนี้ (18 ส.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกมาชื่นชมรายการความจริงวันนี้ผ่านรายการสนทนาประสาสมัครว่า หลังจากนายสมัครชื่นชมไปแล้วจะเห็นได้ว่า ทั้งนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ขอบคุณนายสมัครและชื่นชมว่าได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งตนคิดว่าถ้าดูท่าทีของนายวีระแล้วจะเห็นว่านายวีระดีใจเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่เบื้องหลังนายวีระกับนายสมัครเป็นอย่างไร ประชาชนคงทราบ ดังนั้นจึงอยากถามนายวีระว่า วันนี้ลืมหนังสือแก๊งออฟโฟร์ หรือโหงวนั๊งปั๊ง หรือลืมหนังสือสันดานรัฐมนตรี หรือภาพยนตร์ไทยเรื่อง “ไอ้ซ่าส์จอมเนรคุณ” ไปแล้วหรือไร
“ผมเองเมื่อเห็นคุณสมัครแสดงท่าทีต่อคุณวีระ และคุณวีระแสดงท่าทีต่อคุณสมัครอย่างปิยมิตร ทำให้ผมนึกถึงคุณสุชาติ ศรีสวัสดิ์ ผู้ได้รับรางวัลผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น แต่ปฏิเสธที่จะไปรับรางวัลจากนายกรัฐมนตี โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากเสนียดมือ ซึ่งเป็นบุคคลที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งที่ไม่ลืมความหวังครั้งเหตุการณ์ 6 ตุลา” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า จากการดูรายการความจริงวันนี้ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเป็นรายการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อฟาดฟันกับกลุ่มคนที่เห็นต่างจากรัฐบาล โดยเฉพาะที่จะมีการแฉบุคคลรายวัน ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่ผลดีต่อบ้านเมืองแน่นอน โดยเริ่มต้นที่จะแฉนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มสันติอโศก ถึงบุคคลต่างๆ ในองค์กรอิสระ จึงอยากให้นายสมัครทบทวนคำพูดที่ถวายรายงานว่ารัฐบาลจะถอยทุกทาง ไม่ปะทะ ไม่เริ่มต้น ใครแสดงอะไรก็แสดงไป ตนจึงอยากแยกรายงานของนายสมัครออกเป็น 1.รัฐบาลจะถอยทุกทาง อยากถามว่ารัฐบาลถอยจริงหรือไม่ เพราะนายสมัครใช้รายการสนทนาประสาสมัครประกาศว่าจะไม่ถอยอีกแล้ว พร้อมทั้งท้าทายว่าใครจะถือหางใครก็ถือไป แต่จะไม่ยอมถูกรุกไล่ 2.ไม่ปะทะ อยากถามว่าทำไมมีการจัดรายการความจริงวันนี้มาปะทะคารมกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยทุกคืน 3.ไม่เริ่มต้น อยากถามว่าทำไมมีสมาชิกพรรคพลังประชาชน เสนอแนวคิดออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคิดแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งที่กรรมาธิการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญขอยืดระยะเวลาออกไป 15 วัน กลับไม่ยอม 4.การที่ระบุว่าใครจะแสดงอะไรก็ให้แสดงไป ถามว่าวันนี้มีคนเห็นต่างกับรัฐบาล แต่นายสมัครกลับใช้รายการสนทนาประสาสมัครออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีกับบุคคลที่เห็นต่างๆ จากตนเอง
“ถ้าหากนายสมัครทำไม่ได้ ก็หมายความว่าสิ่งที่ท่านได้ถวายรายงานนั้นเป็นเท็จ ซึ่งจะต้องรับผิดชอบ เราจะไม่ยอมให้รัฐบาลใช้รายการความจริงวันนี้ออกมาฟาดฟันบุคคลอื่นๆ องค์กรอิสระ หรือแม้กระทั่งพรรคเองที่ถูกพาดพิงและไม่มีโอกาสชี้แจง หากนายกฯ ต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ ควรจะยุติรายการดังกล่าว หรือหากต้องการให้มีรายการดังกล่าวต่อไป ควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายอื่นชี้แจงด้วย ก่อนที่จะให้ชาติบ้านเมืองไปสมานฉันท์ได้ นายกฯ ควรจะกลับไปทำให้เกิดความสมานฉันท์ภายในพรรคตัวเองก่อนน่าจะดีที่สุด” นายเทพไท กล่าว
ย้อน"กุเทพ"ไปตรวจสอบ"หมัก-แม้ว"งอมโรคขี้กลัว
นายเทพไท กล่าวถึงกรณี ที่ รท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวพาดพิงนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นโรคพารานอย กลัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แม้กระทั่งเงาว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกลัว พ.ต.ท. ทักษิณเลย วันที่ พ.ตท.ทักษิณ มีอำนาจ ทั้งอำนาจเงิน อำนาจรัฐ ทุกอย่างในมือ พรรคประชาธิปัตย์เคยต่อสู้กับพ.ต.ท.ทักษิณ จนกระทั่งพรรคไทยรักไทยถูกยุบไปแล้ว วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในฐานะผู้ต้องหาหนีคดี จึงไม่มีเหตุใดที่พรรคประชาธิปัตย์ หรือ นายสุเทพจะต้องมาเกรงกลัวหรือหวาดผวา กับคนที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นการที่กล่าวหาว่า นายสุเทพเป็นพารานอย ตนอยากให้ ร.ท.กุเทพไปตรวจสอบ นายสมัคร และ พ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นพารานอยหรือ เป็นจิตเภทหรือไม่ เพราะดูพฤติกรรมของนายสมัครแล้ว หากวันไหนอารมณ์เสียนึกจะด่าใครก็ด่า วันไหนอารมณ์ดีอยากจะร้องเพลงก็ร้อง เพราะฉะนั้นต้องไปตวจสอบนายสมัครก่อน
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องตรวจสอบเหมือนกันว่า การที่ออกแถลงการณ์หนีคดีไปอยู่เมืองนอกโดยหวาดผวาอ้างเหตุผลว่าจะมีคนลอบฆ่า ทำร้ายถึงชีวิต ทั้งที่ไม่มีเบาะแสเรื่องนี้เลย อยากถามว่า คนเหล่านี้เป็นจิตเภทหรือพารานอยหรือไม่