xs
xsm
sm
md
lg

“หมัก” จ๋อยลูกพรรคเรียกแจง รับปากทบทวนหน้าที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
เลขาธิการพลังประชาชน ชี้บรรยากาศดีขึ้นหลัง “หมัก” ยอมอ่อนข้อแจงลูกพรรคตบเท้าเรียกถามเหตุ สตช.ประจานการออกหมายจับ ปฏิเสธข่าวมีขบวนการหักหลัง “แม้ว” โวยอย่าเล่นการเมืองระบบเก่า ด้าน “หมัก” จ๋อยรับปากเข้าร่วมประชุมพรรคทุกนัดและพร้อมทบทวนหน้าที่

วันนี้ (20 ส.ค.) นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และรมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ในพรรคที่มีสมาชิกกดดันนาย สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค กันมากว่า ความจริงในพรรคก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันมากมาย อาจเกิดจากไม่ได้มีการพูดคุยกันบ่อยครั้ง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นและไม่ได้พูดคุยกันจึงอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ ซึ่งในที่ประชุมวานนี้ภายหลังจากหัวหน้าพรรคได้ชี้แจงทำความเข้าใจถึงประเด็นปัญหาต่าง ๆ ทุกคนก็มีความเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวที่ออกมาว่านายสมัคร เปรยกับสมาชิกว่าหากมีการกดดันออกมาอีกก็อาจจะมีการพิจารณาตัวเองออกไป นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ท่านเพียงแต่ชี้แจงให้สมาชิกเข้าใจถึงข้อมูลที่สมาชิกซักถามและสงสัยนั้นเป็นอย่างไร และท่านก็พูดเสียงดังเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อถามว่าสิ่งที่นายกฯบอกว่าหากไม่หยุดกดดันก็จะยุติ หมายถึงจะยุบสภา หรือลาออก เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ไม่ได้พูดในลักษณะว่าจะยุบสภาหรือลาออกใด ๆ ทั้งสิ้น ท่านเพียงแต่ชี้แจงสิ่งที่สมาชิกไม่เข้า และเมื่อชี้แจงแล้วยังไม่หยุดกันอีกจึงมีความคิดว่าน่าจะมีการทบทวนในฐานะที่เป็นผู้บริหารว่าจะทำหน้าที่ต่อไปได้อย่างไร คงไม่ได้หมายถึงจะยุบสภา หรือลาออก อย่างไรก็ตามเมื่อมีการชี้แจงกันในพรรคแล้วก็เชื่อว่าหลังจากนี้จะเกิดความเข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งจากนี้ไปก็คงจะต้องทำให้ระบบการจัดการพรรคเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและมีกระบวนการตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค มีสมาชิกมาระบายถึงความไม่สบายใจถึงการออกประกาศหมายจับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และภริยา ของตำรวจหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตอนแรกทุกคนอาจจะไม่เข้าใจกระบวนการออกหมายจับว่าเป็นอย่างไร โดยคิดว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ แต่เมื่อมีข้อมูลออกมาชัดเจนว่าเป็นขั้นตอนการปฏิบัติอยู่แล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นบุคคลที่สื่อให้ความสนใจ จึงมีการเผยแพร่กันไปทั่ว ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้ผิดปกติอะไร

เมื่อถามว่าสมาชิกส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจที่หัวหน้าพรรคหรือแกนนำพรรคไม่ค่อยเข้าร่วมประชุม จนเกิดปัญหาขึ้นมา จะมีการแก้ปัญหานี้อย่างไรหรือไม่ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า มีการพูดคุยกันเหมือนกันว่าพอปิดประชุมสภาไป การพบปะพูดคุยกันในพรรคก็มีน้อยลง ทางผู้บริหารพรรคจึงมีการพูดกันว่า เมื่อเปิดสภาแล้ว มีการประชุมส.ส.ทุกวันอังคาร หัวหน้าพรรคก็จะเข้าร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้ในส่วนของกรรมการบริหารพรรคก็จะมีการจัดประชุมที่เป็นวาระประจำอยู่แล้ว ดังนั้นหากจะมีเรื่องราวอะไรที่สมาชิกต้องการให้กรรมการบริหารพรรคมีส่วนร่วมในการพิจารณาก็จะให้นำเรื่องเข้าสู่กรรมการบริหารทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้กระชับในเรื่องของการจัดการภายในพรรคมากขึ้น และเป็นระบบมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ มาจากสมาชิกไม่พอใจตำแหน่งต่าง ๆ โดยเฉพาะบางคนที่ไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรคจะแก้ปัญหาอย่างไร เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ปกติถ้าเป็นตำแหน่งรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรคได้เคยมอบแล้วว่าให้เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรค ในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่หากเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวกับการประสานกับส.ส.ของพรรค เช่นรองประธานสภาคนที่ 1 ก็มีมติกันแล้วที่จะมอบให้นาย สามารถ แก้วมีชัย หรือประธานวิปรัฐบาล ก็มอบให้นาย วิทยา บูรณศิริ ซึ่งตำแหน่งต่าง ๆ ก็ต้องมีทั้งคนที่สมหวังและผิดหวัง เราก็ต้องชี้แจงไปว่าครั้งนี้ผิดหวังแล้ว ครั้งหน้าก็อาจจะสมหวัง เพราะการพิจารณาก็ต้องดูคนที่เหมาะสมที่สุด เช่นมีความอาวุโส หรือเหมาะในสถานการณ์ขณะนั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงสิ่งที่นายสมัคร ออกมาพูดถึงเรื่องการยุบสภา ที่บอกว่าพรรคอาจจะถูกฆ่า ถูกยุบ แต่กรรมการบริหารทั้ง 37 คนอาจจะไม่โดนฆ่าไปด้วย หมายความว่าอย่างไร หัวหน้าพรรคได้ข้อมูลอะไรเป็นพิเศษมาหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ท่านไม่ได้มีข้อมูลอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่เป็นการพูดคุย คาดการณ์กันเท่านั้น ไม่ไดมีข้อมูลเชิงลึกอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่ามั่นใจในแนวทางที่พรรคเตรียมต่อสู้คดีหรือไม่ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า การต่อสู้คดีนั้น เรามั่นใจในหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ที่ส่งแนบไปให้กกต.ว่าเราได้กำชับสมาชิกพรรคตลอดไม่ให้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าไม่ได้ตั้งพรรคเพื่อไทยมารองรับสมาชิกหากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ แต่ขณะนี้มีสมาชิกบางคนลาออกจากพรรคไปอยู่พรรคเพื่อไทยแล้ว นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่สมาชิกบางคนลาออกไป เพราะไม่ได้หมายความว่าสมาชิกจะอยู่กับพรรคการเมืองใดไปตลอด ถือเป็นสิทธิ ขอยืนยันว่าในส่วนของพลังประชาชนไม่มีการตั้งพรรคใดไว้สำรองแต่อย่างใด เพราะมั่นใจว่าทำถูกต้องและจะอยู่ต่อสู้ที่พรรคพลังประชาชนต่อไป

เมื่อถามว่าการที่กกต.ยืดเวลาการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีก เป็นสัญญาณที่ดี หรือมีนัยยะอะไรที่สอดคล้องกับสิ่งที่หัวหน้าพรรคพูดหรือไม่ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ไม่มีนัยยะอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่กกต.บอกข้อมูลที่ได้รับมาจากคณะอนุกรรมการยังไม่ชัดเจนเท่านั้น

เมื่อถามว่าส่วนตัวเกรงหรือไม่ว่าจะมีการกล่าวหาว่าเป็นคนที่หักหลังพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนที่ 3 ต่อจากนาย สมัคร สุนทรเวช และนาย เนวิน ชิดชอบ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เรื่องการกล่าวหาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของการเมืองแบบเก่า แต่เราพยายามทำการเมืองที่สร้างสรรค์มากกว่า ดังนั้นเราก็ต้องหนักแน่น และสู้การเมืองแบบเก่าให้ได้ เมื่อถามว่าส่วนตัวยังมีการหารือกับพ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องเศรษฐกิจอยู่หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่เคยมีโอกาสหารือกับพ.ต.ท. ทักษิณ เรื่องเศรษฐกิจเลย ยิ่งเมื่อท่านอยู่ต่างประเทศด้วยก็คงยากที่จะได้คุย

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลนี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีพ.ต.ท.ทักษิณ ทางทีดีควรจะลบภาพนอมินีทิ้งหรือไม่ เพื่อแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องการกล่าวหาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในการเมืองแบบเก่าอยู่แล้ว ซึ่งคนที่สู้กันไม่ได้ในเรื่องของการทำงาน สู้ไม่ได้เรื่องนโยบาย ก็พยายามกล่าวหากันด้วยการใส่ร้ายป้ายสีกัน ดังนั้นเราก็ต้องหนักแน่น เมื่อถามว่าการกล่าวหากันเองที่ทำให้สู้กันไม่ได้ มีเรื่องอะไรบ้าง เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า คิดว่าสุดท้ายแล้วการทำงานที่สร้างสรรค์ สามารถที่จะยืนอยู่ได้ภายใต้การกล่าวหากันทางการเมือง ไม่ว่าจากทั้งภายนอกและภายใน อย่างไรก็ตามการเล่นการเมืองแบบเก่าก็ต้องยอมรับว่ามีอยู่ทุกที่ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจกัน

เมื่อถามว่าการเมืองแบบใหม่หมายถึงว่าไม่มีใครคนใด คนหนึ่งในพรรค มีอำนาจอยู่เหนือพรรคอย่างเด็ดขาดหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การเมืองใหม่คือการเมืองเมืองที่ใช้กระบวนการที่สร้างสรรค์ ประชาธิปไตย นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ดังนั้นการที่จะมีใครคนใดคนหนึ่งกำหนดทิศทางพรรค มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการมีส่วนของทุกฝ่าย เมื่อถามว่าการแต่งตั้งบุคคลที่มีมลทินมีผลประโยชน์ทักซ้อนเข้าไปเป็นบอร์ด ไม่ว่าจะเป็นกลต.หรือธปท.ถือเป็นการเมืองแบบใหม่หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นี่ก็เป็นกระบวนการหนึ่งที่จะครอบว่าการทำอย่างนี้มีปัญหา ตนคิดว่าทุกคนมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ก็อยู่ที่ว่าจะให้ใครมาทำงานจุดไหนถึงเหมาะสม วันนี้การกล่าวหามีมากมาย ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องพิสูจน์ที่ผลงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น