xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” เผยชีวิตต้องสู้-ย้ำสิ่งดีๆ ในตัวล้วนมาจากแม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิภพ ธงไชย
“พิภพ” รำลึกพระคุณแม่ เผยพื้นฐานครอบครัวมาจาก อ.วิเศษไชยชาญ และป่าโมก จ.อ่างทอง ผูกพันกับอาชีพครูของฝ่ายตา และอาชีพชาวนาของฝ่ายปู่ย่า บิดาเสียชีวิตขณะตนอายุ 10 ขวบ แต่แม่เลี้ยงดูส่งเสียจนลูก 3 คนจบ ป.ตรีได้ พร้อมถ่ายทอดนิสัยดีๆ ทั้งเรื่องความหนักเอาเบาสู้ เจ้าระเบียบ ละเอียด มัธยัสถ์ และชอบช่วยเหลื่อผู้อื่น

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย กล่าวถึงพระคุณแม่ 

เมื่อเวลาประมาณ 23.20 น. วันที่ 12 ส.ค. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ กล่าวถึงแม่ว่า แม่มีอิทธิพลต่อการสร้างบุคลิกภาพ การให้อาหาร สร้างความเติบโตทางสมอง สมัยที่ตนยังอยู่ในท้องแม่ แม่อาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเป็นคนบ้านนอก อยู่ที่ อ.วิเศษไชยชาญ จ.อ่างทอง อาหารการกินก็หากินกันตามธรรมชาติ แต่ก็คิดว่าแม่ให้อาหารอย่างถูกต้อง เพราะพี่น้องที่มีชีวิตอยู่ก็ไม่มีใครขาดสารอาหาร

นายพิภพ กล่าวต่อว่า แม่ของตนมีอาชีพเป็นครู พ่อเป็นตำรวจ ตนเป็นลูกคนที่ 3 สองคนแรกเสียชีวิตตั้งแต่คลอด ตนเกิดปี 2488 ปีสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีน้องชายกับน้องสาวอีก 2 คน แม่คงได้นิสัยมาจากตา ยกเว้นความเป็นคนดุ เป็นเจ้าระเบียบ ชื่อก็ชื่อ ระเบียบ นามสกุลเดิม ตระกูลแสง เป็นคนมัธยัสถ์ ทำให้ครอบครัวตนเป็นหลักในเรื่องเงินทองของญาติพี่น้อง

ตานั้นเป็นเจ้าของโรงเรียนราษฎร์ป่าโมกวิทยศึกษา ตนชอบอยู่กับตา ตอนเป็นเด็กถูกเลี้ยงดูกับญาติบ้างกับแม่บ้าง แต่ส่วนใหญ่อยู่กับแม่ แม่ยอมรับว่าสมัยเป็นเด็กใช้งานตนมากเพราะเป็นลูกคนโต ทั้งหาบน้ำ ทำสวน เลี้ยงหมู จึงได้ทำงานคู่กับแม่มาตลอด แต่เมื่อทำงานเสร็จแม่ก็ปล่อยให้ไปเล่นกับเพื่อน

แม่เป็นคนหนักเอาเบาสู้ ทำงานทุกอย่าง นอกจากทำสวนครัวเพื่อลดค่าใช้จ่าย เวลาเขาสำรวจประชาชนก็รับเขียนทะเบียนราษฎร์ ตนอยู่ ป 5-ป.6 ก็ไปคัดลอกสำเนาทะเบียนบ้านที่สำรวจใหม่

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ชีวิตของตนอยู่กับแม่ได้เรียนรู้จากแม่ ทำให้ติดนิสัยเจ้าระเบียบมาจากแม่ แม่มีส่วนในการสร้างนิสัยและบุคลิกของลูกมากที่สุด แม่จะให้สิ่งดีๆ ในการเอาใจใส่กับงาน เช่น เช็ดถูบ้าน เลี้ยงหมู หั่นต้นกล้วย ซึ่งตนหั่นได้อย่างชำนาญมาก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแม่เป็นครูและต้องย้ายไปเรื่อยๆ ตนก็ตามแม่ไปเรียนหนังสือตามที่ต่างๆ สมัยที่ตนอยู่อ่างทองจะมีน้ำหลากทุกปี ที่บ้านมีเรือบด แม่จะพายไปสอนหนังสือ ต้องตัดแม่น้ำน้อยไป เราก็รู้วิธีว่าจะตัดแม่น้ำที่เชี่ยวกรากอย่างไร ทำให้ตนพายเรือเก่ง และมีความสุขกับชีวิตที่สมดุลในอำเภอวิเศษไชยชาญ โรงหนังตอนนั้นก็ยังไม่มี นานๆ จะมีเรือมาฉายหนังขายยา ญาติพี่น้องก็พากันไปปูเสื่อดูกัน

นายพิภพ กล่าวว่า พ่อเสียชีวิตตั้งแต่ตนอายุ 10 ขวบ จึงต้องย้ายไปอยู่อำเภอป่าโมก กับญาติฝ่ายแม่ และบางครั้งก็ไปอยู่กับปู่กับย่าที่เป็นชาวนาแท้ๆ ตนก็เคยไปอยู่ด้วย ไปหัดขี่ควายที่นั่นและไปหัดทำไร่กับปู่ เป็นไร่แตง เมื่อวานได้ฟังพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่พระองค์ท่านตรัสถึงการให้ชาวนากลับมาใช้ควาย ตนจึงดีใจเป็นพิเศษ

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ชีวิตของตนก็จะอยู่ระหว่างชาวนาทางปู่ย่าอีกด้านหนึ่งก็อยู่กับครูทางตา ซึ่งเป็นศึกษาธิการอำเภอป่าโมก และตอนนั้นยังไม่มีโรงเรียนประจำอำเภอ ลูกของคนในตลาดจึงไปเรียนที่โรงเรียนราษฎร์ป่าโมกวิทยศึกษาหมด ตาของตนจึงกลายเป็นครูของคนทั้งตลาดป่าโมก และเป็นครูจนกระทั่งสิ้นชีวิต ตาเป็นคนใจดี ชอบช่วยคนจน เด็กในตลาดบางคนก็ไม่เก็บค่าเล่าเรียน ซึ่งแม่น่าจะได้นิสัยนี้มาด้วย

แม่ของตนเป็นครูจนเกษียณ แล้วมาอยู่กับตนที่บ้านที่นครปฐม และที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็กกาญจนบุรี นิสัยต่างๆ ที่อยู่กับแม่ก็จะถ่ายทอดมาอยู่กับตน บ้านเดิมตนเช่าที่วัดที่อำเภอวิเศษไชยชาญอยู่ ศาลาวัดก็เป็นที่เรียนหนังสือ วันพระแม่ก็พาไปวัด ไปถวายภัตตาหารพระ ตนก็ได้รับสิ่งดีๆ มา

นายพิภพ กล่าวอีกว่า ตนผูกพันกับแม่ทั้งฐานะเป็นนักเรียนของแม่และเป็นลูกที่ถูกสอนในระบบบ้านและครอบครัว ความมัธยัสถ์ ความละเอียดติดมาจากแม่ ตนเรียนหนังสือไม่เคยทำหนังสือยับ ไม่กล้าเขียนอะไรลงไปในหนังสือ เสื้อผ้าก็รีดเอง ตนจึงทำงานด้วยตัวเองได้ทุกอย่าง ถึงตอนหลังจึงอยากให้คนอื่นทำบ้าง และโชคดีที่ตนเองได้ภรรยาดี แม่ก็รักลูกสะใภ้มาก จึงไม่ต้องดูแลแม่เองมากนัก

แม่ตนโชคดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บประจำตัวแรงๆ ความจำยังดีมาก ตนได้ขอให้แม่เขียนประวัติของตัวเอง บางช่วงนึกถึงความหลังก็ร้องไห้แล้วหยุดเขียน แม่ตนอายุ 86 ปี ยังเดินได้แม้จะใช้เครื่องช่วยพยุงบ้าง ความเป็นครูมานานทำให้แม่เบื่อที่จะสอนเด็ก แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนจะออกจากโรงเรียนหมู่บ้านเด็กบอกว่าอยากจะสอนเด็กทำตุ๊กตาชาววัง

ตนเป็นคนตามใจแม่ แม่อยากจะอยู่กับลูกหลานคนไหนก็ตามใจ ท่านก็มีความสุข เห็นลูกมีความมั่นคง ตนไม่ได้พบแม่มา 80 วันแล้ว ตั้งแต่มาชุมนุมพันธมิตรฯ แต่ได้ติดตั้งเอเอสทีวีให้แม่ดู แม่เคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับอำนาจรัฐกับพ่อสมัยก่อน พ่อเป็นตำรวจที่ดีมีความซื่อสัตย์ คนไทยเชื้อสายจีนในตลาดวิเศษฯ ต่างพากันรัก หลังพ่อตายมีคนในตลาดช่วยดูแลย่าจนสิ้นอายุ และดูแลน้องชายของตนจนช่วยตัวเองได้

“ความเป็นครู ความเป็นคนดี ความเป็นคนซื่อสัตย์ ทั้งพ่อและแม่ มีอิทธิพลต่อผมในเรื่องนี้ ความเป็นคนละเอียด ประหยัดมัธยัสถ์ ก็ติดมาด้วย”

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ชีวิตที่อยู่กับแม่ที่เอาใจใส่ลูกนับว่าวิเศษ ตนรู้จักกับชีวิตเด็กๆ มากมาย เพราะทำโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก เด็กแต่ละคนแม้จะมีปัญหาถูกแม่ทิ้ง แต่ทุกคนก็จะกลับไปหาแม่ ไปเลี้ยงดูแม่ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าแม่จะเป็นอย่างไร แต่เด็กๆ ทุกคนต้องการไปหาแม่ จึงอยากจะเรียนไปถึงคนที่เป็นแม่ว่า ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก มีอยู่ไม่ขาด ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหน ก็จะกลับไปหา

นายพิภพ กล่าวอีกว่า ตนเรียนที่โรงเรียนราษฎร์ป่าโมกของตาจนจบ ม.4 แล้วมาเรียนต่อโรงเรียนนันทนศึกษา จนจบ ม.6 และกลับไปเป็นครูที่โรงเรียนของตา ซึ่งเสียไปแล้ว ลูกชายมาทำต่อ หลังจากนั้นมาเรียนต่อที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จฯ แม่ก็พยายามส่งเสียให้เรียนอย่างไม่เคยย่อท้อ พอจบ ปกศ.สูง พอทำงานได้ ตนก็ออกมาเป็นครู หาเงินส่งเสียตัวเอง แล้วไปเรียนภาคค่ำที่ประสานมิตร เพื่อแบ่งเบาภาระ เพราะแม่ต้องส่งน้องชายกับน้องสาวเรียนอีก ซึ่งแม้ว่า สามีของแม่จะเสียชีวิตแล้ว แต่แม่ก็ส่งลูกเรียนจบปริญญาตรีทุกคน โดยมีญาติพี่น้องมาช่วยส่งด้วย

พี่น้องของตนในสายแม่จะสนิทสนมกันมาก เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ไม่รวย แต่พอมีพอกินพอใช้ ทำให้ตนมีแนวคิดว่า น่าจะมีการจัดสวัสดิการ ให้ครอบครัวที่พอมีพอกินพอใช้นี้ได้ยืนรอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างไร แล้วก็ได้บทเรียนอันหนึ่งก็คือว่า สามีและภรรยาต้องทำงานกันทั้งคู่ ไม่เช่นนั้นถ้าผู้หญิงให้สามีเลี้ยง เวลาสามีเสียชีวิตผู้หญิงจะลำบากมาก

สำหรับแม่ แน่นอนเรามีหน้าที่ให้ความสบายใจ จะไม่พูดอะไรที่ทำให้แม่ไม่สลายใจ ตามใจแม่ทุกอย่าง แม่อยากจะเล่นไพ่ ก็เล่น เพราะไม่ได้พนันเอาอะไรมากมาย สมองจะได้ไม่เป็นอัลไซเมอร์ ก็ดูแม่มีความสุขดี ที่ได้เห็นลูกๆ พร้อมหน้า แม่จะดีใจที่ได้เห็นหน้าลูกทุกคนเพราะเป็นห่วงลูกๆ แม่จะรักลูกทุกคนเท่ากัน ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานของการสร้างความยุติธรรม ซึ่งตรงกับหลักจิตวิทยาสมัยใหม่ ทำให้ตนเห็นว่าการเลี้ยงลูกแบบไทยๆ หลายอย่างก็ตรงกับหลักจิตวิทยาของโลกตะวันตกที่ได้ศึกษามาตามหลักวิชาการ

นายพิภพ ย้ำว่า สิ่งดีๆ ที่ตนมีนั้นมาจากแม่ทั้งหมด และกลายเป็นนิสัยไปด้วย แต่สิ่งที่ไม่ดีที่เป็นนิสัยของตนนั้น ไม่ได้มาจากแม่ เป็นเรื่องของตนเอง วันนี้จึงถือโอกาสกราบขอบพระคุณแม่ โดยได้ให้ภรรยาโทร.ไปบอกแม่ว่า จะพูดถึงแม่ทางเอเอสทีวี และจะบอกว่ารักแม่คิดและถึงแม่
กำลังโหลดความคิดเห็น