“พิภพ” สอน “หมัก” รู้จักรักรากเหง้าของตัวเอง อย่าสักแต่เสี้ยมให้คนไทยแตกแยก จวก นิสัยเสีย ชอบยุแยงตะแคงรั่วเต้าข่าวเป็นนิจ ตั้งข้อสังเกต จงใจจะใส่ร้ายหวังยัดข้อหาทำลายพันธมิตรฯ ขณะเดียวกัน ยกปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ฟาดปากให้สำนึก หมดสิทธิ์ออกกกฎหมายฮิตเลอร์ลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ และขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 23.50 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่าใส่เสื้อลูกจีนรักชาติเป็นการแบ่งแยกนั้น รากที่แท้จริงของเรา เพื่อบอกว่าเรามีรากมาจากอะไร รากอันนี้สำคัญ อยากบอกให้นายสมัครรับรู้ไว้ว่าในสังคมที่ศิวิไลน์แล้ว เขาจะไม่ให้คนที่เกิดมาลืมรากตัวเองแล้วเกิดความอับอายว่ารากของตัวเองเป็นเช่นไรมา อย่างกรณีของนักกอล์ฟชื่อดังของโลกที่มีแม่เป็นคนไทย เขามาเมืองไทยไม่เคยรู้สึกเลยว่าเป็นคนไทย อันนี้ล่ะสำคัญ
นายพิภพ ได้ยกตัวอย่างหนังสือชื่อ “รูท” ที่สหรัฐฯ ซึ่งคนผิวดำเขียน บอกว่ารากตัวเองมาจากไหน ตามไปถึงอัฟริกา แต่เขาก็บอกว่าเป็นชาวอเมริกัน นี่ก็เหมือนกัน ลูกจีนในไทยก็ต้องบอกว่ารากของตัวเองมาจากไหน ให้รู้ราก แต่เมื่อมารวมบนผืนแผ่นดินไทย อยู่ใต้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯแล้ว เราก็ต่างมีจิตเดียวกันคือรักชาติและรักในหลวง
นายพิภพ ยังยกตัวอย่าง ที่อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากร เขียนไว้ในหนังสือว่าเคยถูกล้อว่าลูกเจ๊กลูกจีนบ้าง ก็จะเกิดความอับอายต้องปิดบังว่าตัวเองไม่ใช่นั่นสมัยเมื่อ 70-80 ปีมาแล้ว อันนั้นสิทำให้แตกความสามัคคี ดังนั้นเราจะต้องทำให้ทุกคนภูมิใจในรากของตัวเอง และเคารพในรากของคนอืน แต่วันนี้ลูกจีนในไทยบอกว่าตัวเองรักชาติ ไม่ได้หมายความว่าไปบอกว่าลูกแขกไม่ได้รักชาติ ลูกไทยไม่ได้รักชาติ จริงๆ คำจีนข้างหลังเสื้อลูกจีนรักชาติ แปลได้ว่า “ลูกจีนในไทยรักชาติไทย” หรือ “คนไทยเชื้อสายจีนรักชาติไทย” นี่คำแปลถูกต้องโดยละเอียด เสียหายตรงไหน เมื่อเราบอกเป็นลูกจีนในไทยแล้วรักชาติไทย ทำให้แตกความสามัคคีตรงไหน จะเป็นพุทธศาสนิกชน เป็นมุสลิม เป็นคริสเตียน คริสตัง ก็รักชาติไทยเหมือนกันถึงแม้จะนับถือศาสนาแตกต่างกัน
“คุณสมัครอย่ามาเสี้ยมให้คนไทยแตกแยกกัน เพราะเขาต้องการแสดงความรักชาติไทย ถึงแม้จะมีรูทหรือรากมาจากคนละที่ก็ตาม แต่คนจำนวนมากเกิดในเมืองไทย ถึงไม่ได้เกิดในเมืองไทย ก็มาทำมาหากินในเมืองไทย แล้วก็รักชาติไทยรักในหลวง อันนี้คือเราต้องการแสดงให้รู้” นายพิภพ กล่าว และว่า เรื่องลูกเจ้าพระยาก็เหมือนกัน มาอยู่ที่นี่ก็เยอะที่เวทีพันธมิตรฯ แต่ลูกเจ้าพระยาที่ไม่รักชาติ หมายถึงลูกเจ้าพระยาที่อยู่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น เพราะคุณอวดตัวเป็นลูกเจ้าพระยา คุณต้องแสดงความรักชาติ ตั้งแต่ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน รักษาดินแดน ไม่ให้ชาติแตกความสามัคคี
ทั้งนี้ นายพิภพ กล่าวว่า นายสมัครนิสัยเสียอย่างหนึ่ง ชอบยุแยงตะแคงรั่ว ชอบเต้าข่าว คุณสมัครจะยอมรับไหมล่ะว่า สมัย 6 ตุลา ตัวเองเต้าข่าวหรือมีส่วนในการเต้าข่าว หาว่า คนที่ถูกฆ่าเป็นญวน และมีอุโมงค์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีอาวุธ แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปปรากฎว่าไม่มีลูกญวณเลย และในธรรมศาสตร์ก็ไม่มีอุโมงค์และอาวุธ ทีมที่เต้าข่าวในสมัยนั้นมี 4 คน วันหลังจะเปิดเผยให้ฟัง
นายพิภพ กล่าวต่อว่า วันนี้นายสมัครเต้าข่าวว่ามีการเขียนรัฐธรรมนูญที่เชียงใหม่ โดยนัยะก็คือกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ ไปซ่องสุมกลุ่มกันเพื่อจะเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ การเต้าข่าวตรงนี้ของนายสมัคร หมายความว่า พันธมิตรฯกับคนที่เกี่ยวข้องกำลังจะล้มล้างรัฐธรรมนูญ 2550 โดยการเขียนขึ้นมาใหม่ นี่เป็นการเต้าข่าว หรือนัยะเสมือนว่าพันธมิตรฯจะสนับสนุนให้มีรัฐประหารและเตรียมร่างรัฐธรรมนูญไว้แล้ว พอรัฐประการปั๊บก็ประกาศรัฐธรรมนูญเลย นักข่าวถามตนเมื่อเช้า ตนบอกว่าจะให้ปฏิเสธยังไงเพราะไม่รู้เรื่องเลย
“เมื่อนายสมัครเต้าข่าวมาก็เอาข่าวมาสิ อย่าเป็นนิสัยเต้าข่าวแบบสมัยก่อน เพราะคุณสมัครกำลังจะโยงว่าเราเป็นกบฏล้มล้างรัฐธรรมนูญ นี่คือนัยที่คุณสมัครกำลังจะกล่าวหาพวกเรา เพราะในรัฐธรรมนูญบอกไว้ว่า ถ้ามีพบว่ากลุ่มใดจะล้มล้างรัฐธรรมนูญให้มีสิทธิต่อต้านพวกที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญได้ คุณสมัครกำลังจะทำอะไรในเกมนี้ ก็คือกำลังจะกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมอยู่นี้ กำลังจะวางแผนล้มล้างรัฐธรรมนูญก่อให้เกิดการรัฐประหาร และกำลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่ ฉะนั้นประชาชนชาวไทยก็มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะต่อต้านพันธมิตรฯเพราะหาว่ากำลังจะล้มล้างรัฐธรรมนูญแล้วตั้งข้อกล่าวหากบฏได้เลย เกมนี้ต้องระวังว่าคุณสม้ครกำลังจะทำอะไร” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า คนอย่างคุณสมัครใน 30-40 ปีนี้ไม่เปลี่ยนไปเลย พูดโกหกยังไง เต้าข่าวยังไง ก็ทำ ซึ่งผู้นำประเทศเขาไม่ทำกัน เรากำลังมีนายกฯที่พูดเท็จเป็นจริง พูดจริงเป็นเท็จ จนประชาชนสับสนไปหมดว่าอะไรจริงอะไรเท็จ แต่ตอนนี้เราเชื่อแล้วว่าคุณสมัครพูดเท็จมากกว่าจริง เป็นรัฐบาลมา 4-5เดือนพูดเท็จมากกว่าจริง เต้าข่าวอยู่เรื่อย
นายพิภพ กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้เอาอีก ที่บอกว่าพันธมิตรฯ กลัวจะแก้มาตรา 63 พันธมิตรฯไม่เคยสนใจเรื่องมาตรานี้ เพราะคิดว่าเป็นมาตราสากล มีปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติที่เราไปลงนามร่วมรับรองไว้อยู่แล้ว และก็มีเรื่องสิทธิการชุมนุมอย่างสงบระบุไว้ด้วย แล้วนายสมัครหลอกเราอีก คือ ไม่แก้มาตรา 63 แต่กลับไปเขียนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เพื่อจะจัดการ การชุมนุมของเรา เริ่มตั้งแต่ขวางถนนไม่ได้ ถ่ายทอดจอใหญ่แบบนี้ไม่ได้ ต้องการเล่นงานเราอย่างเดียวเลย แต่วันนี้ถอยนิดๆแล้ว เพราะถ้าเสนอกฎหมายเข้าสภาเมื่อไหร่จะถูกค้านโดย ส.ว. และจะถูกนำไปสู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ ขัดกับสิทธิพลเมือง ในองค์การสหประชาชนมีปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองด้วย
“คุณสมัครไม่เคารพกฎหมาย กฎหมายรัฐธรรมนูญก็ไม่เคารพ กติการะหว่างประเทศที่ไปลงนามไว้ที่องค์การสหประชาชนก็ไม่เคารพ รัฐธรรมนูญหลายมาตราเขียนขึ้นจากฐานของกติกาสากลฯ ที่รัฐบาลไทยไปเซ็นสัญญาไว้ เช่น ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิเด็ก เป็นต้น เมื่อไปเซ็นไว้แล้วก็จะต้องมาเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมาย คนอย่างคุณสมัคร เป็นนายกฯไม่ได้หรอก ต้องไปทำอาชีพอื่น แล้วก็ไม่รู้ว่าไปทำอาชีพอื่น คนในอาชีพนั้นเขาจะรังเกียจคุณสมัครไหมว่าทำให้อาชีพเขาเสีย ผมว่าเขารังเกียจ เพราะคนพูดไปพูดมา พูดผิดพูดถูก เดี๋ยวมีอารมณ์ฉุนเฉียวกับนักข่าว เดี๋ยวหน้าบึ้ง มีปัญหาด้านอารมณ์และสติ จับไม่ถูก แต่ยังอยากเป็นนายกฯต่อ” นายพิภพ กล่าว และว่า ตอนนี้ได้ข่าวว่าจะตีจากทักษิณแล้ว จะสร้างแก๊งของตัวเอง ฉะนั้นรัฐบาลพรรคพลังประชาชนจะกลายเป็นสองสามแก๊งแล้ว
นายพิภพ กล่าวว่า ดังนั้น เราจึงต้องชุมนุมเพื่อจะขับไล่นายสมัคร เพราะอยู่ไปรังแต่จะทำความเสียหายให้ประเทศ แต่งตั้ง ครม.ก็ไม่ได้รับการสรรเสริญเลย ถามไปตั้งประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิของรัฐบาลก็จะไปขัดรัฐธรรมนูญอีก เพราะว่าไปเอาคนที่เป็นที่ปรึกษาบริษัทต่างๆเข้ามา เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนและรู้ข้อมูลอินไซเดอร์ ทำแบบนี้บริษัททั่วโลกเขาจะยินดีมาลงทุนหรือ เพราะจะมีกลุ่มบริษัทหนึ่งทำงานกับรัฐบาล บริษัทอื่นเข้ามาก็ต้องแพ้หมด
“ฉะนั้นที่ ดร.โกร่ง (วีรพงษ์ รามางกูร) มาพูดว่า พันธมิตรฯ ชุมนุมทำให้ต่างประเทศจะไม่มาชุมนุม เพราะพันธมิตรฯต้องการให้มีรัฐประหาร ต่างประเทศก็ไม่กล้ามาลงทุน ถามหน่อยเถอะว่า พันธมิตรฯมีอำนาจไปให้ทหารเขารัฐประหาร เมื่อเราสู้ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญเท่านั้น หน้าที่ของรัฐบาลสิจะต้องไม่ให้เกิดความขัดแย้งไปสู่การรัฐประหาร แต่รัฐบาลก็ทำความขัดแย้งตลอดเวลา”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ดร.โกร่งไม่เคยพูดถึงทุจริตคอร์รัปชันเล ว่าประเทศไทยมีสูง และไม่มีธรรมาภิบาล ไม่ใช้กฎหมายเป็นหลักไม่มีความโปร่งใส่ แล้วบริษัทดีๆ ที่ไหนเขาจะมาลงทุน นอกจากบริษัทที่พร้อมจะจ่ายใต้โต๊ะ แล้วเราต้องการบริษัทแบบนี้หรือ ดร.โกร่งไม่เคยวิจารณ์รัฐบาลทักษิณ รัฐบาลไทยรักไทย ผูกขาดในการทำธุรกิจ ทำให้ต่างชาติไม่อยากมาลงทุน นอกจากต่างชาติที่พร้อมจะมาจ่ายเงินใต้โต๊ะ
“ดร.โกร่งจะต้องพูดถึงการทุจริตคอรัปชั่นด้วย ว่ามีผลกระทบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจยังไง จึงจะถือว่าวเป็นที่ปรึกษาที่ดี แต่วันนี้ไม่พูดเลยว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันอย่างไรบ้างที่ทำให้เศรษฐกิจมีปัญหา ดร.โกร่งพูดไม่หมด พูดเอาแต่ได้กับตัวเอง ประจบรัฐบาลโจมตีพันธมิตรฯ ไม่พูดธรรมาภิบาล ตัวเองก็ไม่ยอมเสียสละ จนอาจจะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังมุ่งจะจ้องเล่นงานพันธมิตรฯ หาทางไม่ให้มีการจัดเวทีทุกวิถีทาง แล้วก็หลอกเรื่องแก้รัฐธรรมนญ เลื่อนไปเรื่อยๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 18 ส.ค. เลื่อนอีกแล้ว แสดงว่ารัฐบาลนี้มีแผนทับซ้อนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องเอามาเปิดโปงในโอกาสต่อไป