“แกนนำพันธมิตรฯ” ขึ้นเวทีปลุกขวัญกำลังใจพี่น้องนักศึกษามหาวิทยาลัยราชดำเนินเรือนแสน ที่มุ่งหน้ารวมพลังชุมนุมใหญ่ ณ เวทีมัฆวาน วันนี้ ชี้ ถือเป็นซ้อมใหญ่ก่อนรับปริญญาจริง เย้ย “พลังแม้ว” ขี้ขลาด ผวาพลังคนไทยไล่ส่ง หนีจุกตูดเลื่อนแก้รัฐธรรมนูญ ลั่น หากยื่นแก้เมื่อไหร่ก็พร้อมเคลื่อนพลต้านทุกเมื่อ
วันนี้ (1 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.54 น.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย และ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 3 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การจัดชุมนุมใหญ่วันนี้ เป็นเพราะเราจะหยุดยั้งไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งครั้งก่อนเราได้ต่อต้านจนมีการถอนชื่อออกไปจนไม่สามารถยื่นแก้รัฐธรรมนูญได้ และขณะนี้รัฐบาลยืนยันว่าจะต้องยื่นแก้รัฐธรรมนูญให้ได้อีกครั้ง เราไม่รู้จะพึ่งพาใคร ก็พึ่งพากันเองนี่ล่ะ
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า แล้วด้วยความริเริ่มของ สรส.ซึ่งจัดชุมนุมเมื่อเช้านี้ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อกดดันไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และตัวแทน สรส.ยืนยันชัดว่าถึงแม้จะมีการเลื่อนยื่นแก้รัฐธรรมนูญไป 18 ส.ค.ก็ตาม จะยื่นเมื่อไหร่เกิดเรื่องเมื่อนั้น ทุกท่านที่มาร่วมวันนี้ ท่านเคยมาแล้วตั้งแต่ปี 49 ซึ่งเรายุติไปเมื่อ 30 มี.ค.49 เป็นเวลา 33 วัน เพราะเรสามารถเรียกร้องให้นายกฯลาออกไปได้ แล้วคราวนี้ ก็เป็นวันที่ 69 อีกแล้ว เป็นสองเท่ากว่าๆ ของคราวที่แล้ว ถึงแม้บางท่านไม่สามารถมากินนอนกับเราได้ทุกวันทุกคืน หลายท่านก็ฟังเอเอสทีวี ฟังวิทยุ และส่งกำลังใจ กำลังทรัพย์ อาหาร ฯลฯ มาช่วยเหลือพวกเราโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า คราวนี้ถือว่าเป็นการซ้อมใหญ่ คราวหน้าถ้าเป่านกหวีดคงจะมาเยอะแยะกว่านี้อีก ท่านที่อยู่บ้านก็ได้ติดตามข่าวคราว และฟังเราพูดเสมอว่า พวกเราได้เกิดมาทั้งที่ใช้หนี้แผ่นดินครั้งนี้ก็แสนจะคุ้ม เพราะว่าเป็นจุดโหว่ที่หน่วยงานใด หน่วยราชการไหนก็ไม่สามมารถมาทำหน้าที่อย่างนี้ได้ มีแต่เฉพาะพวกเราเท่านั้นที่ทำให้เกิดเรื่องดีงามเกิดขึ้นในบ้านเมือง และเป็นการกู้วิกฤติของชาติอย่างแท้จริง แต่ละวันที่ผ่านไปเราก็ภาคภูมิใจว่า วันนี้เพิ่มอีกวัน พรุ่งนี้ก็เพิ่มอีกวันที่เราได้ใช้ความอดทน ท่านทั้งหลายได้มาร่วมกันทำในสิ่งที่คนอื่นทำได้ยาก เสียสละความสุขส่วนตัว ทิ้งบ้านทิ้งช่องมา และเราก็เอาชนะในสิ่งที่คนอื่นเอาชนะได้ยาก
ด้าน นายพิภพ กล่าวว่า ชัยชนะของเราวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องที่เรารักษาระบบ กระบวนการยุติธรรมไว้ได้แล้วทำให้ตุลาการภิวัฒน์ทำงาน ทำให้กระบวนการยุติธรรมที่เราปกป้องตั้งแต่ต้น สามารถไปจนถึงที่สุดของคดีหนึ่งคดีแรกแล้ว ในจุดยื่นที่เรายืนอย่างมั่นคุงมาตลอดว่าเราต่อสู้เพื่อพิทักษ์กระบวนการยุติธรรม และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ว่าทำผิดกฎหมายอะไรบ้าง ขณะเดียวกัน เราจะต้องมายันไม่ให้เขาแก้รัฐธรรมนูญได้ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญก็คือการนำไปสู่การพังทลายของกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ
นายพิภพ กล่าวต่อว่า วันนี้ เขาบอกว่า จะยื่นแก้รัฐธรรมนูญเพื่อจะเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทำลายองค์กรอิสระไม่ให้สามารถจัดการคดีที่เหลือได้ เขาเห็นว่าเรามาเป็นจำนวนมหาศาล เป็นเรือนแสน เขาถอยอีกแล้ว ถอยไปวันที่ 18 ส.ค.2551 เราก็จะสู้ไปจนถึงวันที่ 18 ส.ค.2551 ยังไงเราก็จะต้องเสียสละไม่ให้เขาแก้รัฐธรรมนูญได้ ความยุติธรรมต้องเกิดขึ้นกับประเทศนี้ วันนี้ ต้องขอบคุณพี่น้องอย่างสูงด้วยความเคารพรักในจิตใจ กล้าสู้ กล้าชนะ กล้าเปลี่ยนแปลงสังคม กล้าทำให้กระบวนการยัติธรรม ทุกระดับ มีขวัญกำลังใจที่จะทำงานต่อเพื่อผดุงความยุติธรรม เอาคนผิดมาลงโทษ
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราเป็นพลเมืองดีมาทำหน้าที่ปกป้องรักษาอำนาจอธิปไตย และรักษาผลประโยขน์ของประเทศชาติ วันนี้ก็เหมือนการซ้อมรับปริญญา พี่น้องก็เลยมากันมาก แล้วตกเย็นก็จะมาอีกเยอะ เพราะเมื่อซ้อมแล้วก็จะต้องรับจริง ความสำเร็ขของนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก็คือ การไล่รัฐลบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณออกไปโดยเร็วที่สุด ถ้าไล่ไม่ไป ก็ไม่ได้ปริญญาสักคนเดียว การต่อสู้ครั้งนี้ เอาประเทศเป็นเดิมพัน และชีวิตเราทุกชีวิตก็เป็นเดิมพันที่จะต้องขับไล่รัฐบาลที่ขายชาติออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุด
“เขาไม่มีความชอบธรรมทุกอย่างแล้ว เพราะเขาทำผิดกฎหมายสูงสุดของการปกครองประเทศ แล้วสุดท้ายไปไหนไม่ได้ก็จะแก้รัฐธรรมนูญ ทีแรกว่าจะแก้วันนี้ เห็นไหม มันหลอกลวงจนนาทีสุดท้าย พอวันที่ 1 ส.ค.เราบอกว่าถ้าจะแก้เจอกัน มันก็หนีไปแล้วบอกจะแก้วันที่ 18 ส.ค.นี้อีก มันไปเรื่อยๆ นี่ก็แปลว่ารัฐบาลพวกจะแก้รัฐธรรมนูญมันขี้ขลาด ถอยหลังแล้ว มันกลัว พี่น้อง ยืนยันนะครับว่า ไม่มีเหตุผลอะไรจะแก้เพราะแก้ไปก็เพื่อจะฟอกความผิด”นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า คำพิพากษาแต่ละเรื่องๆ เราจะเห็นว่าทำให้พี่น้องได้เงินของพี่น้องแต่ละคน คราวนี้ได้กลับคืนมาประมาณ 65 ล้านบาท นี่เพราะฝีมือของประชาขนและเครือข่ายพันธมิตรฯทั่วประเทศไทย และต่างประเทศ ชัยชนะที่จับต้องได้เป็นเงิน แต่ว่าเงินนั้นอยู่กับส่วนรวม ไม่ใช่เอาเข้ากระเป๋าใครกระเป๋ามันเหมือนพวกนักการเมืองชาติชั่วหุ่นเชิดที่มันโกงกินอยู่
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เพราะฉะนั้น เหลือเวลาไม่นาน เมื่อเขาไม่มีเหตุผลชอบธรรม ย้ำอีกรัฐธรรมนูญนี้ ฉบับแรกในเอเชียแปซิฟิค และในประเทศไทย ที่ประชาชนรับรอง 14.7ล้านเสียง และเป็นรัฐธรรมนูญฉบับพิฆาตนักการเมืองชั่วให้หมดสิ้นแผ่นดิน เราต้องปกป้องด้วยชีวิต ทรัพย์ที๋โกงไปยังมีอีกตั้ง1.8 แสนล้านบาท ได้มา 500 ล้าน จิ๊บจ๊อยนิดเดียว และไอ้หัวโจกจอมชั่วหัวหน้าลูกกรอกยังลอยนวลอยู่ เอาเงินมาอย่างเดียไม่ได้ ต้องเอาพวกชั่วติดคุกประหารชีวิตด้วย
