“พิภพ-สมศักดิ์” ให้กำลังใจพี่น้องพันธมิตรฯ เรือนแสน ที่ร่วมเดินเท้าผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์ทางการเมืองเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชี้ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ต่อสู้ด้วยความอหิงสาและไม่เสียเลือดเนื้อ ย้ำหากรัฐบาลหุ่นเชิดยื่นแก้รธน.ฟอกมารเมื่อไหร่ เป่านกหวีดชุมนุมต้านอย่างถึงที่สุดภายใน 7 วันแน่ ขณะเดียวกัน วอนผู้ร่วมชุมนุมฟังเสียงแกนนำฯในการขับเคลื่อนเท่านั้นพร้อมอยู่ในระเบียบวินัย เพื่อสวัสดิภาพของทุกคนและบรรลุเป้าหมายการชุมนุม
วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.46 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ หลังเดินทางกลับมาจากการเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเราประสบความสำเร็จในการซ้อมรับปริญญา ส่วนวันรับจริงหรือเป่านกหวีด ก็คือ ตามที่แกนนำพันธมิตรฯ ได้หารือเป็นมติเอกฉันท์แล้วว่า วันใดที่รัฐบาลได้ยื่นให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายใน 7 วันหลังจากนั้น เราจะเป่านกหวีดนัดชุมนุมใหญ่ รัฐบาลไม่ไปเราไม่กลับ เมื่อเราไม่กลับเวลามาต่อสู้ไม่ใช่มาแค่คิดว่าวันครึ่งวัน อาจจะ 7วัน 5 วัน หรืออาจจะมากกว่านั้น แต่เราต้องพร้อมที่จะต่อสู้จนถึงที่สุดในทุกรูปแบบ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การต่อสู้ให้ฟังแกนนำทั้ง 5 อย่างเดียวอย่างเป็นทางการ อย่าไปฟังคนอื่น เพราะว่าอาจจะย่างก้าวผิดพลาด ชัยชนะที่เราสะสมมาจะต้องเพิ่มพูนขึ้นไม่ใช่ผิดพลาดและถอยไปสูญเสียไป ขอให้พี่น้องรู้ว่าการต่อสู้ต้องใช้ทั้งสติปัญญาและประสบการณ์ที่ฉลาดในการต่อสู้ด้วยพลังประชาชนที่มีแต่มือว่างเปล่า กับหนึ่งสมอง สองขาสองเท้าและหัวใจที่มั่นคงแน่นอน ความจริงใจที่จะไม่มีการทรยศหักหลังกันเด็ดขาด
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้หากเราจะต้องมีการชุมนุมใหญ่ ขอให้ไปชักชวนกันมาเยอะๆ นี่คือการบ้านทำวิทยานิพนธ์ วิทยานิพนธ์ที่จะทำสำเร็จไม่ใช่เศษกระดาษ สำเร็จก็คือรัฐบาลนี้ต้องออกไป รัฐธรรมนูญต้องไม่มีการแก้ไข และเพื่อให้กลไกยุติธรรม ดำเนินไปตามกระบวนยุติธรรมดำเนินไป เรามั่นใจว่าสิ่งพวกนี้ระบอบทักษิณและรัฐบาลหุ่นเชิดได้กระทำผิดกฎหมายหลายกรรมหลายวาระ และวันนี้เขาหมดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงแล้ว รอคำพิพากษาอย่างเป็นทางการเท่านั้น
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราไปที่ไหนมีคนเข้าร่วมกับเราที่นั่นมากขึ้นๆ และยังมีวาระเดินไปโน่นไปนี่ อาจจะทุกหนทุกแห่งที่เราไป เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดประชาชนที่ไม่เข้าใจมาเข้าร่วมกับพวกเรา การต่อสู้ต้องใจกว้างอดทน อย่าว่าแต่เสียทรัพย์เสียอวัยวะ เสียชีวิตก็ยอมเสียเพื่อ เพื่อปกป้องชาติ ประชาชน และสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
“ไม่ได้พูดกันเล่นๆ นะ ผมเอาจริง และก็อยากให้พี่น้องรู้ว่าพวกเรา 5 คนเอาจริง เอาชีวิตเป็นเดิมพัน” นายสมศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ได้ขอร้องผู้ร่วมชุมนุมทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และฟังแต่คำแนะนำจากแกนนำพันธมิตรฯเท่านั้น เพื่อความเป็นระเบียบวินัยของการชุมนุม และเพื่อความปลอดภัยของทุกคน โดยเฉพาะหากมีการเคลื่อนขบวนดาวกระจายครั้งต่อๆไป ขอให้อยู่ในแถวเพื่อป้องกันไม่ให้พวกม็อบถ่อยเขามาทำร้ายได้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ภาพของพลังมหาชนอย่างในวันนี้จะปรากฏไปทั่วโลก เพราะประกาศให้ชาวโลกรู้ว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเถื่อน รัฐบาลที่มิชอบ ชาวไทยเขาไม่ต้องการจึงมารวมพลังขับไล่ออกไป มันละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไล่ทุบตีพี่น้องที่อุดรธานี มหาสารคาม และอีกหลายครั้ง พวกนั้นไม่รู้ว่าที่ทำอยู่นี่ก็เพื่อลูกหลานเขาเช่นกัน เขามัวแต่เห็นแก่เศษเงินเศษอาหารที่พวกโกงแผ่นดินโกงภาษีหยิบยื่นให้
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราได้รำลึกวีรชนทุกเหตุการณ์ที่ถมทับร่างหลั่งเลือดทาแผ่นดินมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย มีเจตนารมณ์อันเดียวกันคือรักษาระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และความเป็นอยู่ของประชาชน เสรีภาพ เสมอภาพและภารดรภาพ
ด้าน นายพิภพ กล่าวว่า หลังเราเส้นทางประชาธิปไตยจากการเลิกทาสของเสด็จฯพ่อร.5 ถ้าไม่มีการเลิกทาสประชาธิปไตยเกิดไม่ได้ เพราะประชาธิปไตย ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาค สิทธิและเสรีภาพ ถ้ายังมีทาสอยู่ก็ต้องรบกันเหมือนอย่างสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นายพิภพ ได้ระบุว่า วันนี้เราเดินผ่าทางประวัติศาสตร์หลายๆจุด ตั้งแต่ผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นถนนของการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนมีคนตายพลีชีพบนเส้นทางนี้มาหลายครั้ง แต่ในวันนี้เราต่อสู่โดยอหิงสาไม่เสียเลือดเนื้อแม้แต่นิดเดียว จากนั้นได้ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อย้ำว่าจะไม่ยอมให้แก้ไขรัฐธรรมนูญตราบใดที่ยังไม่มีการทำประชามติ และเราจะไม่ยอมให้แก้มาตราสำคัญๆ ที่เกียวกับทำให้การเมืองดีขึ้น
นายพิภพ กล่าวต่อว่า เราเดินไปถึงวัดพระแก้วมรกตเพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และกราบเคารพพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จากนั้นก็ผ่านไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระลึกถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา ที่มีการฆ่าหมู่ ซึ่งนายกฯ คนนี้มีความเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย ประวัติศาสตร์จะหาหลักฐานมาจัดการท่านในอนาคต
“ความรู้สึกในเรื่องจะใช้ความรุนแรงกับประชาชนของนายกฯ คนปัจจุบันมีตั้งแต่ 6 ตุลามาจนถึงวันนี้ที่นี่ที่จะใช้ความรุนแรงปราบเรา” นายพิภพ กล่าว
ทั้งนี้ นายพิภพบรรยายเส้นทางประวัติศาสตร์ตลอดเส้นที่ขบวนพันธมิตรฯ ได้เดินผ่านเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนกระทั่งเดินขบวนมาบรรจบที่เดิมคือสะพานมัฆวานรังสรรค์
นายพิภพ กล่าวว่า นี่คือเส้นทางประวัติศาสตร์ แล้ววันนี้เรากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่คือไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพิ่มอำนาจตุลาการ ยันไว้ให้ตรวจสอบนักการเมืองชั่วๆที่โกงชาติโกงแผ่นดินให้ได้ เมื่อเราประกาศว่ายื่นเมื่อไหร่เราจะชุมนุมเขาก็ไม่ยื่น แล้วมาบอกว่าจะยื่นวันที่ 18 ส.ค.51 ถ้าเรามาอีกก็จะบอกไม่ยื่นอีก เราจึงตัดสินใจว่า ทันทีที่มีการยื่นเป็นทางการและมีการบรรจุวาระหรือก่อนบรรจุวาระ ภายใน 7วัน เราจะชุมนุมใหญ่กดดันอีกครั้ง