xs
xsm
sm
md
lg

“สมเกียรติ” ชี้ “แม้ว” แพ้ทางศาล - “อ้อ” โดนเชือดรายที่ 8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
“สมเกียรติ” ชี้ “อ้อ” ถูกสั่งจำคุกฐานเลี่ยงภาษี สะท้อนชัด “ระบอบแม้ว” เอาชนะตุลาการไม่ได้ แม้ชนะเกมด้านอื่นมาตลอด โดยก่อนหน้านี้คนในสังกัด ถูกสั่งจำคุกแล้ว 7 คน ไล่จาก “รักเกียรติ สุขธนะ” กกต.3 หนา และ 3 ทนายถุงขนม แต่รายที่ 8 ทำให้เสียใจที่สุด พร้อมเผยรายชื่อ 28 อาจารย์ขอเป็นพยานให้พันธมิตรฯ คดีรื้อเวที แย้มแผนดาวกระจายอีกรอบ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

เมื่อเวลา 23.48 น.วันที่ 31 ก.ค. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานฯ เริ่มจาการกล่าวถึงกรณีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี ฐานหลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ฯ ว่า เป็นกรณีที่คล้ายกับเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุกนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมว.สาธารณสุข เป็นเวลา 15 ปี พร้อมกับยึดทรัพย์ 234 ล้านบาท ฐานทุจริตการซื้อขายยาและเครื่องมือแพทย์ของโรงพยาบาลทั่วประเทศ 1,440 ล้านบาท

นายสมเกียรติ กล่าวว่า นี่คือกลไกของศาล นับตั้งแต่เกิดระบอบทักษิณขึ้นมาเขามักพ่ายแพ้เกมทางศาล แม้ว่าจะชนะเกมทางคณะรัฐมนตรี และรัฐสภา รวมทั้งเกมทางชนบทรากหน้า สรุปว่าชนะทุกส่วน ยกเว้นศาลเท่านั้น

ต่อมาวันที่ 25 ก.ค.2549 ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 3 คน พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร คนละ 4 ปี พร้อมสั่งเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ฐานจัดการเลือกตั้งโดยมิชอบ ซึ่งทั้ง 3 กกต.ถือเป็นคนในระบอบทักษิณ เมื่อรวมกับนายรักเกียรติ เท่ากับว่าคนของทักษิณถูกจำคุกไปแล้ว 4 คน ทั้งนี้ชนะทางอื่นหมด ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ครม. ทีวีก็ซื้อมาแล้ว กิจการโทรคมนาคมก็แปรสัญญาสัมปทานไปเป็นภาษีสรรพสามิต ก็ต้องหาทางเอาชนะศาล

ต่อมาจึงคิดจะซื้อศาล เอาเงิน 2 ล้านบาทไปล่อ แต่ศาลไม่ยอมกินเหยื่อ แถมคนทักษิณต้องเสียคนของตัวเองเอง ไป 3 คนเพราะเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2551 ทนายความ 3 คน ถูกสั่งจำคุกคนละ 6 เดือน รวมต้องเสียคนไปถึง 7 คนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 7 คนก็ไม่เท่าไหร่ เพราะนายรักเกียรติ ก็เป็นรัฐมนตรีหัวดื้อ ส่วน กกต.ทั้ง 3 คน ก็เป็นเหมือนคนรับใช้ เป็น กกต.ของตัวเอง ส่วนทนายก็รับเงินตนเองไปตั้งเยอะแล้ว ติดคุกเสียบ้างจะเป็นอะไรไป ไม่เสียใจอะไร แต่ที่มาเสียใจที่สุด ก็คือคนที่ 8 ที่เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 สั่งจำคุก 3 ปี

นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า โชคดีที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ จะกลับหรือไม่คงขอคิดดูอีกปี ถ้าซื้อศาลไม่ได้ เพราะมีคดีที่ คตส.ทำไว้เสร็จแล้วรอคิวให้ ป.ป.ช.ส่งฟ้องอีก 12 คดี และคดีที่ ป.ป.ช.ทำต่อจาก คตส.อีก 12 คดี ถ้าทำเสร็จก็รวมเป็น 24 คดี

นายสมเกียรติ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) จะมาพูดถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ตีความโครงการขยะ 9 พันล้านของนายสมัคร สุนทรเวช ตอนเป้ฯว่าฯ กทม. ซึ่งตอนแรกบอกว่าผิด แต่มากลับบอกว่าไม่ผิด และตอนนี้กำลังจะพิจารณากรณี 3 รัฐมนตรี ซึ่งความจริงพ้นจากตำแหน่งไปแล้วหลังจากศาลฎีการับฟ้องคดีหวยบนดิน แต่ก็ยังส่งมายังกฤษฎีกาให้ตีความ เพราะฉะนั้นจะชำแหละองค์กรนี้ในฐานะที่มีดอกเตอร์มากที่สุด แต่มี “กระบือ”มากที่สุด

หลังจากนั้น นายสมเกียรติได้อ่านรายชื่ออาจารย์และข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการจำนวน 28 คน ที่เข้าชื่อกันพร้อมแนบบัตรประชาชนส่งมายังแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อขอเป็นพยานในศาลในคดีที่มีข้าราชการและลูกจ้างกระทรวงศึกษาธิการ 6 คนไปยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อให้พันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม โดยอ้างว่าการชุมนุมของพันธมิตรเป็นการละเมิดสิทธิ การเดินทางเข้าออกไม่สะดวก แต่ทั้ง 28 คน ยืนยันว่าไม่เดือดร้อนในการจรจรเพราะกระทรวงศึกษาธิการมีทางเข้าออกหลายทาง ยกเว้นคนตาบอดเท่านั้นที่ไม่รู้ และยังไม่รบกวนอะไรเลย พร้อมยืนยันว่าพันธมิตรฯ มีสิทธิที่จะจัดชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ

นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายว่า แกนนำพันธมิตรฯ มีเรื่องใหญ่ที่จะออกแบบการชุมนุมในวันเสาร์นี้ หลังจากวันศุกร์มีการเป่านกหวีดเล็กๆ ซึ่งคาดว่าจะมีมวลชนเข้ามาร่วมจำนวนมากจนพื้นที่ชุมนุมขยายไปถึงรัฐสภา ก็เลยปรึกษากันว่า น่าจะมีกิจกรรมในวันเสาร์เพื่อเชิดชูมวลชนสูงเด่น ส่วนจะไปไหนยังไม่บอก จากนั้นจะประกาศยุทธการดาวกระจายอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนกิจกรรมที่พันธมิตรฯ อุดรธานี จะจัดที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ ทางแกนนำขอให้งดไว้ก่อน เพราะเรื่องนายขวัญชัย ไพรพนา นั้นปล่อยให้ตายไปเอง เพราะลูกพี่ใหญ่ก็ไม่เป็นรัฐมนตรีแล้ว และนายขวัญชัยต้องลาออกจากการเป็นข้าราชการสำนักนายกฯ ดังนั้น ถ้าจะจัดกิจกรรมที่อุดรธานี ควรจัดช่วงหลังเพื่อให้แกนนำทั้ง 5 คน และมวลชนจากสะพานมัฆวานฯ ได้ไปร่วมด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น