ช่วงรู้ทันประเทศไทย “ส.ว.คำนูณ” ชี้ ในรอบ 46 ปี ไทยเสียดินแดนให้เขมรไปแล้ว 4 ครั้ง และกำลังจะเสียครั้งใหญ่หมดทั้ง 4.6 ตารางกิโลเมตร หากคนไทยไม่รวมกันเป็นหนึ่ง ย้ำไม่มีพื้นที่ทับซ้อนมีแต่พื้นที่ของไทยเท่านั้น ขณะที่ “สุรพงษ์ ชัยนาม” เตือนให้รู้ทันเล่ห์เขมรต้องย้ำเจรจาเฉพาะทวิภาคีเท่านั้น
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "รู้ทันประเทศไทย"
วันนี้ (25 ก.ค.) เวลา 19.00-20.00 น.ในช่วง “รู้ทันประเทศไทย” ของเวทีชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชิงสะพานมัฆวาน ดำเนินรายการโดย นายสันติสุข มะโรงศรี มี นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.นายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.และ นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูตไทย หลายประเทศ ร่วมรายการ
นายคำนูณ ซึ่งในเป็นหนึ่งในคณะ 8 ส.ว.ที่ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบเขตแดนบริเวณปราสาทพระวิหารที่จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงความรู้สึก ว่า จากการที่ได้ไปเหยียบพื้นดินบริเวณผามออีแดง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตไทยที่ร่นเข้ามาจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรอีก 1-2 กิโลเมตร ซึ่งเจ็บช้ำมากที่ในฐานะคนไทยยังไม่สามารถไปไม่ถึงสุดเขตแดนไทยได้
นายคำนูณ ย้ำว่า ต่อไปนี้เราจะต้องลบพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ออกไปให้หมดให้เหลือแต่พื้นที่ของประเทศไทยเท่านั้น และว่า การปักปันเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศส 1904 ให้ยึดถือสันปันน้ำเป็นเขตแดน และกรณีที่ไทยแพ้คดีที่ศาลโลกเมื่อปี 2505 ก็ได้ตัดสินให้ไทยยกแค่ปราสาทพระวิหารเท่านั้น ไม่ได้พูดถึงเขตแดน และไม่ได้พูดถึงแผนที่ฝรั่งเศสที่ทำขึ้นฝ่ายเดียวที่เขมรกำลังอ้างอยู่
นายคำนูณ ย้ำว่า 46 ปี เราเสียดินแดนบริเวณเขาพระวิหารไปแล้วหลายครั้ง ด้วยการรุกคืบเข้ามาของฝ่ายเขมร รวมทั้งการยินยอมของฝ่ายไทย และกำลังจะเสียดินแดนครั้งที่ 5 ในอีกไม่วันข้างหน้า หากเราไม่รวมเป็นหนึ่ง และใช้สติปัญหาแก้ปัญหา
นายคำนูณ ย้ำว่า เราเสียดินแดนครั้งที่หนึ่ง เมื่อปี 2505 เมื่อต้องเสียตัวปราสาท ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2511 เมื่อเรายอมเลื่อนรั้วกั้นเข้ามาที่บันไดขั้นที่ 156 จากเดิมที่บันไดขั้นแรก ครั้งที่ 3 ปี 2536-2537 เราร่นรั้วเข้ามาอีก และล่าสุด เมื่อเกิดเหตุการณ์ 3 คนไทยปีนรั้วลวดหนามของทหารพรานเข้าไป แล้วถูกฝ่ายเขมรควบคุมตัว ทั้งที่บริเวณนั้นเป้นเขตแดนไทย ต่อการที่นายสมัคร สุนทรเวช บอกว่า ไอ้บ้า 3 ตัวบุกเข้าไป ก็เท่ากับว่า ยอมรับว่า เป็นดินแดนเขมรไปแล้ว ทั้งที่จุดที่ 3 คนไทยเข้าไปนั่งประท้วงนั้นยังอยู่ในเขตไทย แต่ก็มีข้อดี ก็คือ เมื่อทหารเข้าไปเอาตัวคนไทยทั้ง 3 คนแล้วไม่ถอยออกมา
นายคำนูณ ยังกล่าวอีกว่า ถ้าเราไม่รวมใจให้มั่น หรือมีปัญญาเราก็จะเสียดินแดนครั้งใหญ่ คือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรทั้งหมด หลังจากที่คณะกรรมการมรดกโลกตัดสินให้เขมรได้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และคณะกรรมการ 7 ชาติ รวมทั้งไทย เข้ามาบริหารพื้นที่โดยรอบปราสาท นั้นหมายความว่า เดิมที่พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่ต่อมาเมื่อ 10 ปีมานี้เราใช้คำว่าพื้นที่ทับซ้อนทำให้เราเหลือกรรมสิทธิ์ 50 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นเมื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมีคณะกรรมการ 7 ชาติร่วมบริหารพื้นที่โดยรอบทำให้ไทยต้องเสียดินแดนเพิ่มอีกโดยต้องนำมาหารเจ็ด ซึ่งหากเราต้องเสียก็ต้องเสียครั้งที่ 1 เท่านั้น
นายประสงค์ กล่าวว่า ได้ไปคุยกับอดีต ตชด.ที่ไปยกเสาธงชาติไทยออกมา และยังมีชีวิตเหลืออยู่เพียงคนเดียวชื่อว่า พ่อเป็ง เป็นคนจังหวัดนนทบุรี ซึ่งบอกว่า ตอนนั้นไปประจำในเขาพระวิหาร ไม่มีคนเขมรอยู่เลยแม้แต่คนเดียว และว่า ในขณะที่ฝ่ายไทยปิดกั้นไม่ให้คนไทยเข้าไปโดยประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ แต่ฝ่ายเขมรกลับส่งเสริมให้คนของเขาเข้ามาตั้งรกรากอยู่เต็มพื้นที่
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ทางฝ่ายเขมรกำลังมีการใช้วิธีทางการทูตหลายทาง ทั้งในระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก คือ สหประชาชาติ มีความพยายามจะยกระดับเป็นเวทีระหว่างประเทศ ต้องการชี้ให้เห็นว่าทั้งตัวปราสาทและพื้นที่โดยรอบเป็นของเขมรด้วยซึ่งไทยต้องรู้เท่าทันเล่ห์เหล่านี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่น่ากังวล ก็คือ ทางคณะมนตรีความมั่นคงฯไม่เล่นด้วยให้นำไปสู่การแก้ปัญหาแบบทวิภาคี
นายคำนูณ กล่าวว่า ต้องให้ข้อสังเกตว่า อาจเพราะเป็นยุคโลกาภิวัตน์ หรือโลกไร้พรมแดน คิดแต่เรื่องเศรษฐกิจ กลัวว่า ขาดรายได้เฉพาะหน้า แต่ต้องถามว่า ชาติและเขตแดนมีความหมายแค่ไหนและเาจะเลือกอย่างไหน
นายสุรพงษ์ ย้ำในตอนท้ายว่า เราต้องย้ำหลักการการเจรจาแบบทวิภาคีเท่านั้น และสาเหตุที่ฮุนเซนถนอเรื่องออกจากคณะมนตรีความมั่นคงฯนั้น เพราะรู้ว่า 3 ประเทศมหาอำนาจไม่เล่นด้วยโดยให้ไปคุนกันในระดับทวิภาคี และ 3 รู้ว่า พรรคพลังประชาชนกำลังง่อนแง่นขาดความชอบธรรม