“ภูวดล” แฉแหลก นปก.ทุ่มเงินครั้งใหญ่ระดม “ม็อบถ่อย” ชน “พันธมิตรฯ” กร้าวพร้อมลุกฮือประจันหน้ากับ “คนขายชาติ-คิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์” พร้อมประกาศทำลาย “นักการเมืองบัดซบ” ทุกรูปแบบ ก่อนย้อนถาม “กองทัพ” ทนเป็นกระสอบทรายให้ “ฮุนเซน” ถลุงเช้า-เย็น ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศได้อย่างไร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย
วันนี้ (23 ก.ค.) ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ว่า กรณีของ น.ส.ดารณี นั้นมีความอาฆาตมาดร้าย จาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินี โดยวีซีดีชุดแรกยาว 25 นาที และวีซีดีชุดที่ 2 นาน 28 นาที ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คงไม่มีทางปฏิเสธกรณีที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะตำรวจที่ฟัง น.ส.ดารณี ปราศรัยที่เวทีท้องสนามหลวงนั้นจะต้องมีการสอบสวนทางวินัย ว่ามีความจงรักภักดีหรือไม่
“พฤติกรรมของ นปก.ซึ่งเป็นสุนัขรับใช้ระบอบขายชาติของไอ้พันธุ์ 5 เหลี่ยมนั้น คนเหล่านี้ไม่เคยคำนึงถึงประเทศชาติ ในอดีตถ้ามองย้อนไปเมื่อ พ.ศ.2544-2545 ประเทศไทยประสบปัญหาจากผลกระทบเรื่องการลดค่าเงินบาท โดยนักการเมืองพันธุ์ชั่วฉวยโอกาสสารพัดรูปแบบ จากนั้นจึงมีคำขวัญใหม่ขึ้นมาว่า ผมรวยแล้ว คนรวยแล้วไม่กินชาติ ไม่โกงชาติ แต่หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งเทอม ก็ปรากฏพฤติกรรมบัดซบตลอดมา โดยเฉพาะนักการเมืองที่ตระบัดสัตย์ โดยระบุว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกรูปแบบ เพื่อที่จะกลับมาสยายปีกครอบงำประเทศนี้” ดร.ภูวดล กล่าว
แฉ ส.ส.ส่วนใหญ่รับใช้ระบอบขายชาติ
ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า วันนี้ ส.ส.ส่วนใหญ่ในสภา ก็คือสุนัขรับใช้ของระบอบขายชาติทั้งสิ้น โดยขายทั้งแผ่นดินเพื่อแลกผลประโยชน์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังให้สมุน และลิ่วล้อทั้งซ้ายอกหัก และขวาบัดซบรวมกลุ่มกันเพื่อที่จะหาผลประโยชน์ และจาบจ้วงสถาบัน นานกว่า 5 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้นวันนี้ไม่มีข้าราชการคนใดปฏิเสธได้ว่า พฤติกรรมบัดซบเหล่านี้เป็นเพียงข่าวลือ เพราะข้อเท็จจริงนั้นชัดเจน โดยถ้าวิเคราะห์แกนนำ นปก.ก็จะพบว่า เครือข่ายที่เติบโตมานั้น มาจากการอุปถัมภ์ค้ำจุนของนักการเมืองบัดซบ ซึ่งคิดถึงประโยชน์ของตัวเอง และครอบครัวมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ และยังมอมเมาให้คนจนกลายเป็นทาส วันนี้ประชาชนคนไทยตื่นขึ้นมาแล้วทั่วประเทศ ดังนั้นเราอย่าไปโทษคนจน เพราะประเทศนี้ไม่เคยให้โอกาสเขา ทั้งๆ ที่เขาเป็นพี่น้องร่วมชาติ ซึ่งต้องให้เกียรติ และให้โอกาสเขา แล้วช่วยกันสร้างประเทศนี้ขึ้นมา
“วันนี้มีการจับกุม น.ส.ดารณี กำเงิน 3 แสนบาทไป โดยเขามั่นใจว่าเขามีเงิน และมั่นใจในนายจ้างของเขา ทำให้เขามั่นใจว่าจะสามารถทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะการท้าทายสถาบันสูงสุดของประเทศ แต่ตำรวจกลับยอมให้ความผิดซึ่งหน้าเกิดขึ้น ถามว่าตำรวจทำอย่างนี้ได้อย่างไร ปล่อยให้ความผิดที่เกิดขึ้นซึ่งหน้าได้อย่างไร วันนี้กองทัพบกจึงไม่ยอม วันนี้อย่าปฏิเสธกันอีกเลยว่า ระบอบที่อยู่ตรงข้ามกับพวกเรา จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องให้ใครมาเสี้ยมสอน เพราะเขาเหล่านั้นสามารถใช้สติปัญญาตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง” ดร.ภูวดล ระบุ
ลั่นประจันหน้า นปก.ขนคนชน “พันธมิตรฯ”
ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า ถ้าศึกษากรณีของ น.ส.ดารณี ให้ดี จะพบว่าคนคนนี้ผ่าเหล่าผ่ากอ เขาผ่านการเขียนสคริปต์มาอย่างดี แต่ไม่มีความฉลาดพอที่จะหักมุม และถ้า นปก.พันธุ์เส็งเคร็งเหล่านั้นไม่มีอำนาจรัฐหนุนหลัง จะกล้าทำอย่างนี้ได้อย่างไร อีกทั้งวันนี้มีข่าวการระดมคนเข้ามาเพิ่มอีกจำนวนมากที่ท้องสนามหลวง โดยมีการจ่ายเงินกันอีกรอบว่าขนคนมาเป็นแสน ดังนั้นขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ กลับไปบอกคนรอบข้างว่าให้มาร่วมประจันหน้ากับไอ้พวกคนขายชาติ และไอ้พวกที่คิดมุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้รู้กันไปเลยว่าจะเป็นอย่างไร
“ไอ้พวกบัดซบจัญไรทั้งหลาย กำลังดิ้นรนทุกรูปแบบ ที่จะหลอกเอาเงินจากนายจ้างอย่างเต็มที่ เพราะถ้าพวกมันแพ้ นอกจากจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ก็อาจจะถึงกับเสียชีวิต ฉะนั้น วันนี้สงครามประชาชนจึงใกล้ที่จะเกิดขึ้นแล้ว ระหว่างผู้รักชาติ และรักอธิปไตย กับไอ้พวกขายชาติ และคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอให้ประกาศตัวออกมาเลย เพราะถ้าประเทศนี้ยอมให้ระบอบเส็งเคร็ง และรัฐบาลขายชาติมีอำนาจต่อไป พวกเราก็จบ แต่ถ้าพวกเรายังอยู่ พวกนักการเมืองขายชาติ จะต้องถูกทำลายทุกรูปแบบ แม้กระทั่งซากก็ยังไม่เหลือ” ดร.ภูวดล ระบุ
ย้อน “กองทัพ” ยอมเป็นกระสอบทรายได้อย่างไร
ส่วนปัญหาถัดมาของประเทศไทยนั้น ดร.ภูวดล กล่าวว่า นั่นก็คือปัญหาเรื่องการสูญเสียประชาธิปไตยรอบปราสาทเขาพระวิหาร เพราะเมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ในปี ค.ศ.1978 กัมพูชาสิ้นชาติไปแล้ว แต่เนื่องจากประชาชนชาวไทยได้ให้การสนับสนุนรัฐบาลพลัดถิ่น 3 ฝ่ายของสีหนุ ของซอนซาน และของพอลพต สู้กับรัฐบาลเฮงสัมริน ที่เป็นลูกพี่ของนายฮุนเซน ฉะนั้นกัมพูชาในความเป็นจริงในเชิงการเมืองระหว่างประเทศก็คือ เป็นอาณานิคมของเวียดนาม และวันนี้คนไทยใจเขมร และคนอย่าง พล.อ.เตีย บัญ รมว.กลาโหมกัมพูชา รู้ดี เพราะนักการเมืองกัมพูชาหากินกับนักการเมืองไทย โดยฝากเงิน และมีเมียน้อยที่ประเทศไทย
“ชนชั้นผู้ปกครองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลไทย วันนี้ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในด้านการเมืองระหว่างประเทศ โดยกองทัพไทย มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดซึ่งสอบได้ที่ 1 ของ จปร. ซึ่งถ้าไปเปรียบเทียบกับผู้นำกองทัพกัมพูชา รู้ไหมว่าเขาไม่ได้จบการศึกษาอะไรเลย เขาเป็นเพียงทหารป่า ซึ่งสถาปนาขึ้นเป็นกองทัพแห่งชาติหลังจากที่รบชนะ ซึ่งเขาโดยนิยมชมชอบผู้นำของเขา แต่ทหารของเราใส่รองเท้าบู๊ทอย่างดี แต่งกายอย่างดี แต่ประสบการณ์ชีวิตของทหารกัมพูชา ถูกสอนมาให้รักชาติ แล้วทหารไทยซึ่งถูกสอนมาให้รักชาติเช่นกัน อยากถามว่าทำไมไม่ย้อนถามผู้บังคับบัญชาว่า ทำไมต้องไปเกรงใจกับไอ้คนขายชาติ ที่เอาอธิปไตยของประเทศไทยไปแลกกับผลประโยชน์ของกัมพูชา” ดร.ภูวดล กล่าว
ประกาศกร้าวโค่น “รัฐบาลขายชาติ” ให้จงได้
ส่วนในแง่การเมืองระหว่างประเทศนั้น ดร.ภูวดล กล่าวว่า เราได้พ่ายแพ้ยับเยินในประวัติศาสตร์ของโลกต่อกัมพูชา คุณมียางอายหรือไม่ในฐานะทหารหาญของชาติ แต่คุณไม่มีความรักชาติเหลืออยู่ คุณจึงกลายเป็นกระสอบทรายให้รัฐบาลฮุนเซน ถลุงเช้าถลุงเย็นในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ อีกทั้งบรรดานักการทูตของประเทศไทย มีจิตวิญญาณในความรักชาติหรือไม่ จึงไม่เคยพูดอะไรออกมาเลย ปล่อยให้ข้าราชการนักการทูตที่เกษียณอายุแล้วออกมาพูด
“วันนี้อนาคตของประเทศอยู่ในกำมือของเรา ฉะนั้น เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้ต่ออำนาจอันเฮงซวยของรัฐบาลชุดนี้ โดยเราจะต้องกู้ชาติ กู้แผ่นดินให้ประเทศไทยมีศักดิ์ศรี ส่วนประเทศนี้ที่ต่ำทรามลงไปเพราะนักการเมืองบัดซบ เอาแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง จนประเทศชาติจะลุกเป็นไฟ ส่วนกองทัพไทยวันนี้จะต้องกล้าตัดสินใจ ไม่ใช่แสดงออกมาซึ่งความหน่อมแน้ม โดยทำหน้าที่เป็นทนายแก้ต่างให้กับรัฐบาลเส็งเคร็ง อีกทั้งนักการเมืองพันธุ์ขายชาติกำลังจะกลับมา โดยจะเอาประเทศนี้ให้ได้ ขอให้พระสยามเทวาธิราช จงดลบันดาลให้พวกเรากูชาติสำเร็จ และโค่นล้มรัฐบาลขายชาติให้จงได้” ดร.ภูวดล กล่าวทิ้งท้าย