อดีต สนช.เตือนกองทัพไทย ให้เตรียมความพร้อมในการรักษาอธิปไตย หลังเขมรจับคนไทยบนเขาพระวิหาร พร้อมเสริมกำลัง เท่ากับไทยเสียดินแดนไปแล้ว
จากกรณีที่นายทหารของกองกำลังสุรนารี เหยียบกับระเบิดของเขมรในบริเวณเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2551 และได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาดนั้น นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อเท็จจริงในขณะนี้ปรากฏชัดเจนแล้วว่า ชาวเขมรและทหารเขมรได้บุกรุกขึ้นมาบนพื้นที่เขาพระวิหาร ซึ่งเป็นเขตแดนของประเทศไทย ใช้มวลชนปลูกบ้านและสร้างวัด ตั้งเป็นหมู่บ้าน และมีกำลังทหารแฝงตัวเข้ามาเป็นกองกำลังคุ้มกัน เป็นกองกำลังติดอาวุธ วางแนวป้องกันและวางกับระเบิดไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อธิปไตยของประเทศกำลังถูกรุกรานจากต่างชาติ ดังนั้น จึงไม่ต้องเถียงกันอีกแล้วว่าขณะนี้ประเทศไทยเสียดินแดนไปแล้วหรือไม่ มันไปไกลกว่านั้นแล้ว เพราะเขมรส่งกำลังเข้ามายึดพื้นที่มากขึ้นแล้ว คงเหลือแต่ว่ากองทัพไทย รัฐบาลไทย และประชาชนไทยจะป้องกันอธิปไตยของประเทศไว้หรือไม่อย่างไรเท่านั้น
นายไพศาล กล่าวอีกว่า ขณะนี้เขมรกำลังเสริมกำลังเข้ามาในพื้นที่เขาพระวิหารมากขึ้น และได้เคลื่อนอาวุธหนัก เช่น รถถัง ปืนต่อสู้อากาศยาน เข้ามายังพื้นที่ตอนล่างของเขาพระวิหารในดินแดนของกัมพูชา เพื่อเตรียมเป็นกำลังหนุนอีกด้วย หากปล่อยไว้เช่นนี้ก็จะมีการแทรกซึมเข้ามายึดครองพื้นที่ของประเทศไทย และจะรุกลึกเข้าไปถึงเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารอีกด้วย
กองทัพมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญที่จะต้องรักษาอธิปไตย ดังนั้น จึงต้องเตรียมกำลังให้พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย และให้ความปลอดภัยแก่ประชาชน เพราะในวันที่ 17 กรกฎาคม 2551 ก็ได้ข่าวว่าจะมีประชาชนไทยจำนวนมากขึ้นไปบนพื้นที่เขาพระวิหาร ซึ่งเป็นดินแดนของประเทศไทย อาจจะถูกทหารเขมรทำร้ายได้
ในทางการเมือง รัฐบาลจะต้องรีบแจ้งยกเลิกแถลงการณ์ร่วม เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้ และรีบปฏิเสธมติของคณะกรรมการมรดกโลกที่ให้ 7 ชาติเข้ามาจัดการบริหารดินแดนของประเทศไทย ทั้งควรรีบดำเนินการทางการทูตเพื่อให้ชาติต่าง ๆ ถอนตัว เพราะยังมีข้อพิพาทกันอยู่ หากปล่อยล่าช้าไว้ก็อาจสายเกินไป