พระวิจิตร ญาณโสภโณ เลขาธิการขบวนการศาสนาเพื่อมนุษยชาติ และนายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ ออกเดินทางจาก อ.ศรีรัตนะ ในช่วงเช้า และเมื่อคืนพักค้างคืนที่วัด ซึ่งการเคลื่อนขบวนของธรรมยาตราวันนี้ เป็นวันที่สามแล้ว คาดว่า จะเดินทางถึง อ.กันทรลักษ์ เพื่อสมทบกับประชาชนที่นัดชุมนุมบริเวณศาลหลักเมืองในช่วงบ่าย
นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานสมัชชาประชาชน จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนา จ.ศรีสะเกษ เปิดเวทีโจมตีการทำงานของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่หน้าสถานีรถไฟศรีสะเกษ กรณีสนับสนุนการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ของปราสาทเขาพระวิหาร และประกาศจะร่วมกับคณะธรรมยาตรา ในการเดินเท้าไปยังเขาพระวิหารในวันอาทิตย์นี้
ด้านนายสนอง ห้วยจันทร์ ผู้นำชุมชนและประธานประชาคม อ.กันทรลักษ์ พูดกล่าวถึงคำชี้แจงของนายนพดล ที่ระบุว่า ชาวกัมพูชา สร้างบ้านเรือนในพื้นที่ที่ไทยอ้างสิทธิ์ไม่กี่หลังนั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และยืนยันว่า ปัจจุบันนอกจากมีบ้านเรือน ร้านค้าร่วม 100 กว่าหลังแล้ว ยังมีการสร้างวัดและถนนเข้ามาในเขตแดนไทยด้วย รวมทั้งมีชาวกัมพูชาเกือบพันคน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นผืนแผ่นดินของไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรีปี 2505 จึงต้องการเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้เร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วน และหากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็ควรจะคัดค้านการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร
นอกจากนี้ ตั้งข้อสังเกตนายนพดล ที่บอกว่า จะสามารถเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ในเรื่องการจัดการบริหารพื้นที่ทับซ้อนได้ หลังขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว 2 ปี โดยระบุว่า เป็นเรื่องเพ้อฝันของรัฐมนตรี ที่ไม่รู้เท่าทัน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาไม่เคยยอมรับแนวเขตแดนของไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรี และเชื่อว่า การตัดสินใจของรัฐบาลครั้งนี้ ในระยะยาวจะทำให้ไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน
ด้านรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เปิดเผยเอกสาร รวมถึงตัวแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอประกอบการพิจารณา การขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้สังคมรับรู้ โดยนายศิริโชค โสภา กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เกิดความสับสนอย่างมากในเรื่องนี้ เพราะข้อมูลที่มีการชี้แจงออกมา แตกต่างจากฝ่ายกัมพูชาอย่างมาก จึงต้องการให้มีการเปิดเผยเอกสารที่เป็นจริง พร้อมเตือนรัฐบาลว่า สิ่งที่ดำเนินการอยู่ ขัดกับมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า การทำสัญญาใดๆ ที่มีผลกับแนวเขตแดน จะต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา รวมทั้งต้องทำประชาพิจารณ์
นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานสมัชชาประชาชน จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนา จ.ศรีสะเกษ เปิดเวทีโจมตีการทำงานของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่หน้าสถานีรถไฟศรีสะเกษ กรณีสนับสนุนการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ของปราสาทเขาพระวิหาร และประกาศจะร่วมกับคณะธรรมยาตรา ในการเดินเท้าไปยังเขาพระวิหารในวันอาทิตย์นี้
ด้านนายสนอง ห้วยจันทร์ ผู้นำชุมชนและประธานประชาคม อ.กันทรลักษ์ พูดกล่าวถึงคำชี้แจงของนายนพดล ที่ระบุว่า ชาวกัมพูชา สร้างบ้านเรือนในพื้นที่ที่ไทยอ้างสิทธิ์ไม่กี่หลังนั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และยืนยันว่า ปัจจุบันนอกจากมีบ้านเรือน ร้านค้าร่วม 100 กว่าหลังแล้ว ยังมีการสร้างวัดและถนนเข้ามาในเขตแดนไทยด้วย รวมทั้งมีชาวกัมพูชาเกือบพันคน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นผืนแผ่นดินของไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรีปี 2505 จึงต้องการเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้เร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วน และหากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็ควรจะคัดค้านการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร
นอกจากนี้ ตั้งข้อสังเกตนายนพดล ที่บอกว่า จะสามารถเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ในเรื่องการจัดการบริหารพื้นที่ทับซ้อนได้ หลังขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว 2 ปี โดยระบุว่า เป็นเรื่องเพ้อฝันของรัฐมนตรี ที่ไม่รู้เท่าทัน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาไม่เคยยอมรับแนวเขตแดนของไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรี และเชื่อว่า การตัดสินใจของรัฐบาลครั้งนี้ ในระยะยาวจะทำให้ไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน
ด้านรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เปิดเผยเอกสาร รวมถึงตัวแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอประกอบการพิจารณา การขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้สังคมรับรู้ โดยนายศิริโชค โสภา กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เกิดความสับสนอย่างมากในเรื่องนี้ เพราะข้อมูลที่มีการชี้แจงออกมา แตกต่างจากฝ่ายกัมพูชาอย่างมาก จึงต้องการให้มีการเปิดเผยเอกสารที่เป็นจริง พร้อมเตือนรัฐบาลว่า สิ่งที่ดำเนินการอยู่ ขัดกับมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า การทำสัญญาใดๆ ที่มีผลกับแนวเขตแดน จะต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา รวมทั้งต้องทำประชาพิจารณ์
