xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ จวก เลือกปฏิบัติออกหมายจับ “สมเกียรติ”- คาดใช้ตำแหน่งประกันตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แกนนำพันธมิตรฯ-ทนาย” ถกรับมือตำรวจระบอบทักษิณ เลือกปฏิบัติออกหมายจับ “สมเกียรติ” ทั้งที่ไม่เคยออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาสักครั้งเดียว ขณะที่ คดีหมิ่นฯ ซึ่งหน้า “นปก.-เพ็ญ-โชติแสบ” กลับอ้อยสร้อย ปล่อยตามบุญตามกรรม หนำซ้ำโอนให้ “พี่เขยแม้ว” ดูแล เผย นัดจุดเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชา พรุ่งนี้ 6 โมงเย็น และทำบุญตักบาตร 7โมงเช้า วันเข้าพรรษา พร้อมฟังธรรมเทศนา “สมณโพธิรักษ์”

วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น.ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แถลงข่าวกล่าวถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ มีการอนุมัติหมายจับ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ได้สอบถามไปยัง นายสมเกียรติ แล้วก็ต่างรู้สึกแปลกใจเช่นกัน

“มีข้อสังเกต ว่า ในฐานะผู้ต้องหา นายสมเกียรติ ยังไม่ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนเลย ซึ่งตามกฎหมายจะต้องมีหมายเรียกมาก่อนสองครั้งจึงจะออกหมายจับได้ ในครั้งนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นการลัดขั้นตอน” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม คืนนี้ นายสมเกียรติ และแกนนำพันธมิตรฯ รวมทั้งทนายความ จะประชุมหารือกัน แต่ในเบื้องต้น นายสมเกียรติ ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนี พร้อมที่จะมอบตัว เพราะสามารถที่จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวได้

“แต่ในกรณีนี้ถือว่าพนักงานสอบสวนเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ เพราะในคดีที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งแกนนำ นปก.หรือไม่ก็คนในระบอบทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาก็มีการดำเนินการล่าช้ามาก โดยเฉพาะใน 4 คดีใหญ่ๆ ได้แก่ คดี นายจักรภพ เพ็ญแข ที่พนักงานสอบสวนเตรียมจะสั่งฟ้องก่อนที่ นายจักรภพ จะลาออกเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน นอกจากจะไม่ดำเนินการต่อแล้ว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ยังได้ดึงคดีไปดูแลอีกด้วย ไม่ต่างกับคดีผู้ไม่ยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ก็ได้ดึงไปดูแลเองด้วยเช่นกัน” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่าคดีเหล่านี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของใคร เพราะ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายกฎหมายและสอบสวน น่าจะดูแลมากกว่า ในขณะที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นรอง ผบ.ตร.ที่มีหน้าที่ดูแลฝ่ายป้องกันและปราบปราม ตนเห็นว่าคดีนี้มีแนวโน้มเป็นมวยล้มต้มคนดู ดึงเรื่องเพื่อให้หมดอายุความ

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า คดีต่อมา คือ คดี นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่ถูกกล่าวหาว่าฮุบที่ดินสาธารณะ แต่พนักงานสอบสวนยังไม่มีการดำเนินคดีให้คืบหน้าแต่อย่างใด โดยอ้างว่ากรมแผนที่ทหาร ยังไม่ได้ส่งภาพถ่ายทางอากาศมาให้ ทั้งที่สมัชชาประชาชน จ.บุรีรัมย์ ได้ติดตามสอบถามมาโดยตลอด อีกคดีหนึ่งได้แก่ คดีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีการตรวจสอบว่ามีการนำเงินงบประมาณประชาสัมพันธ์ไปใช้ไม่ถูกต้องและผิดระเบียบ คดีดังกล่าว พล.ต.ท.ทวีพร นามเสถียร ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นเรื่องไปยัง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่ก็เงียบหายไป ตนตั้งคำถามว่า นายสมัคร ต้องการนำกรณีนี้มาต่อรอง เพื่อให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ดำเนินการกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.หรือไม่

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า อีกคดีหนึ่ง คือ กรณีบริษัท กุหลาบแก้ว ซึ่งเป็นบริษัทที่มีพฤติกรรมถือสันชาติต่างด้าว และเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลสารสิน และผู้ทำคดีได้แก่ พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอดีตเคยเป็นนายเวร ของ พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งปัจจุบันนี้ยังคงรับใช้คนในตระกูลสารสินอยู่ แต่ในปัจจุบันสองปีมาแล้ว แต่คดีดังกล่าวก็ยังดองอยู่

นอกจากนั้น นายสุริยะใส กล่าวถึงท่าทีของ นายสมัคร ที่ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวโดยใช้คำว่า เอาคืนหรือไล่ฆ่า ว่า เราอย่าประณามพฤติกรรมการปลุกระดมดังกล่าวของนายกฯ เพราะเป็นการสร้างการเผชิญหน้า ที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงและการนองเลือด วิธีคิดดังกล่าวนี้ จะก่อให้เกิดความเสียหายโดยไม่สนใจต่อผลกระทบที่ตามมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดเราจึงต้องสูญเสียเขาพระวิหารให้กับประเทศกัมพูชา เพราะผู้นำมีเพียงความคิดว่าจะกอบโกยได้เท่าไร ไม่สนว่าจะเกิดความขัดแย้งใดๆ ตามมา ทางด้านพันธมิตรฯ ก็ต้องคิดเหมือนกันว่าจะจัดการกับนายกฯ ให้เร็วที่สุดได้อย่างไร

ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า การบริหารงานของรัฐบาลต่อจากนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อการฟอกผิดเท่านั้น แต่ยังมีการปลุกระดมมวลชนของตนเอง เพื่อต่อต้านคำพิพากษาของศาล มุ่งโจมตี ป.ป.ช., กกต.และตุลาการภิวัฒน์ เพื่อชี้นำว่าพวกของตนเองถูกรังแก เป้าหมายหลักของพวกเขาในตอนนี้ก็คือต้องการให้ฝ่ายบริหารก้าวล้ำข้ามพรมแดนของฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ต่างจากการรัฐประหารหรือการฉีกรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม นายสุริยะใส ยังได้กล่าวชื่นชมต่อบทบาท ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะความกังวลในการแก้รัฐธรรมนูญ และการให้กำลังใจองค์กรอิสระ ตนเห็นว่า กองทัพสามารถแสดงบทบาทได้มากกว่านี้ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดี เพราะขณะนี้ทางกองทัพมีการออกสารภายในเน้นย้ำให้กำลังพลมีความเป็นกลางทางการเมืองและต่อต้านพฤติกรรมคอร์รัปชัน ตนเชื่อว่า กองทัพเองกำลังปรับตัวในช่วงนี้

ส่วนด้านความตึงเครียดทางด้ายชายแดนไทย-กัมพูชา นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้ รัฐบาลสามารถช่วยลดความตึงเครียดดังกล่าวได้ โดยแสดงท่าทีไม่ยอมรับต่อแถลงการร่วมต่อนานา ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ก็จะเป็นการสร้างแรงกดดันไปยังรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งเป็นงานของฝ่ายการเมือง แต่การเงียบเฉยจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดมาขึ้น เพราะถ้าฝ่ายการเมืองไม่ทำงานการทหารจะเข้ามาแทนที่ ตนทราบมาว่า ขณะนี้ฝ่ายทหารก็มีการเตรียมพร้อม สงครามก็อาจจะเกิดขึ้น ตนไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้ฝ่ายการเมืองควรแสดงท่าทีการเมืองให้ชัด และอย่าเอาประชาชนไปเป็นเครื่องมือในความขัดแย้ง

ทั้งนี้ นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงกำหนดการในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ว่า เดิมทีทางพันธมิตรฯ จะจัดให้มีการเดินเวียนเทียนในบริเวณวัดเบญจมบพิตร-แยกสวนมิสกวัน-ถ.พระราม 5-ลานพระรูปทรงม้า แต่มีการหารือกันใหม่ โดยมองเห็นว่าจะเกิดปัญหาการจราจร และถ้าคนเข้าร่วมเยอะก็จะลำบาก อีกทั้งการเดินเวียนเทียน 3 รอบก็ใช้เวลานานเกินไป จึงปรับเปลี่ยนกำหนดการ เป็นเพียงการจุดเทียนร่วมกันในที่ชุมนุม ในเวลา 18.00 น

ส่วนในวันรุ่งขึ้น (18 ก.ค.) จะมีการตักบาตรในเวลา 07.00 น.โดยมีพระสงฆ์ 20 รูปจากวัดโสมนัส มาบิณฑบาต และในตอนเย็นจะมีสมณโพธิรักษ์ มาแสดงธรรม จนถึงเวลาสี่ทุ่ม จึงจะมีการปราศรัยตามปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น