"สมัคร"หมดท่า รีบเดินจ้ำอ้าวลงจากเรือจักรีนฤเบศร์ หลังเจอกับแรงต่อต้านจากกลุ่มพันธมิตรฯชลบุรีและจ.ใกล้เคียงกว่า 200 คน รวมตัวตะโกนขับไล่ จนเจ้าตัวต้องอาศัยลูกชุลมุนหลบหนีชนิดที่เรียกว่าหัวซุกหัวซุน สั่งอารักขาเข้มงวด ปิดกั้นสื่อมวลชนและบุคคลภายนอกเข้าร่วม ด้าน “แกนนำพันธมิตรฯ-ทนาย” ถกรับมือตำรวจระบอบทักษิณ เลือกปฎิบัติออกหมายจับ “สมเกียรติ” ทั้งที่ไม่เคยออกหมายเรียกสักครั้งเดียว ขณะที่ คดีหมิ่นฯ ซึ่งหน้า “นปก.-เพ็ญ-โชติแสบ” ปล่อยตามบุญตามกรรม เผยนัดจุดเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและทำบุญตักบาตร 7โมงเช้าวันเข้าพรรษา "วีระ สมความคิด" ตัวแทนพันธมิตรฯมอบเงิน 5 หมื่นบาทช่วยทหารพรานกล้า แต่ถูกขัดขวาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ค.) ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.ได้มีกลุ่มพันธมิตรฯชลบุรีและในพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณทางเข้าท่าเรือจุกเสม็ดเกือบ 200 คน เพื่อคอยต้อนรับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่จะเดินทางมายังฐานทัพเรือสัตหีบจ.ชลบุรี ซึ่งทางพันธมิตรฯไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ เนื่องจากทางทหารเรือได้ทำการปิดกั้นทางเข้า-ออกทุกจุด ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ จึงได้ทำการโห่รับนายสมัครได้เพียงแค่ปากทางเข้าเท่านั้น ทั้งนี้ ในการเดินทางมาสักการะ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ครั้งนี้ นายสมัคร ได้มีคำสั่งเด็ดขาดห้ามมิให้สื่อมวลชนเฝ้าติดตามทำข่าว พร้อมไม่อนุญาตให้ทำการบันทึกภาพแต่อย่างใด และไม่ให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในโดยเด็ดขาด จะมีเพียงแต่คณะที่เดินทางมากับนายสมัคร และคณะให้การต้อนรับ ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงเท่านั้น ส่วนกำหนดการก็มีการเปลี่ยนแปลงโดยตลอด
ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมหน่วยสารวัตรทหาร จากฐานทัพเรือสัตหีบกว่า 50 นายดูแลอย่างเข้มงวด ขณะที่ทางด้านฝั่งทะเลได้มีเรือตรวจการณ์จำนวน 4 ลำ คอยดูแลอยู่รอบบริเวณอ่าวสัตหีบ และมีการเตรียมเรือรับ-ส่งไว้เพิ่มอีก 1 ลำ
โดยหลังจากนายสมัคร ได้เยี่ยมชมเรือจักรีนฤเบศร์ ณ สะพานเดินเรือ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ดเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับโดยรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน สด-991 กรุงเทพฯ โดยมี พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ นั่งมาทางด้านขวา และตัวนายสมัครได้นั่งมาทางด้านซ้าย เพื่อหลบเลี่ยงกลุ่มผู้ชุมนุม โดยอาศัยช่วงชุลมุนขับขี่รถออมาจากท่าเรือเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ตร.เลือกปฎิบัติออกหมายจับ"สมเกียรติ"
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวกล่าวถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ มีการอนุมัติหมายจับ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ได้สอบถามไปยัง นายสมเกียรติ แล้วก็ต่างรู้สึกแปลกใจเช่นกัน
“มีข้อสังเกตว่า ในฐานะผู้ต้องหา นายสมเกียรติ ยังไม่ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนเลย ซึ่งตามกฎหมายจะต้องมีหมายเรียกมาก่อนสองครั้งจึงจะออกหมายจับได้ ในครั้งนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นการลัดขั้นตอน” นายสุริยะใส กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติ และแกนนำพันธมิตรฯ รวมทั้งทนายความ จะประชุมหารือกัน แต่ในเบื้องต้น นายสมเกียรติ ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนี พร้อมที่จะมอบตัว เพราะสามารถที่จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวได้
“แต่ในกรณีนี้ ถือว่าพนักงานสอบสวนเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ เพราะในคดีที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งแกนนำ นปก.หรือไม่ก็คนในระบอบทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาก็มีการดำเนินการล่าช้ามาก โดยเฉพาะใน 4 คดีใหญ่ๆ ได้แก่ คดี นายจักรภพ เพ็ญแข ที่พนักงานสอบสวนเตรียมจะสั่งฟ้องก่อนที่นายจักรภพจะลาออกเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน นอกจากจะไม่ดำเนินการต่อแล้ว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ยังได้ดึงคดีไปดูแลอีกด้วย ไม่ต่างกับคดีผู้ไม่ยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ก็ได้ดึงไปดูแลเองด้วยเช่นกัน” นายสุริยะใส กล่าว
ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่าคดีเหล่านี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของใคร เพราะ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายกฎหมายและสอบสวน น่าจะดูแลมากกว่า ในขณะที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นรอง ผบ.ตร.ที่มีหน้าที่ดูแลฝ่ายป้องกันและปราบปราม ตนเห็นว่าคดีนี้มีแนวโน้มเป็นมวยล้มต้มคนดู ดึงเรื่องเพื่อให้หมดอายุความ
ขณะที่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวแสดงท่าทีอย่างชัดเจนเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเรียกตัว นายสมเกียรติ มารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องเรียก หากเจอตัวสามารถจับกุมได้ทันที พร้อมอ้างว่า นายสมเกียรติไม่ได้รับการคุ้มครองจากเอกสิทธิ์จากสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดสมัยการประชุม ถ้าพบตัวที่ไหนก็สามารถจับกุมได้
คดี"ชัย ชิดชอบ"ฮุบที่ดินยังไม่คืบ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ในส่วนของคดีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่ถูกกล่าวหาว่าฮุบที่ดินสาธารณะ กลับพบว่า พนักงานสอบสวนยังไม่มีการดำเนินคดีให้คืบหน้าแต่อย่างใด โดยอ้างว่ากรมแผนที่ทหาร ยังไม่ได้ส่งภาพถ่ายทางอากาศมาให้ ทั้งที่สมัชชาประชาชน จ.บุรีรัมย์ ได้ติดตามสอบถามมาโดยตลอด อีกคดีหนึ่งได้แก่ คดีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีการตรวจสอบว่ามีการนำเงินงบประมาณประชาสัมพันธ์ไปใช้ไม่ถูกต้องและผิดระเบียบ คดีดังกล่าว พล.ต.ท.ทวีพร นามเสถียร ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นเรื่องไปยัง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่ก็เงียบหายไป ตนตั้งคำถามว่า นายสมัคร ต้องการนำกรณีนี้มาต่อรอง เพื่อให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ดำเนินการกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.หรือไม่
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า อีกคดีหนึ่ง คือ กรณีบริษัท กุหลาบแก้ว ซึ่งเป็นบริษัทที่มีพฤติกรรมถือสันชาติต่างด้าว และเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลสารสิน และผู้ทำคดีได้แก่ พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอดีตเคยเป็นนายเวร ของ พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งปัจจุบันนี้ยังคงรับใช้คนในตระกูลสารสินอยู่ แต่ในปัจจุบันสองปีมาแล้ว แต่คดีดังกล่าวก็ยังดองอยู่
นอกจากนั้น นายสุริยะใส กล่าวถึงท่าทีของ นายสมัคร ที่ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวโดยใช้คำว่า เอาคืนหรือไล่ฆ่า ว่า เราอย่าประณามพฤติกรรมการปลุกระดมดังกล่าวของนายกฯ เพราะเป็นการสร้างการเผชิญหน้า ที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงและการนองเลือด วิธีคิดดังกล่าวนี้ จะก่อให้เกิดความเสียหายโดยไม่สนใจต่อผลกระทบที่ตามมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดเราจึงต้องสูญเสียเขาพระวิหารให้แก่ประเทศกัมพูชา เพราะผู้นำมีเพียงความคิดว่าจะกอบโกยได้เท่าไร ไม่สนว่าจะเกิดความขัดแย้งใดๆ ตามมา ทางด้านพันธมิตรฯ ก็ต้องคิดเหมือนกันว่าจะจัดการกับนายกฯ ให้เร็วที่สุดได้อย่างไร
"การบริหารงานของรัฐบาลต่อจากนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อการฟอกผิดเท่านั้น แต่ยังมีการปลุกระดมมวลชนของตนเอง เพื่อต่อต้านคำพิพากษาของศาล มุ่งโจมตี ป.ป.ช., กกต.และตุลาการภิวัฒน์ เพื่อชี้นำว่าพวกของตนเองถูกรังแก เป้าหมายหลักของพวกเขาในตอนนี้ก็คือ ต้องการให้ฝ่ายบริหารก้าวล้ำข้ามพรมแดนของฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ต่างจากการรัฐประหารหรือการฉีกรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด"
นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงกำหนดการในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ว่า เดิมทีทางพันธมิตรฯ จะจัดให้มีการเดินเวียนเทียนในบริเวณวัดเบญจมบพิตร-แยกสวนมิสกวัน-ถ.พระราม 5-ลานพระรูปทรงม้า แต่มีการหารือกันใหม่ โดยมองเห็นว่าจะเกิดปัญหาการจราจร และถ้าคนเข้าร่วมเยอะก็จะลำบาก อีกทั้งการเดินเวียนเทียน 3 รอบก็ใช้เวลานานเกินไป จึงปรับเปลี่ยนกำหนดการ เป็นเพียงการจุดเทียนร่วมกันในที่ชุมนุม ในเวลา 18.00 น
ส่วนในวันรุ่งขึ้น (18 ก.ค.) จะมีการตักบาตรในเวลา 07.00 น.โดยมีพระสงฆ์ 20 รูปจากวัดโสมนัส มาบิณฑบาต และในตอนเย็นจะมีสมณโพธิรักษ์ มาแสดงธรรม จนถึงเวลาสี่ทุ่ม จึงจะมีการปราศรัยตามปกติ
จี้ตร.เชียงใหม่เอาผิดม็อบเถื่อน
วานนี้ (16) ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด นางชมพูนุท โทสินธิติ และ นายเฉลิมพล แซมเพชร ได้เป็นตัวแทนพันธมิตรฯเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ปิยบุตร อัจฉริยมงคล ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ขอให้หามาตรการคุ้มครองความปลอดภัยในการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และขอให้สืบสวนสอบสวนนำตัวบุคคลที่มีพฤติการณ์ขัดขวาง ก่อกวน ทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สินกลุ่มผู้ร่วมเวทีเสวนาวิชาการที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา มาดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้มีหลักฐานเป็นภาพถ่าย และเอกสารจำนวน 1 ชุด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีเป็นผู้รับแทน และให้มีการลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน
พันธมิตรฯ มอบเงินช่วยทหารพราน
วานนี้ นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชัน (คปต.) ได้เป็นตัวแทนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเดินทางไปโรงพยาบาลสัมประสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อนำเงินจำนวน 50,000 บาท มอบให้ทพ.วิลัย อารมย์ รองผบ.ร้อยชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2301 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากได้รับบาดเจ็บขาขวาขาดจากการเดินพลาดเหยียบกับระเบิดที่บริเวณภูมะเขือ ทางด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร เพื่อปฏิบัติการทางจิตวิทยากดดันให้ทางกัมพูชายินยอมปล่อยตัวคนไทยทั้ง 3 คน
นายสนธิ ลิ้มทอง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การเดินทางไปของนายวีระ สมความคิด เพื่อนำเงินไปมอบให้แก่ทหารพรานในวันนี้ กลับถูกคัดค้านจากกองทัพภาคที่ 2 มิให้นำเงินไปมอบให้แก่ทหารพรานที่ และมีการปลดชื่อทหารพรานออก เพื่อมิให้ตัวแทนจากพันธมิตรฯได้มอบเงิน แต่กลับบอกว่า ให้นำมามอบให้แก่ผู้บังคับบัญชาแทน อย่างไรก็ตาม นายสนธิ ยืนยันหนักแน่นว่า " เราจะนำเงินนี้ มอบให้ถึงมือทหารพราน"
"ผู้ใหญ่ในกองทัพกลัวพันธมิตรฯจะได้หน้า จึงขัดขวางเรา แต่วันนี้ ขออาศัยเวทีนี้ ส่งสัญญาณถึงทหารทั่วประเทศไทย วันนี้ประชาชนตื่นหมดแล้ว ตอนนี้เรามีต้นทุนประชาชนประมาณ 20 ล้านคนแล้ว และประชาชนเหล่านี้ เป็นกำลังใจให้แก่ทหารอยู่ข้างหลังอยู่ "นายสนธิกล่าวและว่า ในวันนี้ (17) อยากให้พี่น้องและผู้ที่มาร่วมกับพันธมิตรฯทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จุดเทียนถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวัน 12 สิงหาฯล่วงหน้าที่สะพานมัฆวาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ค.) ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.ได้มีกลุ่มพันธมิตรฯชลบุรีและในพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณทางเข้าท่าเรือจุกเสม็ดเกือบ 200 คน เพื่อคอยต้อนรับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่จะเดินทางมายังฐานทัพเรือสัตหีบจ.ชลบุรี ซึ่งทางพันธมิตรฯไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ เนื่องจากทางทหารเรือได้ทำการปิดกั้นทางเข้า-ออกทุกจุด ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ จึงได้ทำการโห่รับนายสมัครได้เพียงแค่ปากทางเข้าเท่านั้น ทั้งนี้ ในการเดินทางมาสักการะ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ครั้งนี้ นายสมัคร ได้มีคำสั่งเด็ดขาดห้ามมิให้สื่อมวลชนเฝ้าติดตามทำข่าว พร้อมไม่อนุญาตให้ทำการบันทึกภาพแต่อย่างใด และไม่ให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในโดยเด็ดขาด จะมีเพียงแต่คณะที่เดินทางมากับนายสมัคร และคณะให้การต้อนรับ ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงเท่านั้น ส่วนกำหนดการก็มีการเปลี่ยนแปลงโดยตลอด
ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมหน่วยสารวัตรทหาร จากฐานทัพเรือสัตหีบกว่า 50 นายดูแลอย่างเข้มงวด ขณะที่ทางด้านฝั่งทะเลได้มีเรือตรวจการณ์จำนวน 4 ลำ คอยดูแลอยู่รอบบริเวณอ่าวสัตหีบ และมีการเตรียมเรือรับ-ส่งไว้เพิ่มอีก 1 ลำ
โดยหลังจากนายสมัคร ได้เยี่ยมชมเรือจักรีนฤเบศร์ ณ สะพานเดินเรือ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ดเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับโดยรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน สด-991 กรุงเทพฯ โดยมี พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ นั่งมาทางด้านขวา และตัวนายสมัครได้นั่งมาทางด้านซ้าย เพื่อหลบเลี่ยงกลุ่มผู้ชุมนุม โดยอาศัยช่วงชุลมุนขับขี่รถออมาจากท่าเรือเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ตร.เลือกปฎิบัติออกหมายจับ"สมเกียรติ"
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวกล่าวถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ มีการอนุมัติหมายจับ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ได้สอบถามไปยัง นายสมเกียรติ แล้วก็ต่างรู้สึกแปลกใจเช่นกัน
“มีข้อสังเกตว่า ในฐานะผู้ต้องหา นายสมเกียรติ ยังไม่ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนเลย ซึ่งตามกฎหมายจะต้องมีหมายเรียกมาก่อนสองครั้งจึงจะออกหมายจับได้ ในครั้งนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นการลัดขั้นตอน” นายสุริยะใส กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติ และแกนนำพันธมิตรฯ รวมทั้งทนายความ จะประชุมหารือกัน แต่ในเบื้องต้น นายสมเกียรติ ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนี พร้อมที่จะมอบตัว เพราะสามารถที่จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวได้
“แต่ในกรณีนี้ ถือว่าพนักงานสอบสวนเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ เพราะในคดีที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งแกนนำ นปก.หรือไม่ก็คนในระบอบทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาก็มีการดำเนินการล่าช้ามาก โดยเฉพาะใน 4 คดีใหญ่ๆ ได้แก่ คดี นายจักรภพ เพ็ญแข ที่พนักงานสอบสวนเตรียมจะสั่งฟ้องก่อนที่นายจักรภพจะลาออกเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน นอกจากจะไม่ดำเนินการต่อแล้ว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ยังได้ดึงคดีไปดูแลอีกด้วย ไม่ต่างกับคดีผู้ไม่ยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ก็ได้ดึงไปดูแลเองด้วยเช่นกัน” นายสุริยะใส กล่าว
ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่าคดีเหล่านี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของใคร เพราะ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายกฎหมายและสอบสวน น่าจะดูแลมากกว่า ในขณะที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นรอง ผบ.ตร.ที่มีหน้าที่ดูแลฝ่ายป้องกันและปราบปราม ตนเห็นว่าคดีนี้มีแนวโน้มเป็นมวยล้มต้มคนดู ดึงเรื่องเพื่อให้หมดอายุความ
ขณะที่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวแสดงท่าทีอย่างชัดเจนเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเรียกตัว นายสมเกียรติ มารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องเรียก หากเจอตัวสามารถจับกุมได้ทันที พร้อมอ้างว่า นายสมเกียรติไม่ได้รับการคุ้มครองจากเอกสิทธิ์จากสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดสมัยการประชุม ถ้าพบตัวที่ไหนก็สามารถจับกุมได้
คดี"ชัย ชิดชอบ"ฮุบที่ดินยังไม่คืบ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ในส่วนของคดีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่ถูกกล่าวหาว่าฮุบที่ดินสาธารณะ กลับพบว่า พนักงานสอบสวนยังไม่มีการดำเนินคดีให้คืบหน้าแต่อย่างใด โดยอ้างว่ากรมแผนที่ทหาร ยังไม่ได้ส่งภาพถ่ายทางอากาศมาให้ ทั้งที่สมัชชาประชาชน จ.บุรีรัมย์ ได้ติดตามสอบถามมาโดยตลอด อีกคดีหนึ่งได้แก่ คดีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีการตรวจสอบว่ามีการนำเงินงบประมาณประชาสัมพันธ์ไปใช้ไม่ถูกต้องและผิดระเบียบ คดีดังกล่าว พล.ต.ท.ทวีพร นามเสถียร ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นเรื่องไปยัง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่ก็เงียบหายไป ตนตั้งคำถามว่า นายสมัคร ต้องการนำกรณีนี้มาต่อรอง เพื่อให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ดำเนินการกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.หรือไม่
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า อีกคดีหนึ่ง คือ กรณีบริษัท กุหลาบแก้ว ซึ่งเป็นบริษัทที่มีพฤติกรรมถือสันชาติต่างด้าว และเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลสารสิน และผู้ทำคดีได้แก่ พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอดีตเคยเป็นนายเวร ของ พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งปัจจุบันนี้ยังคงรับใช้คนในตระกูลสารสินอยู่ แต่ในปัจจุบันสองปีมาแล้ว แต่คดีดังกล่าวก็ยังดองอยู่
นอกจากนั้น นายสุริยะใส กล่าวถึงท่าทีของ นายสมัคร ที่ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวโดยใช้คำว่า เอาคืนหรือไล่ฆ่า ว่า เราอย่าประณามพฤติกรรมการปลุกระดมดังกล่าวของนายกฯ เพราะเป็นการสร้างการเผชิญหน้า ที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงและการนองเลือด วิธีคิดดังกล่าวนี้ จะก่อให้เกิดความเสียหายโดยไม่สนใจต่อผลกระทบที่ตามมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดเราจึงต้องสูญเสียเขาพระวิหารให้แก่ประเทศกัมพูชา เพราะผู้นำมีเพียงความคิดว่าจะกอบโกยได้เท่าไร ไม่สนว่าจะเกิดความขัดแย้งใดๆ ตามมา ทางด้านพันธมิตรฯ ก็ต้องคิดเหมือนกันว่าจะจัดการกับนายกฯ ให้เร็วที่สุดได้อย่างไร
"การบริหารงานของรัฐบาลต่อจากนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อการฟอกผิดเท่านั้น แต่ยังมีการปลุกระดมมวลชนของตนเอง เพื่อต่อต้านคำพิพากษาของศาล มุ่งโจมตี ป.ป.ช., กกต.และตุลาการภิวัฒน์ เพื่อชี้นำว่าพวกของตนเองถูกรังแก เป้าหมายหลักของพวกเขาในตอนนี้ก็คือ ต้องการให้ฝ่ายบริหารก้าวล้ำข้ามพรมแดนของฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ต่างจากการรัฐประหารหรือการฉีกรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด"
นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงกำหนดการในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ว่า เดิมทีทางพันธมิตรฯ จะจัดให้มีการเดินเวียนเทียนในบริเวณวัดเบญจมบพิตร-แยกสวนมิสกวัน-ถ.พระราม 5-ลานพระรูปทรงม้า แต่มีการหารือกันใหม่ โดยมองเห็นว่าจะเกิดปัญหาการจราจร และถ้าคนเข้าร่วมเยอะก็จะลำบาก อีกทั้งการเดินเวียนเทียน 3 รอบก็ใช้เวลานานเกินไป จึงปรับเปลี่ยนกำหนดการ เป็นเพียงการจุดเทียนร่วมกันในที่ชุมนุม ในเวลา 18.00 น
ส่วนในวันรุ่งขึ้น (18 ก.ค.) จะมีการตักบาตรในเวลา 07.00 น.โดยมีพระสงฆ์ 20 รูปจากวัดโสมนัส มาบิณฑบาต และในตอนเย็นจะมีสมณโพธิรักษ์ มาแสดงธรรม จนถึงเวลาสี่ทุ่ม จึงจะมีการปราศรัยตามปกติ
จี้ตร.เชียงใหม่เอาผิดม็อบเถื่อน
วานนี้ (16) ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด นางชมพูนุท โทสินธิติ และ นายเฉลิมพล แซมเพชร ได้เป็นตัวแทนพันธมิตรฯเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ปิยบุตร อัจฉริยมงคล ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ขอให้หามาตรการคุ้มครองความปลอดภัยในการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และขอให้สืบสวนสอบสวนนำตัวบุคคลที่มีพฤติการณ์ขัดขวาง ก่อกวน ทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สินกลุ่มผู้ร่วมเวทีเสวนาวิชาการที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา มาดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้มีหลักฐานเป็นภาพถ่าย และเอกสารจำนวน 1 ชุด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีเป็นผู้รับแทน และให้มีการลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน
พันธมิตรฯ มอบเงินช่วยทหารพราน
วานนี้ นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชัน (คปต.) ได้เป็นตัวแทนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเดินทางไปโรงพยาบาลสัมประสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อนำเงินจำนวน 50,000 บาท มอบให้ทพ.วิลัย อารมย์ รองผบ.ร้อยชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2301 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากได้รับบาดเจ็บขาขวาขาดจากการเดินพลาดเหยียบกับระเบิดที่บริเวณภูมะเขือ ทางด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร เพื่อปฏิบัติการทางจิตวิทยากดดันให้ทางกัมพูชายินยอมปล่อยตัวคนไทยทั้ง 3 คน
นายสนธิ ลิ้มทอง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การเดินทางไปของนายวีระ สมความคิด เพื่อนำเงินไปมอบให้แก่ทหารพรานในวันนี้ กลับถูกคัดค้านจากกองทัพภาคที่ 2 มิให้นำเงินไปมอบให้แก่ทหารพรานที่ และมีการปลดชื่อทหารพรานออก เพื่อมิให้ตัวแทนจากพันธมิตรฯได้มอบเงิน แต่กลับบอกว่า ให้นำมามอบให้แก่ผู้บังคับบัญชาแทน อย่างไรก็ตาม นายสนธิ ยืนยันหนักแน่นว่า " เราจะนำเงินนี้ มอบให้ถึงมือทหารพราน"
"ผู้ใหญ่ในกองทัพกลัวพันธมิตรฯจะได้หน้า จึงขัดขวางเรา แต่วันนี้ ขออาศัยเวทีนี้ ส่งสัญญาณถึงทหารทั่วประเทศไทย วันนี้ประชาชนตื่นหมดแล้ว ตอนนี้เรามีต้นทุนประชาชนประมาณ 20 ล้านคนแล้ว และประชาชนเหล่านี้ เป็นกำลังใจให้แก่ทหารอยู่ข้างหลังอยู่ "นายสนธิกล่าวและว่า ในวันนี้ (17) อยากให้พี่น้องและผู้ที่มาร่วมกับพันธมิตรฯทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จุดเทียนถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวัน 12 สิงหาฯล่วงหน้าที่สะพานมัฆวาน