“หมัก” อ้างเยือน ทอ.กะทันหัน เพราะกลัวน้อยใจ หลังไปเยือนเหล่าทัพอื่นมาแล้ว ด้านแม่ทัพฟ้า ระบุ นายกฯ ไม่ได้คุยการเมือง แต่เชื่อรัฐบาลยังไม่ง่อนแง่น เพียงแต่มีพายุถาโถม ย้ำทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ชี้ กรณี “พระวิหาร” หากเป็นมติทั้ง ครม.ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ยกกรณีประท้วงเนื้อวัวเกาหลี-ครม.สุรยุทธ์ เปรียบเทียบ เผยยังสงสัยทำไมรีบลงนามก่อนอนุมัติ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 10 ก.ค.ที่กองทัพอากาศ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และทีมนายทหารฝ่ายเสนาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตรวจเยี่ยมกองทัพอากาศ โดยมี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้การต้อนรับ โดยมีการบรรยายการทำงานของกองทัพอากาศ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ให้นายสมัครรับทราบ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
จากนั้น นายสมัคร กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมว่า “ผมมาที่กองทัพอากาศ ตามสถานะที่ควรต้องมา ทางสำนักงานเลขานุการ รมว.กลาโหม จัดตารางให้ ซึ่งกองทัพบก กองทัพเรือ ไปมาแล้ว ทหารอากาศเดี๋ยวเดินทาง ซ้อนไปจึงยกเลิก ที่มากะทันหัน ไม่ใช่เพราะอะไร ผมมีรายการไปเยี่ยมเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ไปกองทัพเรือ เป็นไปไม่ได้ ต้องไปกองทัพอากาศก่อน จึงมากองทัพเรือเป็นครั้งที่สองได้ เหตุผลมีเท่านั้น มาที่นี้เรียบร้อยดี กองทัพอากาศบรรยายสรุป ขอบอกว่าทุกอย่างดี ทุกอย่างเรียบร้อยไว้วางใจได้ และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ วันนี้ไม่ขอพูดการเมืองไว้ไปฟังในรายการสนทนาประสาสมัคร วันนี้ขอคุยข้างเดี่ยวไม่ตอบคำถาม”
พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า นายสมัคร บอกว่า จะไปเยี่ยมเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่เยือนกองทัพเรือ ท่านจึงมาตรวจเยี่ยมกองทัพอากาศ เดี่ยวจะขาดหายกองทัพอากาศ ซึ่งกองทัพอากาศบรรยายอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ในเรื่องความพร้อมปฏิบัติการใดตามภารกิจกองทัพทั่วไปให้ทราบ ซึ่งท่านซักถามเรื่องเครื่องบินเช่นการเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ เพราะเครื่องบินเอฟ 16 และกริพเพนเติมเชื้อเพลิงในอากาศแตกต่างกัน ซึ่งท่านก็สนใจ
“นายกฯ ไม่มีการพูดถึงสถานการณ์การเมือง เป็นเรื่องของการเมือง ผู้ที่ทำงานการเมืองต้องแก้ไขปัญหาส่วนนี้ไป ไม่มีนัยทางการเมือง แต่ท่านกลัวกองทัพอากาศต่อว่า เพราะไปกองทัพบก กองทัพเรือ แล้วจะไปกองทัพเรืออีก กลัวกองทัพอากาศน้อยใจ เป็นปกติที่มาเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชา เราดีใจที่มีโอกาสชี้แจงและพบท่าน ที่ผ่านมากองทัพอากาศไม่ได้น้อยใจ เพราะเราเตรียมมานานแล้วว่าท่านจะมา และเข้าใจดีว่าภาระท่านไม่เฉพาะกระทรวงงกลาโหมต้องดูแลอีก 20 กระทรวง” ผบ.ทอ.กล่าว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมอพยพคนไทยในกัมพูชาหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ เรื่องนี้ ผบ.สส.สั่งการว่าช่วยเตรียมพร้อมเราก็เตรียม แต่ไม่คิดว่าจะหนักหนาอะไร เพราะคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนจะทำอะไรในอนาคตต้องว่ากันต่อไป ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาต้องช่วยกันคิด ไม่ใช่ภาระกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ต้องช่วยกันทุกกระทรวง ทบวง กรม
เมื่อถามว่า ในภาวะที่รัฐบาลกำลังง่อนแง่นได้ขอให้กองทัพช่วยอะไรหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า คิดว่ารัฐบาลยังปกติ ไม่ถึงขั้นง่อนแง่น เพียงแต่มีพายุถาโถม คงเป็นภาระนักการเมืองต้องแก้ไข และท่านไม่ได้ร้องขอ และไม่ปรับทุกข์อะไร เล่าให้ฟังในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกระทรวงกลาโหมเท่านั้น ทั้งนี้ กองทัพอากาศไม่ได้มีการของบประมาณเพิ่มเติม เป็นเรื่องการการขอสนับสนุนงบปกติตามรูปแบบของงบประมาณ
เมื่อถามว่า มองการเมืองขณะนี้อย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ค่อนข้างสับสน เพราะหลายเรื่องเกี่ยวพันกับกฎหมาย คงต้องดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ สถานการณ์คลี่คลายหรือเพิ่มขึ้นไม่ทราบ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสำคัญ กฎหมายหลัก กฎหมายอื่นเป็นตัวประกอบ กฎหมายออกมาอย่างไรต้องยอมรับตามกฎหมาย เพราะถ้าไม่ยอมรับคงอยู่ในประเทศไทยไม่ได้
เมื่อถามว่า รัฐบาลชอบธรรมในการบริหารประเทศหรือไม่ เพราะมติ ครม.กระทำขัดกับรัฐธรรมนูญ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นตอนของการค้นหาว่าเป็นอย่างไร เพราะศาลได้กล่าวเฉพาะท่านเดียว ตนไม่สามารถคาดเดาได้
**ยกกรณีเกาหลี-รบ.สุรยุทธ์ ตัวอย่างความรับผิดชอบ
เมื่อถามว่า คิดว่า คณะรัฐมนตรีควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อจากนายนพดล หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า คิดว่า ส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ ต้องไปค้นหาว่ารัฐบาลเกี่ยวพันกับการที่อนุญาตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ เป็นเรื่องของการอนุมัติและการมีมติหรือไม่ ซึ่งหากเป็นมติของคณะต้องเป็นเรื่องของทั้งคณะ
เมื่อถามว่า หมายความว่า ท่านต้องการให้คณะรัฐมนตรีต้องร่วมรับผิดชอบใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ไม่ใช่” ผู้สื่อข่าวซักว่าต้องการให้แสดงสปิริตใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต นิ่งไปสักพักก่อนกล่าวว่า “ พูดยาก”
ผู้สื่อข่าวถามว่า พูดยากเพราะอะไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ความรู้เรื่องการเมืองผมน้อย แต่ผมดูทั่วไปในประเทศอื่น บางทีความรับผิดชอบในการนำเข้าเนื้อวัว และไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชน เขาก็รับผิดชอบ หรือกรณีที่รัฐมนตรีของ ครม.ของท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ มีคนที่มีคดีที่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็เป็นภาวะของแต่ละท่านพิจารณา”
เมื่อถามว่า เป็นความรับผิดชอบส่วนตัวของรัฐมนมนตรีไม่เกี่ยวกับ ครม.ใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า แต่ละบุคคลต้องมีสำนึกในจุดนั้น และเมื่อประกอบกันเป็นคณะต้องมีจิตสำนึกของคณะด้วย แต่คิดว่าประเทศไทยยังไม่ถึงจุดนั้น
**สงสัยรีบลงนาม “พระวิหาร”
เมื่อถามว่า ในฐานะคนไทยอึดอัดหรือไม่ที่ต้องเสียปราสาทพระวิหารโดยขาดความรับผิดชอบของ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า บางทีเราไม่รู้ข้อมูลเบื้องลึก จะใช้คำว่าไม่รับผิดชอบ บางทีมันก็ยาก บางทีมีสิ่งแวดล้อมอีกหลายอย่างที่อยู่เบื้องหลังแล้วเราไม่รู้ ตนเองก็ไม่รู้ ท่านเองก็ไม่รู้ มันอาจจะมีอะไรอีกหลายอย่าง แต่กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ทำไมถึงรีบลงนามก่อนได้รับอนุมัติ ผู้สื่อข่าวค้นคว้าให้ด้วยเพื่อประชาชนคนไทย
“คงเป็นบทเรียนต่อไป คิดว่า ด้วยคุณธรรม จริยธรรม หรืออะไรแล้วแต่ ระเบียบแนวทางหรือคุณสมบัติของนักการเมืองที่ดี ควรจะต้องทำอะไรบ้าง ไทยเรายังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาของนักการเมือง และประชาธิปไตย ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร กว่าที่จะทำให้เหมือนอเมริกาหรือยุโรป” พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
เมื่อถามว่า ในฐานะทหารคนหนึ่งจะบอกนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้แสดงสปิริตหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ผมว่าท่านมีอยู่แล้ว แต่บางทีท่านรอจังหวะ เดี๋ยวอาจจะรออีกแป๊บนึง คิดว่าสำนึกทุกคนมีอยู่ แต่จังหวะมันยังไม่ได้ เดี๋ยวท่านก็คงพิจารณาของท่านเองได้ ท่านมีประสบการณ์มากมาย”
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าแนวทางของนายกฯ ในขณะนี้ควรจะยุบสภาหรือลาออก พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวซักว่า ถ้านายกฯ มาถามท่านขอข้อแนะนำจะให้คำแนะนำท่านอย่างไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ผมจะบอก แต่จะบอกกับท่านสองคน”
เมื่อถามว่า คิดว่าผู้นำประเทศควรจะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์ในขณะนี้เพราะปล่อยไปประเทศอาจจะถึงทางตัน พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ไม่คิดว่าประเทศเราจะถึงทางตัน คงไม่ถึง ยังมีทางออก แต่บางทีอาจจะช้าหน่อย และไม่ถึงทางตัน ประเทศเรา 50-60 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยตกต่ำเลย”
ผู้สื่อข่าวซักว่า วันอาทิตย์นี้ในรายการสนทนาประสาสมัคร จะมีเซอร์ไพรส์ นายกฯ ประกาศลาออกหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “อย่าไปคิด .. ผมไม่ทราบหรอก ”