“ภูวดล” ผ่าแผน “แม้ว” เดินเกมชักใย “รัฐบาลโจร” เสียบคนของตัวเองหวังงาบผลประโยชน์จากอ่าวไทย ชี้ชัดถือเป็นการขายชาติครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ตอกยับ “หมัก” ไร้ภาวการณ์เป็นผู้นำประเทศ มั่นใจพลังมวลชนลากคอ “รบ.บัดซบ” ติดคุกยกแก๊ง เชื่อ “ทหารไทย” ไม่ละทิ้งผลประโยชน์ของชาติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย
วันนี้ (15 ก.ค.) ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวสถานการณ์ความตึงเครียดที่ปราสาทเขาพระวิหารว่า ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นจุดรวมของความบัดซบของชนชั้นปกครองไทย เพราะนำมาซึ่งความเสียใจของประชาชนทุกหมู่เหล่าตั้งแต่ระดับรากหญ้า ไปจนถึงสถาบันสูงสุด เนื่องจากเป็นการขายชาติครั้งยิ่งใหญ่ โดยในช่วง 200 ปี ที่ผ่านมา ไม่มีใครขายชาติได้บัดซบเท่ากับรัฐบาลชุดนี้ และถ้าศึกษาให้ดี ปัญหาเรื่องเขาพระวิหารที่ผ่านมานั้น รัฐบาลไทยไม่เคยยอมรับ แต่รัฐบาลชุดนี้กลับยอมรับว่าเราสูญเสียไปตั้งนานแล้ว ฉะนั้นผู้นำลักษณะเช่นนี้ จะเป็นผู้นำประเทศได้อย่างไร แม้แต่กุ๊ยยังเป็นไม่ได้เลยเพราะไม่รักพวกพ้อง
“เรื่องทั้งหมดมีสาเหตุมาจากแก๊งหน้าเหลี่ยม รวมทั้งรัฐบาลที่หวังผลประโยชน์จากอ่าวไทยเป็นหลัก ทั้งก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งสิทธิสัมปทานที่เกาะกง โดยในอดีตนักการเมืองไทย นักธุรกิจ และนายทหาร หากินกับรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่ยุคเขมร 3 ฝ่าย ทำให้ถูกผู้นำกัมพูชาดูถูกนักการเมืองไทยตลอดเวลาว่า สามารถเขว้างเศษเนื้อไป แล้วนักการเมืองไทยก็งับทันที” ดร.ภูวดล กล่าว
ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า เวลานี้ธุรกิจการท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ก็คือการขายอารยะธรรม โดยเฉพาะเขาพระวิหารซึ่งเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในอดีต ทำให้นักท่องเที่ยวที่มีระดับ มีความรู้ และมีเงินทอง หลั่งไหลไปเที่ยว เพราะสิ่งมหัศจรรย์ของโลกต่างๆ นั้น มีปัญหาเรื่องมุสลิมกลุ่มหัวรุนแรง จึงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนไม่อยากไปเที่ยว เพราะกลัวโดนระเบิด จึงเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวแห่ไปเที่ยวนครวัตรที่ประเทศกัมพูชา ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คนส่วนใหญ่จะหันไปลงทุนที่ประเทศกัมพูชา
“ในเมืองไทยมีเจ้าของโรงแรมระดับ 6 ดาว ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัททิฟฟี่ ซึ่งผลิตยาแก้หวัด ได้สิทธิสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาถึง 99 ปีในที่ดินที่นครวัตร แม้กระทั่งเสี่ยเจริญก็ไปสร้างโรงแรม และสนามกอล์ฟที่กัมพูชา ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานแล้ว ยังเน้นธุรกิจที่เกี่ยวกับบ่อนคาสิโน ดังเช่นกรณีของกำนันเปาะ เป็นตัวอย่าง เพราะมีการแย่งกันซื้อโรงแรมแอมบาสเดอร์ ที่ จ.ชลบุรี ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ หวังว่าจะสร้างเป็นคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ในที่สุดกำนันเปาะใช้ความเป็นมาเฟียส่วนตัว ประมูลซื้อมาจากธนาคารกรุงไทยโดยไม่จ่ายเงิน ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ มีการวางเกมให้จับกำนันเปาะ และเป็นที่รับรู้ในวงการนักพนันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะเปิดบ่อนที่ จ.เชียงใหม่ และที่เกาะช้าง โดยมีนักวิชาการพันธุ์ชั่วซึ่งพยายามทำหน้าที่เชียรัฐบาลทักษิณ ให้มีการเปิดบ่อนเสรี และมีการขายหวยเสรี” ดร.ภูวดล ระบุ
ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการวางแผนเป็นอย่างดี โดยตั้งแต่รัฐบาลรับใช้ขึ้นมาบริหารประเทศ ได้มีการเตรียมคนเอาไว้อยู่แล้ว โดยคนแรก คือการเปลี่ยนปลัดกระทรวงต่างประเทศ จากเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตันดีซี มาเป็นปลักกระทรวงต่างประเทศที่กรุงเทพฯ แล้วย้ายปลัดกระทรวงคนเก่าไปเป็นทูตไทยอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซี จากนั้นให้นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล เข้ามาทำหน้าที่แทน หลังจากนั้นมีการย้ายกรมอธิบดีกรมสนธิสัญญาออกเพราะไม่ยอมรับใช้ แล้วดันนายกิต ไกลกิตติ ลูกชายของนายสรรเสริญ ไกลกิตติ มาเป็นอธิบดีแทน
“อีกทั้งยังมีการย้าย นรต.รุ่น 10 มากินตำแหน่งเจ้ากรมแผนที่ และตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ซึ่งเทียบเท่ากับข้าราชการซี 11 โดยกะว่าถ้าขายแผ่นดินเสร็จสิ้น ก็จะโยกกลับกองทัพบกโดยให้ตำแหน่ง พลเอก ส่วนสำนักเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาตินั้น จริงๆ แล้วเป็นหน่วยงานพลเรือน แต่รองเลขาฯ บางคนที่ทำงานมานาน 9 ปี แล้วยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง แต่มีนายทหารพันธุ์ชั่วที่โฉบไปโฉบมา แล้วก็ได้เลื่อนตำแหน่ง แค่นั้นยังไม่พอรองเลขาฯ สมช.ที่เป็นทหารบางคน เข้ามากร่างอยู่ในสภาความั่นคงแห่งชาติ จนเจ้าหน้าที่หมั่นไส้ แล้วเอาข้อมูลมาแฉให้ฟัง” ดร.ภูวดล ระบุ
ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีเจ้ากรมแผนที่ทหารซึ่งเป็น นรต.รุ่น 10 มารับจ๊อบชั่วคราวจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งได้ทั้งเงิน ได้ทั้งอำนาจ และยังสามารถใช้ตำแหน่งเป็นสปริงบอร์ดโดดขึ้นไปกินตำแหน่งพลเอก ในอนาคตเร็วๆ นี้ ทหารบัดซบเหล่านี้ วันๆ ไม่ทำอะไร โดยเฉพาะเลขาฯ สมช.ซึ่งยอมรับเงื่อนไขต่างๆ และไปร่วมพิจารณากรณีขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกที่ควิเบ็ค แต่เขากลัวตาย จึงไปเที่ยวที่กรุงไคโรแทน โดยเอาเงินของภาษีชาวบ้านไปใช้ แต่กลับกลัวความชั่วที่เขาทำขึ้นมา นี่คือความบัดซบของข้าราชการไทยที่เชลียร์นักการเมือง รวมทั้งคนที่เป็นกรรมการมรดกโลกซึ่งไปทำหน้าที่แทนคนเดิมเพราะถูกปลดออก ซึ่งก็คือ ศ.ดร.อดุลย์ วิเชียรเจริญ เคยอดีตเป็นคณะบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คนที่มีปัญญา และมีความรู้ความสามารถ จะไม่ทำงานอย่างนี้ ท้ายที่สุดเมื่อกลับมา กลับตะแบงกรณีเขาพระวิหารโดยสิ้นเชิง
“วันนี้ นายวีระ สมความคิด กำลังลุยเข้าไป จะต้องจับไอ้ ครม.บัดซบมาติดคุกให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ หรือครอบครัว รวมทั้งคุณหญิง จะต้องถูกจับมาโลกโทษให้สาสม จะได้รู้ว่าประวัติศาสตร์ชาติไทยเหลือคนบัดซบอยู่อีกกี่คน และวันนี้ ผมยังมีความเชื่อมั่นในกองทัพไทย ว่าไม่มีใครยอมเสียพื้นที่ของประเทศไทยอีกแล้ว เหมือนกรณีเขาพระวิหารในขณะนี้ เพราะถ้ากองทัพไม่รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ แล้วจะแบกปืนไปหาอะไร แต่ผมเชื่อว่านายทหารทุกคนอยากให้ประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรือง เพื่อคนรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยไม่ต้องอยู่อย่างคนที่ไร้ย่างอาย เพราะคนโกงชาติโกงแผ่นดิน” ดร.ภูวดล กล่าวทิ้งท้าย