กกต.โอดครวญโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ชี้ “หมัก” อดีตเคยชมเชยแต่พอสถานการณ์เปลี่ยนคำชมก็เปลี่ยน ตอกกลับอย่าใช้ความคิดตัวเองสร้างบรรทัดฐาน ย้อนถามหาก กกต.เข้ามาโดยไม่ชอบด้วย กม.การเลือกตั้งถือเป็นโมฆะหรือไม่ ด้าน “สุเมธ” เบื่อลมปากนักการเมือง ปูดข่าวแจกใบแดง ปชป.
วันนี้ (15 ก.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงกรณี ส.ส.พลังประชาชน ยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐของ ส.ส.และ ส.ว. ว่า ได้มอบหมายให้สำนักคดีและกฎหมาย ไปตรวจสอบข้อกฎหมาย ว่า ผู้ร้องได้ดำเนินการถูกต้องตามช่องทางของกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ระบุไว้ให้ดำเนินการตรวจสอบไว้หลายช่องทาง เช่น ส.ส.และ ส.ว.สามารถเข้าชื่อ 1 ใน 10 ส่งต่อประธานสภาที่ตนเป็นสมาชิกถึงการสิ้นสุดสมาชิกสภาพของคนใดคนหนึ่ง และเมื่อสำนักกฎหมายและคดีได้ข้อสรุปก็จะเสนอต่อประธาน กกต.โดยหากไม่เห็นว่าอยู่ในขอบเขตอำนาจของ กกต.ก็จะส่งเรื่องต่อไปยังประธานสภานั้นๆ ต่อไป
“ผมเห็นว่า ทาง ส.ส.น่าจะยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยตรงก่อนที่จะมายื่นคำร้องต่อกกต.เพราะแม้ว่า กกต.ได้ตรวจสอบแล้ว ก็ต้องส่งกลับไปยังประธานสภาทั้งสองดำเนินการอยู่แล้ว”
สำหรับความคืบหน้าในการพิจารณาสำนวนเรื่องร้องคัดค้าน นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีทุจริตการเลือกตั้งที่ จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ กกต.จว.อุบลฯ ได้สรุปสำนวนส่งกลับเข้ามายังสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยแล้ว ล่าสุด จะนำสำนวนดังกล่าวเข้าหารือในคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ แต่ยังไม่ได้สรุปเสนอความเห็นเข้ามา ส่วนจะส่งให้ กกต.เพื่อพิจารณาลงมติได้ช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่ที่สำนวน ทั้งนี้ กกต.ยืนยันว่า ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ได้ประวิงเวลาแต่อย่างใด ทำอย่างตรงไปตรงมา เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นพรรคใด
นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯออกมาระบุว่า องค์กรอิสระหลายองค์กรเข้ามาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะ ป.ป.ช.และ กกต.ว่า กรณีการได้มาของ กกต.และ ป.ป.ช.นั้น มีบทเฉพาะกาลรองรับอยู่ โดยเฉพาะมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นใหม่ ก่อนหน้านี้ก็เคยถกเถียงกันมาแล้ว กกต.ก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
“ก่อนหน้านี้ ก็ออกมาชมผลการปฏิบัติงานของ กกต.แต่พอช่วงหลังที่มีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง จากคำชมก็เปลี่ยนไปด้วย แต่หากมองว่าการเข้ามาของกกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างนี้การเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ต้องถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยใช่หรือไม่ และทุกอย่างที่กกต.ดำเนินการไปแล้วจะถือว่าไม่มีผลด้วหรือไม่ ทั้งหมด กกต.ก็น้อมรับฟังคำวิจารณ์ แต่ไม่ใช่ว่าผลการตัดสินไม่ถูกใจก็จะเหมารวมหมดทุกฝ่าย เพราะทุกอย่างที่กกต.ดำเนินการก็ยึดตามกฎหมายและระเบียบโดยเคร่งครัด ซึ่งอาจจะทำให้คนถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง”
ด้าน นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวกรณีนายกฯ ระบุ กกต.จะให้ใบแดงนายวิฑูรย์ ว่า เรื่องนี้เป็นปกติของนักการเมืองที่จะพูดเรื่องนี้ ซึ่ง กกต.ต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องสำนวนรั่ว เพราะ กกต.พิจารณาด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้ดูว่าใครอยู่พรรคการเมืองใด