“สมชัย” กลับใจจ้องชงยุบหุ่นเชิด หลังศาลฎีกาชักใบแดง “ยุทธ”

กกต.ระบุ ไม่กระทบภาพลักษณ์ กกต.หากศาลฎีกาเห็นต่างข้อเสนอคดี ยุทธ ใบแดง พร้อมแจงขั้นตอนหลังศาลชักใบแดง ต้องส่งเรื่อง รธน.วินิจฉัยยุบพรรค เผยสำนวนคณะกรรมการสอบ “ชิมไปบ่นไป” ถึงมือแล้วพร้อมลงมติได้ทุกเมื่อ

วันนี้ (8 ก.ค.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เตรียมพิจารณากรณีใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ตามที่ กกต.เสนอ ว่า กกต.ไม่เป็นห่วงเรื่องการพิจารณาของศาล หากศาลฎีกาพิจารณาเพิกถอนสิทธิหรือให้ใบแดงต่อ นายยงยุทธ นายทะเบียนพรรคการเมืองก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคพลังประชาชนต่อไป โดยมีอัยการสูงสุดพิจารณาชั้นหนึ่งก่อน หากเห็นว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอ ก็จะต้องกลับมาตั้งคณะกรรมการร่วม ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวมีลักษณะเหมือนกับกรณียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามหากนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอก็ถือว่าจบ

เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ หากผลการพิจารณาของศาลฎีกาฯนายยงยุทธ ไม่ผิด กกต.จะถูกตามเช็กบิล นายสมชัย กล่าวว่า ไม่ เพราะทำตามหน้าที่ เรารู้ว่าหน้าที่ของเราแค่ไหน ในเมื่อวินิจฉัยจบไปแล้ว ก็ถือว่าจบ ถ้าสมมติว่า ยกฟ้องก็จบ หรือถ้าศาลฎีกาฯเห็นตามที่ กกต.เสนอ ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถ้าทุกคนรู้จักหน้าที่ และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องเคารพในคำวินิจฉัยของศาล ดังนั้น ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไรเหมือนหรือไม่เหมือนกับที่ กกต.เสนอ ก็ไม่ถือว่าขัดกันหรือส่งผลใดๆ ต่อภาพลักษณ์ของ กกต.

ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า กรรมการบริหารพรรคร่วมรัฐบาลทำไมถูกสั่งเพิกถอนสิทธิ และนำไปสู่การพิจารณายุบพรรค นายสมชัย กล่าวว่า ไม่ต้องไปเป็นห่วงเขา ตนกังวลเรื่องบ้านเมือง อยากให้บ้านเมืองนี้เดินไปได้ เพราะเสียโอกาสมาเป็นปีแล้ว และพรรคจะถูกยุบหรือไม่ ก็เป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ที่เป็นกติกาของบ้านเมือง ไม่ใช่หน้าที่ของกกต.ตนไม่ห่วงใยว่าพรรคไหนจะขึ้นหรือลง ใครจะเข้ามาบริหารประเทศ เพียงแต่อยากให้พรรคนั้นสามารถนำพาประเทศให้เจริญไปได้ ประชาชนอยู่ดีมีสุขมากกว่า และก็ไม่ห่วงว่ารัฐบาลจะยุบสภา หากยุบสภาจริง กกต.เราก็มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งใหม่ เพราะเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ขอให้มีงบประมาณ และอุปกรณ์ครบ ไม่มีปัญหาอะไรแน่ๆ

สำหรับความคืบหน้าของการพิจารณาสำนวนที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้อง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ไปจัดรายการชิมไปบ่นไป ซึ่งอาจจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ นายสมชัย ยังกล่าวถึงรายงานผลการสอบสวนกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯไปเป็นพิธีกรรายการชิมไปบ่นไปว่า ได้รับแจกสำนวนดังกล่าวในที่ประชุมกกต.แล้ว แต่ต้องขึ้นอยู่กับ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.ว่าจะนัดพิจารณาสำนวนนี้ในวันใด ส่วนผลสรุปของคณะกรรมการสอบสวนฯ ไม่สามารถเปิดเผยได้