นายกรัฐมนตรี เตรียมจ้อผ่าน “NBT” บ่ายโมง ผุดนโยบายประชานิยมฉบับลูกกรอก อ้าง ปชช.ได้ประโยชน์ ด้าน “หมอเลี้ยบ” ชี้ชุดมาตรการหลากกระทรวง รับพิษเงินเฟ้อ-น้ำมันแพง ลั่น “สร้างหวังให้รากหญ้า” จับตาโครงการ “ลด-แลก-แจก-แถม” หวังลดแรงเสียดทานการเมือง
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ตนจะแถลงเรื่องสำคัญภายหลังการประชุมครม.วันที่ 15 ก.ค. ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยขอให้รอฟังตอนบ่ายโมงครึ่ง เมื่อถามว่าเป็นนโยบายประชานิยมรอบใหม่ใช่หรือไม่ นายสมัคร ตอบว่า เขาไม่ให้บอกล่วงหน้า เมื่อถามว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า ใช่ๆ
ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเวลา 13.00 น.วันที่ 15 ก.ค.นี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) บางส่วนจะเป็นผู้แถลงข่าวข้อเสนอของ ครม.เพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนที่ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยมีสถานีโทรทัศน์ NBT เป็นแม่ข่าย
“นายสมัครจะแถลงข่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากที่ได้พูดไว้ในรายการสนทนาประสาสมัคร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่ ครม.มีมติ เพื่อให้สามารถบรรเทาทุกข์ประชาชนในกรณีที่เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ค่าครองชีพสูง โดยเป็นชุดมาตรการตามความร่วมมือของหลายกระทรวง แต่ผมไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพื่อให้ ครม.พิจารณาก่อน” นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า บางมาตรการสามารถดำเนินการได้เร็วและทันที บางมาตรการต้องมีระเบียบปฏิบัติเพื่อให้มีผลด้านกฎหมาย รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะพิจารณากำหนดวันเวลาที่จะสามารถเริ่มมาตรการ ขณะเดียวกัน ส่วนของกรอบมาตรการใหม่นี้จะสามารถเข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้หรือไม่นั้น โดยหลักเห็นชัดเจนว่าอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะเดือนที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 8.9 เปอร์เซ็นต์ถือว่าสูงในรอบทศวรรษ เป็นเหตุให้กระทรวงต่างๆ หารือกันแล้วว่า สมควรจะมีมาตรการเสริมเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนทั่วไปยืนอยู่ได้ภายใต้เศรษฐกิจแบบนี้
นพ.สุรพงษ์ ยังเชื่อว่ามาตรการที่ออกมาทำให้ประชาชนมีความหวัง ถึงแม้จะเผชิญทางเศรษฐกิจและมีการเมืองแทรกอยู่บ้าง ถ้าหากทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน ชีวิตความเป็นอยู่จะเป็นสุขได้ภายใต้ภาวะอย่างนี้ คาดว่าตนจะสามารถนำความหวัง ความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนได้
ส่วนการเมืองจะเป็นตัวกระตุกภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้มากไปหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การเมืองก็ต้องว่ากันไป เพราะประเด็นทางการเมืองอยู่ในลักษณะต่อเนื่องกันมายาวนานแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายเนื่องจากเรื่องราวต่างๆ ไม่ยอมจบสิ้น ท่ามกลางความเบื่อหน่าย ประชาชนก็ทุกข์ด้วย แม้ว่ารัฐบาลเผชิญกับประเด็นทางการเมือง ประเด็นเรื่องคดี แต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เราจะนั่งกังวลเรื่องตัวเอง เพราะรับอาสามาจากพี่น้องประชาชนแล้วเรื่องงานต่างๆที่ต้องรับผิดชอบ เรื่องปากท้องความเรื่องที่ต้องทุ่มเทมากว่า
ดังนั้น มาตรการที่จะแถลงในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) จะมีผลหลากหลายแต่จะเน้นเรื่องที่มีผลกระทบรุนแรง เช่น ประชาชนกลุ่มที่มีรายได้น้อย ยากจน มาตรการที่ออกมาจะทำให้ประชาชนที่ยากจนสามารถลดรายจ่ายในชีวิตได้ มาตรการที่ออกมาเรียนได้ว่า เป็นมาตการที่ออกมาหลายกระทรวงไม่ใช่กระทรวงการคลังเพียงอย่างเดียว แต่ตนไม่ขอลงรายละเอียดเพราะอยากให้รมต.ได้ให้ความเห็นชอบก่อน โดยเฉพาะมาตรการการคลังแน่นอนว่าจำเป็นต้องใช้เม็ดเงิน ปริมาณเม็ดเงินต้องรอ รมต.พิจารณาก่อน
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อจีดีพี ถือเป็นปัญหาที่เกิดจากราคาน้ำมัน และการเงินในระดับโลก ซึ่งมาเร็วเกินกว่าเราคาดการณ์ไว้ แต่เดิมคาดการณ์ว่าน้ำมันจะขึ้นมาที่ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล์ ประมาณปลายปี 2551 แต่วันนี้มันเข้าใกล้แล้ว ฉะนั้นหลายอย่างที่เราเตรียมการณ์ไว้ในครึ่งปีหลังก็ทำไม่ทัน อย่างเรื่อง NGV มาตรการการสร้างรายได้ให้ประชาชนกลุ่มต่างๆ ต้องเร่งทำให้เร็วขึ้น ระยะเปลี่ยนผ่านนี้ต้องคิดว่า จะต้องทำอย่างไรให้บรรเทาทุกข์ประชาชนให้เบาบางได้ เชื่อว่ามาตรการที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ ทำให้ประชาชนมีความหวังได้
ส่วนเป้าจีดีพีจะลดลงหรือไม่นั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ วันนี้มีการประเมินเมื่อผ่านมาครึ่งปีก็ยังอยู่ในอัตราที่ตั้งเป้าไว้ 6เปอร์เซ็นต์หรือใกล้ๆ แต่ที่เป็นห่วงคือ ในครึ่งปีหลังหากเตรียมการไม่ดี ปัญหาเงินฝืด เศรษฐกิจฟุบอาจจะเป็นตัวซ้ำเติมลงไปอีก เพราะจะทำให้แก้ปัญหายากยิ่งขึ้น ตรงนี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายเตรียมหามาตรการมารองรับ
นพ.สุรพงษ์ กล่าวปฏิเสธให้ความเห็นการพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ย ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกรรมการนโยบายการเงิน ตนไม่ขอให้ความเห็น เพียงแต่ประเมินได้แต่ไม่ชี้นำอะไร ส่วนกรณีคูปองคนจนนั้นจะรวมอยู่ในมาตรการที่รัฐบาลจะแถลงพรุ่งนี้หรือไม่นั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า3-4 อาทิตย์ที่ผ่านมามีการสงสัยถึงนิยามของ “คนจน” หากให้ความช่วยเหลือแล้วจะมีวิธีการอย่างไรที่จะไม่ให้มีผู้แอบอิงผลประโยชน์ ทำอย่างไรไม่ให้มีผู้มาแย่งชิมไอติมคนจน นั่นคือวิธีที่คิดมาตลอด ซึ่งเป็นข้อเสนอที่จะรวมอยู่ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เป็นไปได้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รอบใหม่นี้อาจจะประกอบด้วยมาตรการการลดภาษีรอบใหม่ของกระทรวงการคลัง การจัดสรรที่ดินทำกินของกระทรวงมหาดไทย การกำหนดพลังงานทดแทน E 85 เป็นวาระแห่งชาติของกระทรวงพลังงานและรวมไปถึงมาตรการแจกคูปองคนจน เป็นต้น ทั้งนี้จะเป็นมาตรการชุดใหญ่เพื่อหวังลดกระแสคะแนนนิยมตกต่ำของรัฐบาลและพรรคพลังประชาชน
