xs
xsm
sm
md
lg

“ป๊อก” เหนื่อยใจโดนพันธมิตรฯด่า-ยันไร้ประโยชน์ทับซ้อนกรณีเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
ผบ.ทบ.เผย ปชช.ไม่พอใจกรณีเขาพระวิหาร เป็นการแสดงความรักชาติ แต่ต้องอยู่บนเหตุผลไม่สร้างความขัดแย้ง ยันไม่ใช้กำลังผลักดันชาวเขมรในพื้นที่ทับซ้อน หวั่นตึงเครียด ยอมรับไม่รู้จะทำอย่างไร โดนพันธมิตรฯ โจมตี ยันไม่มีวาระซ่อนเร้น หรือผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ย้ำอีกไม่ปฏิวัติ หวั่นสังคมได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีประชาชนบางส่วนไม่พอใจการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ว่า เป็นการแสดงความรักชาติห่วงแผ่นดิน ห่วงสถานที่ที่เป็นประวัติศาสตร์ของไทย ซึ่งการช่วยกันรักษาไว้เป็นสิ่งที่ดี การแสดงออกถึงความรักชาติรักแผ่นดินทำได้ แต่ต้องอยู่บนหลักของเหตุผล ความเป็นจริง และไม่สร้างในลักษณะให้เกิดความขัดแย้ง

ผลประโยชน์ของประเทศชาติ ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านมีหลายมิติด้วยกัน ทั้งเศรษฐกิจ หรือการอยู่ร่วมกันโดยสันติ และไม่ต้องใช้กำลังทหารไปประจำการตามแนวชายแดน ถือเป็นความสำเร็จที่ไม่ต้องเป็นภาระประเทศชาติในทุกๆ ด้าน ทั้งนี้ เรามีวิธีการพูดคุยกันได้ในทางกลไก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือกลไกทางกฎหมาย

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายกดดันให้กองทัพเข้าไปดำเนินการในการผลักดันชาวกัมพูชาที่มาอาศัยในพื้นที่ทับซ้อน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การใช้มาตรการทหาร ต้องมาจากรัฐบาล เราทำเองไม่ได้ ซึ่งมาตรการที่ผ่านมา เราได้มีการรายงานมาโดยตลอด รวมถึงการเข้ามาปลูกสร้างของชาวกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งนโยบายของรัฐบาลไทยที่ผ่านมา เน้นว่า ไม่ให้ใช้มาตรการรุนแรง หรือมาตรการเผชิญหน้าให้ใช้มาตรการประท้วงตามกลไก ซึ่งได้ยืดเยื้อมาถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินทราบว่า มีนักวิชาการไม่เห็นด้วยที่จะใช้มาตรการในการใช้กำลังทหารลงไปผลักดันในพื้นที่ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเกิดภาวะตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติ และจะต้องมีปัญหาที่ตามมา เรื่องของความสัมพันธ์ของคนในชาติ เศรษฐกิจ ดังนั้น น่าจะใช้มาตรการอื่นดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ทหารพร้อมที่จะปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาลให้ดำเนินการ

เมื่อถามว่า จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องพูดคุยกับกัมพูชา เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า แน่นอน เรามุ่งหวังว่า หากรัฐบาลมีการเจราจากับกัมพูชา จะแก้ไขปัญหานี้ได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี

**เหนื่อยใจโดนพันธมิตรฯ ด่า

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พยายามโจมตีตลอดเวลา พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เรียนว่า ตนทำหน้าที่ไม่มีวาระแอบแฝง หรือซ้อนเร้นใดๆ ทั้งสิ้น ที่มีการนำตนไปโจมตี ว่า ตนมีผลประโยชน์ รับรองว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเดินไปตามขั้นตอน เช่น คนมีคดีต้องว่าไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ ยังมีหนทางที่จะแก้ไขปัญหาประเทศชาติในแนวทางอื่น การที่จะให้ใช้ความรุนแรง ทั้งเรื่องการปฏิวัติ หรือเรื่องใดก็ตาม พูดมาหลายครั้งแล้วว่าสังคมโดยรวมจะได้รับผลกระทบมากกว่า และไม่เป็นประโยชน์ น่าจะใช้หนทางอื่นในการแก้ปัญหาทางการเมือง

เมื่อถามว่า ประชาชนบางส่วนไม่พอใจกับคำตัดสินของศาล พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องเกี่ยวกับด้านกฎหมายไม่สามารถจะเอาความถูกใจหรือไม่ถูกใจ แต่ต้องว่าไปตามข้อมูลหลักฐานและตัวกฎหมาย ซึ่งเป็นกลไกของทางสังคมที่ได้วางไว้ ถ้าอยากให้ลงโทษรุนแรงต้องไปแก้กฎหมายให้รุนแรง และต้องมีหลักฐานที่จะจับได้ เป็นปัญหาพื้นฐานที่ทราบกันอยู่ว่าขึ้นอยู่กับการหาหลักฐานได้และมีกฎหมายจะลงโทศอย่างไร ทั้งนี้ สิ่งที่ว่าจะใช้ความสะใจคงไม่ได้

เมื่อถามว่า หลังจากที่ศาลพิจารณาและคดีต่างๆ มีความชัดเจนจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คนที่อยู่บนแนวทางที่ยึดหลักการน่าจะรู้สึกว่าดีขึ้น เพราะทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและยกมาเป็นประเด็นก็ถูกดำเนินการตามกฎหมายและมีผลออกมา ตนคิดว่า น่าจะดีขึ้น เพราะทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น