ถึงแม้ว่ารัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติจะพยายามหลอกลวงประชาชนด้วยวิธีการใด ๆ ว่าประเทศไทยไม่เสียดินแดนให้กับเขมรจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่ความจริงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าประเทศไทยเสียดินแดนแน่นอนแล้ว
ผลจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของเขมร ประเทศไทยสูญเสียดังต่อไปนี้
เสียปราสาทพระวิหารและปราสาทอื่นอีก 3 หลัง รวมทั้งทางขึ้นและทะเลสาบ ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างอย่างหนึ่ง
เสียดินแดนพื้นที่อันเป็นที่ตั้งสิ่งก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 3,000 ไร่ อย่างหนึ่ง และ
เสียดินแดนพื้นที่โดยรอบประมาณ 10,000 ไร่ โดยให้เขมรเข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการ โดยตกลงว่าเป็น “พื้นที่ทับซ้อน” อีกอย่างหนึ่ง
แต่ประชาชนไทยซึ่งนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ยอมรับ และได้ประกาศให้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับเขมรเป็นโมฆะ และยืนยันว่าสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดรวมทั้งพื้นที่ทั้งหมดเป็นของไทย
ดังนั้นข้าราชการทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน และประชาชนไทย จึงมีทางเลือกสองทาง คือ
ทางแรก สนับสนุนรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ยอมยกทรัพย์สมบัติสิ่งก่อสร้างและดินแดนไทยให้เขมร
ทางที่สอง สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พิทักษ์รักษาสิ่งก่อสร้างและดินแดนไทยไม่ให้ตกเป็นของเขมร
คำถามใหญ่ที่เผชิญหน้าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือนคือ จะยอมจำนนต่อวินัยแล้วหุบปากโดยยอมเสียทรัพย์สมบัติของชาติและดินแดนของประเทศหรือไม่?
จะยอมรับนับถือวินัยเพื่อการขายชาติ เพื่อการยกทรัพย์สมบัติและอธิปไตยให้เขมรตามที่ผู้บังคับบัญชาบางคนยอมจำนนหุบปากและยอมเสียดินแดนหรือไม่?
หรือจะยอมรับว่าวินัยของข้าราชการทหาร ตำรวจนั้นไม่ใช่วินัยเพื่อการขายชาติหรือเพื่อยกทรัพย์สมบัติและดินแดนของประเทศให้เขมร แต่เป็นวินัยเพื่อการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยของชาติ และปกป้องพระมหากษัตริย์
เราเรียกร้องให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนยืนอยู่ข้างประชาชนผู้รักชาติ สนับสนุนการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์
เราเรียกร้องให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนปฏิเสธวินัยเพื่อการขายชาติที่ยอมจำนนรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ กดหัวข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนเพื่อยกดินแดนอธิปไตยและทรัพย์สมบัติของชาติให้แก่เขมร
ผู้บังคับบัญชาคนใดที่ใช้วินัยเพื่อการขายชาติ ผู้บังคับบัญชานั้นคือผู้ทรยศชาติ ดังนั้นระเบียบวินัยและคำสั่งใด ๆ ที่เป็นไปเพื่อการขายชาติ ไม่ชอบธรรม จะต้องถูกปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยว แม้กระทั่งการจัดการแก้ไขปัญหาเพื่อมิให้คนขายชาติหรือทรยศชาติใช้กำลังทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการเพื่อการขายชาติอีกต่อไป
ทหาร ตำรวจ และข้าราชการ รวมทั้งประชาชน มีหน้าที่หลักที่สืบทอดมาแต่บรรพชนจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ นั่นคือหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยของชาติ พิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดำรงคงอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป
ในวันนี้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกบ่อนทำลายหมายจะโค่นล้มและสถาปนาสาธารณรัฐเข้าแทนที่ราชอาณาจักรไทยและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แต่ผู้บังคับบัญชาที่ขายตัวและขายชาติยอมหุบปาก ยอมคล้อยตาม ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ของตัว และกดหัวผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำตาม โดยใช้วินัยเพื่อการขายชาติเป็นเครื่องมือ
ในวันนี้เอกราชอธิปไตยของชาติกำลังถูกขายให้เขมร ทั้งบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร และแนวชายแดนหลายแห่ง รวมทั้งในพื้นที่ทะเลในอ่าวไทย ความจริงเป็นที่ประจักษ์ชัดแก่สายตาข้าราชการและประชาชนไทยทั่วประเทศแล้ว
แต่ผู้บังคับบัญชาที่ขายตัวและขายชาติยอมหุบปาก ยอมคล้อยตาม และไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ของตัว กดหัวผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำตาม โดยใช้วินัยเพื่อการขายชาติเป็นเครื่องมือ
ดังนั้นจึงถึงเวลาที่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนจะต้องตัดสินใจว่าจะยอมให้วินัยเพื่อการขายชาติกดหัวให้ต้องทรยศต่อชาติทรยศต่อพระมหากษัตริย์ ยอมหุบปากและคล้อยตามรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติหรือไม่?
ไม่มีเวลาอีกแล้ว เวลาแห่งการตัดสินใจมาถึงแล้ว เพราะหากเนิ่นช้าต่อไป เขมรจะส่งกำลังเข้ามายึดดินแดนที่พวกขายชาติได้ไปทำสัญญายกให้ และยังจะเสียดินแดนในพื้นที่ในทะเลในอ่าวไทยอีกมหาศาล
คนไทยไม่อาจยอมให้บ้านเมืองสูญเสียดินแดน สูญเสียเอกราชอธิปไตย สิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์ อีกต่อไป
ดังนั้นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ จึงต้องมาร่วมมือกับประชาชนผู้รักชาติสนับสนุนการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พิทักษ์ปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติไม่ให้เขมรเข้ามายึดครอง และพิทักษ์ปกป้องพระมหากษัตริย์ให้มั่นคงในราชอาณาจักรนี้ตลอดไป
ลุกขึ้นเถิด ก้าวออกมาเถิด มาร่วมในแนวรบประชาชาติด้วยมือชาญ ประชาชาติไทยตื่นขึ้นแล้ว ลุกขึ้นแล้ว ขอให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนเปิดตัวออกมาร่วมต่อสู้กับพี่น้องร่วมชาติของท่าน เพื่อนำชัยชนะกลับมาสู่ประเทศชาติและพี่น้องร่วมชาติของเรา
ปฏิเสธผู้บังคับบัญชาและวินัยเพื่อการขายชาติ เชิดชูวินัยเพื่อการกู้ชาติ สนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนผู้รักชาติ เอาประเทศไทยของเราคืนมา!
ผลจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของเขมร ประเทศไทยสูญเสียดังต่อไปนี้
เสียปราสาทพระวิหารและปราสาทอื่นอีก 3 หลัง รวมทั้งทางขึ้นและทะเลสาบ ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างอย่างหนึ่ง
เสียดินแดนพื้นที่อันเป็นที่ตั้งสิ่งก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 3,000 ไร่ อย่างหนึ่ง และ
เสียดินแดนพื้นที่โดยรอบประมาณ 10,000 ไร่ โดยให้เขมรเข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการ โดยตกลงว่าเป็น “พื้นที่ทับซ้อน” อีกอย่างหนึ่ง
แต่ประชาชนไทยซึ่งนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ยอมรับ และได้ประกาศให้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับเขมรเป็นโมฆะ และยืนยันว่าสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดรวมทั้งพื้นที่ทั้งหมดเป็นของไทย
ดังนั้นข้าราชการทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน และประชาชนไทย จึงมีทางเลือกสองทาง คือ
ทางแรก สนับสนุนรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ยอมยกทรัพย์สมบัติสิ่งก่อสร้างและดินแดนไทยให้เขมร
ทางที่สอง สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พิทักษ์รักษาสิ่งก่อสร้างและดินแดนไทยไม่ให้ตกเป็นของเขมร
คำถามใหญ่ที่เผชิญหน้าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือนคือ จะยอมจำนนต่อวินัยแล้วหุบปากโดยยอมเสียทรัพย์สมบัติของชาติและดินแดนของประเทศหรือไม่?
จะยอมรับนับถือวินัยเพื่อการขายชาติ เพื่อการยกทรัพย์สมบัติและอธิปไตยให้เขมรตามที่ผู้บังคับบัญชาบางคนยอมจำนนหุบปากและยอมเสียดินแดนหรือไม่?
หรือจะยอมรับว่าวินัยของข้าราชการทหาร ตำรวจนั้นไม่ใช่วินัยเพื่อการขายชาติหรือเพื่อยกทรัพย์สมบัติและดินแดนของประเทศให้เขมร แต่เป็นวินัยเพื่อการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยของชาติ และปกป้องพระมหากษัตริย์
เราเรียกร้องให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนยืนอยู่ข้างประชาชนผู้รักชาติ สนับสนุนการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์
เราเรียกร้องให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนปฏิเสธวินัยเพื่อการขายชาติที่ยอมจำนนรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ กดหัวข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนเพื่อยกดินแดนอธิปไตยและทรัพย์สมบัติของชาติให้แก่เขมร
ผู้บังคับบัญชาคนใดที่ใช้วินัยเพื่อการขายชาติ ผู้บังคับบัญชานั้นคือผู้ทรยศชาติ ดังนั้นระเบียบวินัยและคำสั่งใด ๆ ที่เป็นไปเพื่อการขายชาติ ไม่ชอบธรรม จะต้องถูกปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยว แม้กระทั่งการจัดการแก้ไขปัญหาเพื่อมิให้คนขายชาติหรือทรยศชาติใช้กำลังทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการเพื่อการขายชาติอีกต่อไป
ทหาร ตำรวจ และข้าราชการ รวมทั้งประชาชน มีหน้าที่หลักที่สืบทอดมาแต่บรรพชนจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ นั่นคือหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยของชาติ พิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดำรงคงอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป
ในวันนี้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกบ่อนทำลายหมายจะโค่นล้มและสถาปนาสาธารณรัฐเข้าแทนที่ราชอาณาจักรไทยและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แต่ผู้บังคับบัญชาที่ขายตัวและขายชาติยอมหุบปาก ยอมคล้อยตาม ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ของตัว และกดหัวผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำตาม โดยใช้วินัยเพื่อการขายชาติเป็นเครื่องมือ
ในวันนี้เอกราชอธิปไตยของชาติกำลังถูกขายให้เขมร ทั้งบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร และแนวชายแดนหลายแห่ง รวมทั้งในพื้นที่ทะเลในอ่าวไทย ความจริงเป็นที่ประจักษ์ชัดแก่สายตาข้าราชการและประชาชนไทยทั่วประเทศแล้ว
แต่ผู้บังคับบัญชาที่ขายตัวและขายชาติยอมหุบปาก ยอมคล้อยตาม และไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ของตัว กดหัวผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำตาม โดยใช้วินัยเพื่อการขายชาติเป็นเครื่องมือ
ดังนั้นจึงถึงเวลาที่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนจะต้องตัดสินใจว่าจะยอมให้วินัยเพื่อการขายชาติกดหัวให้ต้องทรยศต่อชาติทรยศต่อพระมหากษัตริย์ ยอมหุบปากและคล้อยตามรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติหรือไม่?
ไม่มีเวลาอีกแล้ว เวลาแห่งการตัดสินใจมาถึงแล้ว เพราะหากเนิ่นช้าต่อไป เขมรจะส่งกำลังเข้ามายึดดินแดนที่พวกขายชาติได้ไปทำสัญญายกให้ และยังจะเสียดินแดนในพื้นที่ในทะเลในอ่าวไทยอีกมหาศาล
คนไทยไม่อาจยอมให้บ้านเมืองสูญเสียดินแดน สูญเสียเอกราชอธิปไตย สิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์ อีกต่อไป
ดังนั้นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ จึงต้องมาร่วมมือกับประชาชนผู้รักชาติสนับสนุนการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พิทักษ์ปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติไม่ให้เขมรเข้ามายึดครอง และพิทักษ์ปกป้องพระมหากษัตริย์ให้มั่นคงในราชอาณาจักรนี้ตลอดไป
ลุกขึ้นเถิด ก้าวออกมาเถิด มาร่วมในแนวรบประชาชาติด้วยมือชาญ ประชาชาติไทยตื่นขึ้นแล้ว ลุกขึ้นแล้ว ขอให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือนเปิดตัวออกมาร่วมต่อสู้กับพี่น้องร่วมชาติของท่าน เพื่อนำชัยชนะกลับมาสู่ประเทศชาติและพี่น้องร่วมชาติของเรา
ปฏิเสธผู้บังคับบัญชาและวินัยเพื่อการขายชาติ เชิดชูวินัยเพื่อการกู้ชาติ สนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนผู้รักชาติ เอาประเทศไทยของเราคืนมา!
