“อภิสิทธิ์” แนะ “หมัก” หุบปากอย่ากล่าวโทษรัฐธรรมนูญต้นตอปัญหามรสุมการเมือง ชี้ปัญหาอยู่ที่ตัวบุคคล เย้ยนายกฯ ไม่ใช่ “สมัคร” บ้านเมืองไม่สะดุด จี้ปรับ “นพดล” พ้นกระทรวง เร่งเคลียร์เขมรเชื่อมีปัญหาอธิปไตยตามมา ไม่คาดหวังพรรคร่วมเปลี่ยนขั้วรัฐบาล
วันนี้ (9 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ไม่คิดว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจยุบสภาตอนนี้ ดังนั้น หากนายสมัครยังอยู่ในตำแหน่งไม่อยากให้นายกฯ ปล่อยเวลาไปวันๆ เพราะปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันต้องการความเชื่อมั่นในการสมานฉันท์ และไม่มีเหตุผลที่นายกรัฐมนตรีจะต้องรอเรื่องคดีต่างๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะหากปล่อยให้เรื้อรังปัญหาก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ คิดว่านายกฯ ควรปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งใหญ่ ตั้งคนที่ไม่มีปัญหาเข้ามาทำงานเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับมา
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ฝ่ายบริหารต้องการรอให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ผ่านวาระ 2-3 ไปก่อนจึงจะมีการยุบสภา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่าไปคิดถึงตรงนั้น แต่ต้องคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวม ถ้าคิดแค่จะรอความได้เปรียบทางการเมืองก็จะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ เพราะฉะนั้นควรเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนดีกว่า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องกรณีเขาพระวิหารและพื้นที่โดยรอบนั้น เรื่องความรับผิดชอบต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่หากเป็นตนเองสิ่งแรกที่จะต้องทำทันที คือ การเปลี่ยน รมว.ต่างประเทศ และให้ รมว.คนใหม่ไปบอกกับต่างประเทศไปบอกกับนานาประเทศว่าเราไม่ได้สนับสนุนแถลงการณ์ร่วมไทยกัมพูชา และแถลงการณ์ฉบับนั้นจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป ทั้งนี้ เพื่อรักษาสิทธิของเราไม่ให้ได้รับผลกระทบและลุกลามต่อไปเป็นประเด็นเรื่องอธิปไตย เพราะขณะนี้แค่เริ่มต้นก็จะมี 7 ชาติเข้ามาบริหารพื้นที่ทับซ้อนร่วมกันภายใต้การจดทะเบียนของกัมพูชา หากไม่แก้ไขจะเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นมา เพราะในปี 2553 ต้องเสนอคณะกรรมการมรดกโลก ถึงวันนั้นเราอาจต้องเสียใจกันอีก เพราะฉะนั้นต้องทำทันทีรวมถึงการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับกัมพูชาด้วย ยืนยันอีกครั้งว่าเรื่องที่ฝ่ายการตรวจสอบเพราะต้องการให้รัฐบาลรักษาผลประโยชน์ของประเทศเหมือนกับที่รัฐบาลกัมพูชาก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติเขา
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องเอาผิดรัฐมนตรีไม่มีปัญหา เพราะจะมีกระบวนการตรวจสอบอยู่ทั้งฝ่ายค้าน และ ส.ว.โดยทางฝ่ายค้านคิดว่าจะถอดถอน รมว.ต่างประเทศ ภายใน 1-2 วันนี้ อีกทั้งจะให้คณะกรรมการประสานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ไปขอรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการประชุมครม.จากเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบรายละเอียดของการประชุมเพื่อตรวจสอบว่ามีรัฐมนตรีคนใดบ้างที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับ รมว.ต่างประเทศและต้องรับผิดชอบ ซึ่งในการถอดถอนสามารถทำได้ทีละคนเท่านั้นไม่สามารถถอดถอนได้ทั้งคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ การถอดถอนรัฐมนตรีที่ว่านี้ หากใครเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นจากพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม หากมีข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบหมดทุกคน
เมื่อถามว่า คิดถึงเรื่องการเปลี่ยนขั้วพรรครัฐบาลบ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้คิดเรื่องนั้น เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของแต่ละพรรคการเมืองว่าจะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร แต่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ไปบอกว่าให้ไปเปลี่ยนแปลง เพราะต้องให้แต่ละพรรคไปใช้ดุลพินิจกันเอง
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับการที่นายสมัครระบุว่าไม่สามารถลาออกทั้ง ครม.ได้เพราะจะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตามกฎหมายจะมีทางออกอยู่ตลอด และไม่อยากให้นักการเมืองคนไหนคิดว่าถ้าขาดตัวเองแล้วบ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้ เพราะมันไม่จริง เนื่องจากระบบและกลไกทางกฎหมายยังมีอยู่ เพราะฉะนั้น อะไรที่ถูกต้องก็ควรทำอย่าไปคิดว่าตัวเองมีความสำคัญมากจนขาดไปแล้วบ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้ เพราะมันไม่มีจริงแต่อย่างใด ส่วนที่นายกรัฐมนตรีบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้บกพร่องนั้น ขอให้บอกมาว่าบกพร่องตรงไหน เพราะถ้าบกพร่องเพราะคนไม่ปฏิบัติตามคงไม่ใช่ เพราะนั่นคือความบกพร่องของบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญต่างหาก ที่ผ่านมาไม่เห็นว่ารัฐธรรมนูญจะบกพร่องตรงไหนที่รัฐบาลทำงานไม่ได้มีแต่รัฐบาลได้ละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ไปแล้วทั้งที่มีคนทักท้วงไปแล้วการละเมิดตรงนั้นจึงเป็นปัญหาบกพร่องส่วนบุคคลมากกว่า