“ปู่ชัย” รีบเสนอหน้าอ้างเป็นคนขอร้องนายกให้เปิดอภิปรายเอง เชื่อไม่ยืดเยื้อ ด้าน “ชูศักดิ์” โต้ไม่มีใครบีบให้นายกเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปฏิเสธเดินตามกลไกรัฐสภาเพื่อกลบกระแสกดดันนอกสภา
วันนี้ (23 มิ.ย.) นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติของ ส.ว. ว่า ไม่น่าเป็นห่วง วันเดียวน่าจะเพียงพอ และเชื่อว่าไม่น่าจะยึดเยื้อหรือเพิ่มเวลา การอภิปรายของ ส.ว.ไม่ได้เป็นการซักฟอกแต่เป็นการชี้แนะแก้ไขปัญหา เพื่อให้รัฐบาลได้รับฟัง ส่วนการซักฟอก เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเริ่มในเวลา 13.30 น. วันที่ 24 มิ.ย.นี้ เชื่อว่าฝ่ายค้านใช้เวลา 2 วันน่าจะเพียงพอ เพราะการอภิปรายมุ่งเน้นที่เนื้อหาไม่ใช่น้ำท่วมทุ่ง ส่วนการทำหน้าที่ของรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คนก็จะมีการสับเปลี่ยนกันคนละ 3 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 วัน และลงมติในเช้าวันที่ 26 มิ.ย. จากนั้นก็จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552
เมื่อถามว่า มีการมองว่าจะมีการตีรวนการอภิปรายของฝ่ายค้าน นายชัย กล่าวว่า ตนมองว่า ส.ส.เป็นผู้ทรงเกียรติ เคารพตามกฎสภาที่กำหนดไว้ ต่อข้อถามว่า การเปิดอภิปรายครั้งนี้ เป็นเพราะถูกกระแสของสังคมกดดันหรือถูกขอร้องจากรัฐบาล นายชัย กล่าวว่า ไม่ใช่กระแสของสังคมกดดันหรือการขอร้องจากรัฐบาล ที่ให้ตนบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ตนเป็นคนขอให้รัฐบาลได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติเอง เรื่องกระแสสังคมต้องแยกอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องบ้านเมืองก็แยกอีกเรื่องหนึ่ง พันธมิตรก็แยกอีกเรื่องหนึ่ง เพราะแต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน ถ้านำมาผสมกันก็เหมือนกับปลาร้าที่มีหลายอย่างผสมกัน ดังนั้นต้องแยกออกจากกัน
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.และฝ่ายค้านออกมาตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลเร่งบรรจุบัญญัติการอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้าสู่สภาว่า หลักเดิมเราเปิดวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 และกฎหมายที่สำคัญต่าง ๆ ในอดีตเปิด 2-3 วันแล้วก็ปิด แต่เมื่อรัฐบาลบอกว่าไม่พร้อมทาง ส.ว.ก็หารือและมีมติที่จะเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ และให้นายกฯ มาฟังการอภิปรายฯในวันนี้ (วันที่ 23 มิ.ย.) เมื่อนายกฯตรองดูแล้วก็ให้ความร่วมมือกับ ส.ว. ในการเปิดอภิปรายแต่เมื่อให้ความร่วมมือกับ ส.ว.แล้วก็จะมีปัญหาตามมาว่าในส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านจะทำอย่างไร ท้ายที่สุดเมื่อให้ ส.ว.อภิปรายก็ให้ฝ่ายค้านอภิปรายไปด้วย จะได้สิ้นสุดกระแสความไม่คาราคาซังทางการเมืองในอนาคตเพราะเดี๋ยวจะหาว่าไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร อ้างว่าให้ ส.ว.และฝ่ายค้านอภิปรายเพราะเป็นคนไปขอร้องนายกฯให้ทั้ง ส.ว.และนายกฯ อภิปรายได้ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ นายชัย บรรจุญัตติของฝ่ายค้านแล้ว ส่วน ส.ว.เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาก็มีการส่งแฟ๊กซ์ถึงนายกฯขอให้ทบทวน ซึ่งตนเป็นคนประสานกับนายกฯว่าจะเอาอย่างไรดี สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าให้ ส.ว.อภิปรายวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย.
เมื่อถามย้ำว่า เป็นความต้องการของนายกฯ ที่ต้องการให้อภิปรายเองโดยที่ไม่มีอะไรแอบแฝงใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี ต่อข้อถามว่าการเปิดอภิปรายสามารถลดกระแสความกดดันได้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เราคิดว่าเมื่อมีการพูดจากันในสภามีการถ่ายทอดสดประชาชนจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อย่างน้อยที่สุดได้ชี้แจงทำความเข้าใจ ส่วนจะลดกระแสหรือไม่ลดก็แล้วแต่
เมื่อถามว่าการเปิดอภิปรายเหมือนกับเป็นการต่อลมหายใจให้รัฐบาลอยู่ยาว นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้ต่อ เพราะเราทำตามรัฐธรรมนูญ โดยปกติการเปิดประชุมวิวสามัญไม่มีการยื่นก็ต้องยอมรับตรงไปตรงมา แต่เมื่อยื่นมาแล้วสามารถเดินต่อไปได้ เราก็ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นว่าไม่น่ามีปัญหา ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่ามีการระบุว่า นายกฯ อาจถูกบีบให้ลาออก นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีเลย ผู้สื่อข่าวถามว่าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นสุดท้ายกลไกรัฐสภาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เราเดินตามกลไกรัฐสภาแล้ว ถ้าจะให้กลไกของรัฐสภาแก้ปัญหาจะแก้อย่างไร เพราะเมื่ออยากจะอภิปรายเราก็ให้อภิปรายแล้วจะแก้ปัญหาไม่ได้อย่างไรเพราะนี่คือครรลองประชาธิปไตยไม่ใช่หรือ ต่อข้อถามว่าแรงกดดันก็จะมีสูงขึ้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ตนกลับคิดว่าเรามาอยู่ในกระบวนการนี้ก็น่าจะดี ประชาชนก็เห็นว่าเป็นอะไร เดินออกมาคนก็เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร ประชาชนมีความรู้สึกอย่างไร
นายชูศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในฐานะรัฐมนตรีที่จะต้องเดินทางเข้ไปทำงานรู้สึกกังวลหรือไม่ว่า ไม่กังวลอะไร ไม่มีปัญหา เพราะเราต้องประชุมและต้องทำงาน ไม่ได้ไปแอบพักที่โรงแรมอะไรอย่างที่เขาว่า
