“นพดล” หนีบบิ๊กบัวแก้วเข้าให้ถ้อยคำต่อศาล รธน.ตามคำร้องของ ส.ส.และส.ว. มั่นใจจะชี้แจงได้ครบถ้วนก่อนแถลงท่าทีอีกครั้งบ่ายนี้ ฟุ้งในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปร่วมประชุม คกก.มรดกโลกเพื่อขอเลื่อนการขึ้นะเบียนประสาทพระวิหาร ที่แคนาดา
วันนี้ (4 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้แจงและให้ถ้อยคำตามคำสั่งศาล หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ ส.ส.และ ส.ว.ที่ขอให้วินิจฉัยว่า แถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย และรัฐบาลกัมพูชา กรณีสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ฉบับลงวันที่ 18 มิ.ย.2551 ที่ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรค 2 ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของสภาหรือไม่ ไว้พิจารณา
ทั้งนี้ นายนพดลให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า มีความมั่นใจในสิ่งที่ได้ทำไป และจะชี้แจงตามข้อเท็จจริง โดยเอกสารที่เตรียมมาคล้ายกับที่เคยชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ยังไม่ทราบว่าศาลจะสอบถามประเด็นใด หรือจะขอให้ยื่นเอกสารใด และว่าการเดินทางมาศาลรัฐธรรมนูญวันนี้มาในฐานะให้ถ้อยคำและแสดงความเห็น ไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้
“ผมพร้อมให้ความร่วมมือกับศาลอย่างเต็มที่ เชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยไม่มีปัญหา และเวลา 14.00 น. วันนี้ ผมจะแถลงท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศที่ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนจะเดินทางไปแคนาดา เพื่อประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ค.) ผมจะไปขอเลื่อนการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และไม่สามารถให้คำรับรอง หรือสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวได้” นายนพดล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพดลเดินทางมาให้ถ้อยคำโดยมีรองปลัดกระทรวง และอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ มาร่วมชี้แจง พร้อมเอกสารและแผนที่ที่เกี่ยวข้อง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก และมีการจัดระเบียบการทำข่าวอย่างเข้มงวด โดยเลขานุการส่วนตัว นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประสานให้ช่างภาพขึ้นไปถ่ายภาพก่อนชี้แจง ประมาณ 10 นาที เนื่องจากมีสื่อมวลชนจำนวนมากมาติดตามข่าว ขณะที่มีประชาชนกลุ่มหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจนายนพดล แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้เข้ามาในบริเวณศาล