“จำลอง” โต้ข้อหาพันธมิตรฯ ปลุก “ชาตินิยม” สวนกลับคนเกลียดคำนี้เพราะไม่รักชาติ ยกญี่ปุ่น-เกาหลีอยู่รอดได้เพราะชาตินิยมจนขึ้นแท่นเป็นประเทศชั้นนำ ชูการเมืองใหม่ นักการเมืองต้องเสียสละ ไม่รับเงินเดือน ขรก.ไม่ต้องมีเงินประจำตำแหน่ง
วันที่ 5 ก.ค. เมื่อเวลา 21.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยที่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้มีกลุ่มตัวแทนร้านโชวห่วยมาร่วมสนับสนุนพันธมิตรฯ เดี๋ยวคอยดูวันพรุ่งนี้จะมีคนหาว่าพวกราปลุกชาตินิยม ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกลีดคำนี้ หรือว่าหลายคนที่เกลียดคำนี้ไม่รักชาติ และตนจะพูดแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆไม่มีวัหยุด เนื่องจากคนไทยในสมัยนี้ไม่ยอมเสียสละ แม้กระทั่งเรื่องเพียงนิดเดียวเพื่อประเทศชาติ เอาแต่ความสะดวกสบาย อยู่ดีมีสุข หารู้ไหมว่าเราจะต้องอยู่อย่างเป็นทุกข์เมื่อเราไม่ได้รักชาติ
“ผมพูดเรื่องนี้เสมอ แต่ไม่ได้ไปไกลเท่าคุณสนธิ พูดในหลักสูตรโรงเรียนผู้นำที่มีคนเข้าไปเรียนเพียง 5 หมื่นคนเท่านั้น แต่คนที่ดูรายการของคุณสนธินั้นมีเป็นแสนเป็นล้านคน เพราะเราไม่นิยมชาติ ปัญหาต่างๆ จึงเกิดขึ้น อย่างเช่นเรื่องปัญของร้านโชห่วยเป็นต้น” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า คนทั่วทุก 76 จังหวัดนั้นมีมากมายไม่รักชาติ ไม่คิดถึงชาติ ตนขอเอ่ยถึง 2 ชาติที่ตนรู้จักดีและเขาก็รู้จักตนดี ชาติแรกคือชาติญี่ปุ่น ซึ่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นต้องหมดตัว และยากจนมาก แต่ด้วยความเป็นญี่ปุน มหาจักรพรรดิท่านตรัสกับชาวญี่ปุ่นว่า เราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เรายังโชคดีที่เรามีคนญี่ปุ่น แต่พอถึงวันนี้ประเทศไทยเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ยังโชคดีที่ยังมีคนไทยอย่างพวกเราอยู่
“สินค้าญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นราคาไม่ได้ถูก แถมคุณภาพก็แย่ แต่ชาวญี่ปุ่นก็ทนใช้ จนบัดนี้สินค้าชั้นนำของโลกแล้ว นี่เป็นเพราะความเป็นชาตินิยมและรักชาติของเขา” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า อีกชาติหนึ่ง คือ เกาหลีใต้ ซึ่งเรื่องโชห่วยของเกาหลีนั้นไม่มีปัญหา เนื่องจากได้ไล่ห้างยักษ์จากต่างชาติออกไปหมดแล้ว ตอนที่ยังไม่ได้ไล่ ตนได้ท้าคนไทยที่กำลังจะไปที่นั่น ให้มองลงไปที่ถนนดูรถว่ารถส่วนใหญ่เป็นของเกาหลีทั้งนั้น รถญี่ปุ่น, ยุโรป, อเมริกา นั้นมีน้อย เพราะนิยมชาติตัวเอง มีชาตินิยม
“นี่คือความมีชาตินิยม นิยมชาติ รักชาติ เพราะเราไม่รักชาติ บ้านเมืองถึงได้เป็นอย่างนี้” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ตนอยากจะบอกน้องๆ ทั้ง 3 เหล่าทัพ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง อยากจะให้หาอ่านหนังสือแจกที่ชื่อว่า กองทัพกับประชาธิปไตย ซึ่งตนจะหยิบยกมาอ่านให้ฟังบางตอนหนังสือเขียนไว่า กองทัพ คือ ปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่มีอำนาจชี้ขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่บ้านเมืองตกอยู่สถาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน และอีกตอนหนึ่งที่พูดถึงประเทศไทยว่ากองทัพไทยมีบทบาทสำคัญยิ่งที่ต้องพิทักษ์รักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน กองทัพประกอบด้วยเสรีชนในเครื่องแบบ กองทัพย่อมตระหนักดีอยู่แล้วว่า ในสภาพการพิเศษประเทศชาติและประชาธิปไตยจะอยู่รอดได้อย่างไร โดยเน้นว่าจะต้องมีการเร่งปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ นั่นก็คือการเมืองใหม่
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า การเมืองใหม่ในความคิดของตนนั้น ในฐานะที่ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว เคยเป็นหัวหน้าพรรคมาแล้ว ขอยืนยันการเมืองใหม่ในสายตาของตนเองว่า การเมืองไม่ใช่อาชีพ การเมืองคือความเสียสละ เพราะอาชีพนั้นคือการหากำไร และเราไม่ต้องการแบบนั้น เสียสละแบบไม่โกงทั้งต่อหน้าและลับหลัง โดยนักการเมืองทั้ง ส.ส.และส.ว.จะต้องไม่มีเงินเดือน ซึ่งทุกวันนี้ที่มี ส.ส.และ ส.ว.กินเงินเดือน ชาติจะต้องเสียเงินให้ปีประมาณ 800 ล้าน สู้เรานำมาพัฒนาให้คนยากคนจนดีกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้ และเคยทำมาแล้ว
“สิ่งที่ผมนำเสนอไปนี้ ทำได้แน่นอน ผมเคยทำมาแล้ว ถึงผมรับเงินเดือนแต่ก็เอาไปช่วยคนอื่น ส.ส. ส.ว.ไม่จำเป้นต้องมีเงินเดือน รับแค่เบี้ยประชุมครั้งละ 1 พันบาทก็พอแล้ว เวลาเดินทาง เครื่องบินก็ขึ้นฟรีอยู่แล้ว แต่ผมไม่เคยขึ้นฟรี เพราะมีเงินบำนาญอยู่
เมื่อคืนรายการรู้ทันประเทศไทย อ.เจิมศักดิ์ ที่มีนายทหารเรือ และอากาศ ที่ได้บอกว่าเงินประจำตำแหน่งมีทั้งนั้น มีทั้งพลเรือนและทหาร ท่านยกตัวอย่างเช่น ทหารชั้นผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่ง มีเงินเดือน 5 หมื่นบาท และยังมีเงินประจำตำแหน่งอีก 5-6 หมื่นบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ให้ยกเลิกเรื่องนี้ไปเลย ข้าราชการจะได้ไม่มัวแต่ไปแสวงหาตำแหน่ง ต้องวิ่งเข้าหานักการเมือง เพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในตำแหน่งนานๆ เพื่อจะได้เงินเยอะๆ นี่คือการเมืองใหม่ในความคิดของผม และการเมืองใหม่จะดีแน่ๆ” พล.ต.จำลองกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนที่ พล.ต.จำลองจะปราศรัย ได้มีการเปิดมิวสิกวิดีโอเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” โดยมีภาพประวัติของ พล.ต.จำลองตั้งแต่วัยเด็ก วัยเรียน ช่วงที่เป็นทหาร เป็นผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้นำประชาชนในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ มาจนภาพปัจจุบัน เพื่อเป็นการอวยพรวันเกิดครบรอบปีที่ 73 ของ พล.ต.จำลอง ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2551