xs
xsm
sm
md
lg

“นิตย์” ตอก “นพดล” โบ้ยมั่วย้ำไม่เคยหนุนแขมร์ขึ้นทะเบียนพระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิตย์ พิบูลสงคราม
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ “ขิงแก่” ตอกหน้า “นพดล” อ่านเอกสารหน้าแรกแล้วโบ้ยมั่ว ยันรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้รับรองการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวย้ำได้ทักท้วงตลอด ระบุหลักการต้องบริหารพื้นที่ร่วมกัน

วันนี้ (5 ก.ค.) นายนิตย์ พิบูลสงคราม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวว่า การอ้างถึงข้อมติของที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 31 จะดูแต่เพียงในย่อหน้าแรกที่ว่า “ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องถึงคุณค่าสากลที่โดดเด่นของปราสาทพระวิหาร และจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยเร็วที่สุด ดังนั้น กัมพูชาและไทยตกลงกันว่ากัมพูชาจะเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการในสมัยประชุมที่ 32 ของคณะกรรมการมรดกโลกใน พ.ศ.2551 โดยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากไทย” เท่านั้นคงไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยที่ 31 ที่เมืองไครส์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ คือ ไทยไม่เห็นด้วยที่กัมพูชา จะดำเนินการยื่นขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกเพียงลำพัง โดยไม่มีความร่วมมือของไทย แต่กัมพูชาถือว่ามีสิทธิ เพราะอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา ที่สุดแล้วคณะกรรมการมรดกโลกให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน เพราะกัมพูชาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะเสนอเรื่องนี้โดยลำพัง เนื่องจากมีหลายประเทศแสดงความห่วงใยในเรื่องดังกล่าว

“ในมติของคณะกรรมการมรดกโลกครั้งนั้นระบุชัดว่าไทยเห็นด้วยว่าปราสาทพระวิหารมีความจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือในหลายด้าน ทั้งเรื่องการเงินและเรื่องเทคนิค แต่การดำเนินการต่างๆ จำเป็นต้องมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและกัมพูชา นอกจากนี้ เรายังเห็นว่าสิ่งที่จำเป็น คือ การที่ทั้งสองประเทศต้องร่วมกันจัดทำแผนการบริหารพื้นที่ ซึ่งมีความเหมาะสมด้วยเรื่องอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารมันยุติตั้งแต่คณะรัฐมนตรีไทยเมื่อปี พ.ศ. 2505 มีมติให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก ดังนั้น ไทยไม่ได้คัดค้านการที่กัมพูชาจะขึ้นทะเบียบปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ชัดเจนว่าเราไม่เห็นด้วยกับกัมพูชาในการประชุมที่เมืองไครส์เชิร์ชที่จะมีการดำเนินการฝ่ายเดียว สิ่งที่เรายืนยัน 2 เรื่อง คือ การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกจะต้องมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิด และต้องหารือกันเกี่ยวกับการทำแผนบริหารจัดการ เป็นการสนับสนุนแบบมีเงื่อนไข ถ้าไม่ทำตามนั้นเราก็มีสิทธิที่จะบอกว่าเราไม่เห็นด้วย” นายนิตย์ กล่าว

นายนิตย์ กล่าวว่า การประชุมผู้เชี่ยวชาญเพื่อจัดทำรายงานความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวเพื่อแจ้งต่อศูนย์มรดกโลก ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเสียมเรียบเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งไทยได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมด้วย มีหลายประเด็นในการพูดคุยที่ยังอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่คลาดเคลื่อน รวมถึงเรื่องแผนที่ ซึ่งกัมพูชายังใช้แผนที่ฉบับเดิม ซึ่งยังทับซ้อนกับพื้นที่ที่เราอ้างสิทธิ ทำให้ผู้แทนไทยแสดงความเห็นขัดแย้งในทันที แต่ที่ประชุมยังละเลยข้อโต้แย้ง ดังนั้น ผู้แทนไทยจึงได้ประท้วงและประกาศถอนตัวออกจากการทำรายงานร่วมดังกล่าว ต่อมาเมื่อมีการสรุปรายงานของคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อส่งให้ นายสก อัน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งยังคงเพิกเฉยต่อสิ่งที่ไทยทักท้วง เราก็ประกาศถอนตัวอีกครั้ง แต่นายสก อัน บอกว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นเรื่องของการพัฒนาพื้นที่ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมือง หรือการปักปันเขตแดนที่เราได้ทักท้วงไป ส่วนการหารือครั้งต่อมาระหว่างผู้แทนไทยกับกัมพูชา ที่สิงคโปร์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 หมดวาระของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น