“มาร์ค” ตำหนิเจ้ากระทรวงบัวแก้วเลิกรักษาหน้าตัวเอง มากกว่ารักษาหน้าของประเทศ ชี้หางเริ่มโผล่พบจุดยืนต่างมติครม.ถือว่ามีความผิดซ้ำสอง ด้านทีมโฆษกอัดซ้ำ “หมัก” ปกป้อง “เหล่” โพนทะนาทำให้คนจีนเข้าใจผิดปราสาทพระวิหาร
วันนี้ (3 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ยูเนสโกระบุว่า นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ได้ไปลงนามแถลงการณ์ร่วม ให้เสนอปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกในนามกัมพูชาก่อนจะมีมติคณะรัฐมนตรีว่า ตรงนี้เป็นเหตุผลที่ฝ่ายค้านมองว่า รมว.ต่างประเทศทำความเสียหายให้เกิดขึ้น แต่ขณะนี้ในส่วนของรัฐบาลต้องทำเท่าที่ทำได้ โดยต้องทำความเข้าใจภายหลังจากที่ได้มีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมแล้วมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และต้องแสดงความคิดเห็น จุดยืน และคำวินิจฉัยของศาลปกครองให้คณะกรรมการมรดกโลกทราบ รวมทั้งต้องยืนยันว่าเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับกัมพูชา และไม่ได้มีปัญหากับการที่ปราสาทพระวิหารจะเป็นมรดกโลก แต่หนทางที่ดีที่สุดของการอนุรักษ์ตัวปราสาทน่าจะเป็นเรื่องของการจดทะเบียนร่วมกัน แต่จะมีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน หักล้างได้หรือไม่ เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการ ซึ่งฝ่ายค้านได้ทำหนังสือถึงกรรมการมรดกโลกทุกคนชี้แจงให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
“กระทรวงการต่างประเทศโดยเฉพาะรัฐมนตรีต้องเลิกคิดถึงเรื่องของการรักษาหน้าทางการเมืองของตัวเอง ต้องคิดถึงว่าทำอย่างไรจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศได้ดีที่สุด และต้องยอมรับว่าเมื่อศาลมีคำสั่ง หรือเมื่อมีการโต้แย้งเกิดจากการกระทำของท่านก็ดี ต้องไปถ่ายทอดตรงนี้ ไม่เช่นนั้นจะยิ่งกลายเป็นเหมือนกับว่าเป็นผิดซ้ำสอง ถ้าท่านรัฐมนตรีพยายามจะมีจุดยืนต่างหาก จากที่มติคณะรัฐมนตรีกำหนดไป ท่านจะมีความผิดซ้ำสอง เพราะฉะนั้นต้องจับตาดูว่าบทบาทของท่านว่าเป็นอย่างไร” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวต่างๆ ในขณะนี้จะสายเกินไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลายฝ่ายพยายามทำเท่าที่ทำได้ แต่ขณะนี้คงทำได้เพียงรอ เพราะต้องยอมรับว่าการที่รัฐมนตรีไปลงนามแถลงการณ์ร่วมแล้วจึงเป็นปัญหา และตรงนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ฝ่ายค้านต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจนายนพดล ทั้งนี้ เห็นว่าหากกรรมการมรดกโลกมีความตั้งใจที่จะดูแลในเรื่องการอนุรักษ์สถานที่สำคัญอย่างนี้ ไม่อยากจะใหัด่วนตัดสินใจและไปก่อให้เกิดปัญหาในภายหลัง เพราะจะไม่สมเจตนารมณ์กับการที่ได้อนุรักษ์สถานที่นั้นเป็นมรดกโลกและมีการดูแลอย่างดีต่อทุกฝ่าย
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวกับคนไทยในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนว่ากรณีปราสาทพระวิหารเป็นเรื่องทางการเมือง ที่มีการนำมาฟาดฟันในสภาฯจากการที่ฝ่ายค้านนำเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า นายกฯ พูดในสิ่งที่คลาดเคลื่อน ทำให้คนไทยในประเทศจีนที่ไม่ได้มีโอกาสติดตามการอภิปรายดังกล่าวเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ ทั้งนี้ การที่พรรคประชาธิปัตย์หยิบยกกรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารมาอภิปราย รมว.ต่างประเทศ เป็นการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านนำเสนอให้เห็นว่าเหตุใดนายนพดลกระทำไม่ถูกต้องในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยกัมพูชาเป็นผู้เสนอฝ่ายเดียว ไม่ใช่การนำมาฟาดฟันในสภาฯ อีกทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อไมตรีที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ