“สุริยะใส” เผยคืนนี้ แกนนำเตรียมเสนอการเมืองรูปแบบใหม่ ย้ำ 7 ก.ค.เดินหน้าบุก สตช.ทวงถามคดีแกนนำ-ผู้ร่วมชุมนุมกว่า 20 คดี และ 9 ก.ค.เตรียมบุก อสส.จี้ คดียุบพรรค ยันการชุมนุมไม่มีกร่อย มวลชนมีไม่น้อยต้องนับร่วมผู้ชมทางบ้านที่ดู ASTV ด้วย ชี้ “นพเหล่” อย่าโบ้ยโยนความผิดให้ “รบ.ขิงแก่” ยืนยัน แผนยก “เขาพระวิหาร” เริ่มตั้งแต่ “รบ.แม้ว 1”
วันนี้ (4 ก.ค.) เวลา 18.30 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวว่า วันนี้ แกนนำพันธมิตรจะขึ้นปราศรัยเพื่อเสนอรูปแบบและแนวคิดการเมืองใหม่ต่อประชาชน และผู้ร่วมชุมนุมโดยจะมีผู้ปราศรัยหลัก 3 คน ได่แก่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ นายพิภพ ธงไชย
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้า พันธมิตรฯจะใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายอย่างเข้มข้นขึ้น โดยในวันที่ 7 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.แกนนำทั้ง 5 และมวลชนพันธมิตรฯบางส่วนจะเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อทวงถามความคืบหน้าของคดีความที่มีคนในรัฐบาลเป็นผู้ต้องหาที่ยังคั่งค้างอยู่ รวมถึงความคืบหน้าของคดีความที่แกนนำพันธมิตรและผู้ปราศรัยบนเวทีการชุมนุมถูกแจ้งข้อหา ซึ่งพบว่า มีอยู่กว่า 20 คดี ในตอนนี้ เพราะเรามีความเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเลือกปฏิบัติ เพราะพยายามจะดำเนินคดีกับพันธมิตรฯเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ การเดินทางไป สตช.ในครั้งนี้ จะไปทวงถามถึงหลักปฏิบัติของทางตำรวจต่อกรณีคำสั่งบังคับคดีของศาลแพ่งเพราะมีการพยายามบิดเบือนคำสั่งศาลโดยมุ่งหวั่งให้มีการสลายการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสบอุบัติเหตุในเย็นวันนี้ ระหว่างเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่บริเวณที่ชุมนุม ว่า ทางพันธมิตรฯขอแสดงความเสียใจและกำลังตรวจสอบข้อมูลว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใด ทางแกนนำพันธมิตรจะไปเยี่ยมในภายหลัง
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ในวันเดียวกันกับที่การใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายไปที่ สตช.ในช่วงเช้าทีมทนายของพันธมิตรฯจะเดินทางไปอุทธรณ์คำสั่งบังคับคดีของศาลแพงที่ระบุว่า ให้เปิดเส้นทางจารจรและให้ปิดเครื่องขยายเสียง ขณะที่ในเวลาบ่ายโมงแกนนำทั้ง 5 จะเดินทางไปฟังคำสั่งศาลแพ่ง ในคดีดังกล่าว ส่วนในวันพุธ (9 ก.ค.) พันธมิตรฯจะใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายเดินทางไปสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อทวงถามความคืบหน้าในคดีต่างๆ ในความรับผิดชอบของสำนักงานอัยการสูงสุด เพราะก่อนหน้านี้เราได้เดินทางไปทวงถามแต่ยังไม่ได้รับหนังสือตอบรับชี้แจงใดๆ ซ้ำร้ายยังมีพฤติกรรมล่าช้าอีกด้วย โดยเฉพาะคดียุบพรรคและคดีความผิดของคนในรัฐบาล
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯในเวลานี้ ยังไม่กร่อยอย่างที่หลายคนวิจารณ์ เพราะยังมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมโดยตลอด โดยเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อีกทั้งยังมีผู้ชุมนุมทางบ้านผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ASTV อีกหลายล้านคน เฉพาะตัวเลขของทางเคเบิลทีวีก็มีสมาชิกประมาณ 12 ล้านคน ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีจานดาวเทียม ASTV โดยตรงมีประมาณ 6-7 ล้านคน การชุมนุมพันธมิตรฯเป็นการชุมนุมในลักษณะพิเศษ เวลานับมวลชนของพันธมิตรฯต้องนับรวมมวลชนทางบ้านด้วย ซึ่งมีความพร้อมและความตื่นตัวทางการเมืองสูง เห็นได้ชัดจากกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช กล่าวผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร ว่า จะมีการสลายการชุมนุม ในวันเดียวกันก็มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ยุทธศาสตร์หลักของพันธมิตรฯในเวลานี้ คือ การชุมนุมยืดเยื้อต่อไปเรื่อยๆ โดยจะมีไฮไลต์ในช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นอกจากนี้ ในต่างจังหวัดเองก็เริ่มมีกิจกรรมเวลาการคู่ขนาน
นายสุริยะใส กล่าวว่า การที่ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า การดำเนินการให้เห็นชอบให้กัมพูชา ขึ้นทะเบียนปราสาทเข้าพระวิหาร เป็นมรดกโลก เริ่มต้นจากรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นั้น ยืนยันว่า ไม่จริง เพราะเรื่องนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ 1 เพราะเมื่อเดือน พ.ค.2546 มีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมระหว่าง ไทย-กัมพูชา มีการนำเรื่องพื้นที่ทับซ้อน ในอ่าวไทย และเขาพระวิหาร มาหารือ มีมติ ครม.สนับสนุนให้ทางกัมพูชาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก การกล่าวเช่นนี้ของ นายนพดล ถือเป็นการกล่าวปัดความรับผิดชอบ