ยามฯภูเก็ตไม่หวั่น“เหลิม”สั่งห้ามตั้งจอถ่ายทอดการชุมนุมในที่สาธารณะ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ยอดจำหน่ายจานดาวเทียม ASTV ที่ภูเก็ตพุ่ง หลัง “มท.1” สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งผู้ประกอบการเคเบิลระงับถ่ายทอดสัญญาณช่อง ASTV รวมจานอื่น ๆ อีกร่วมกว่า 100 ชุดต่อเดือน ระบุ “เหลิม” แน่จริงมาจับ เหตุไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

นายสุรเชษฎ์ แก้วผลึก หนึ่งในแกนนำกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต และเจ้าของร้าน “อีซี เซอร์วิส” ตัวแทนจำหน่ายจานดาวเทียม ASTV พื้นที่ จ.ภูเก็ต กล่าวถึงกระแสการจำหน่ายจานดาวเทียม ASTV ช่วงที่มีการรวมตัวชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลนอมินีของพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ว่า ขณะนี้กระแสความต้องการซื้อจานดาวเทียม ASTV ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวภูเก็ตสั่งซื้อกันเป็นจำนวนมาก

โดยในแต่ละวันสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 10-15 ชุด ชุดละ 1,900 บาท โดยเฉพาะหลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาป่าวประกาศสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดสั่งการให้ผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นระงับการถ่ายทอดสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ช่อง ASTV

เนื่องจากไม่พอใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเกรงว่า ผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นจะทำตามคำสั่งปิดกั้นข้อมูลข่าวสารดังกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ไม่เพียงจานดาวเทียมของ ASTV เท่านั้นที่ได้รับความสนใจ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการที่จะซื้อจานดาวเทียมชนิดใดก็ได้ ที่สามารถรับสัญญาณของช่อง ASTV ได้ โดยที่ไม่เกี่ยวราคาว่า จะสูงกว่าจานชุด 1,900 บาท โดยเฉพาะช่วงที่จานดาวเทียมของ ASTV ขาดตลาด

ซึ่งขณะนี้พื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่มีผู้ประกอบการธุรกิจการติดตั้งจานดาวเทียมทั้ง 3 อำเภอประมาณ 20-30 ร้าน สามารถจำหน่ายจานดาวเทียมต่าง ๆ ได้ไม่ต่ำกว่า 100 จาน เพียงเพื่อให้รับสัญญาณช่อง ASTV ได้เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าว เป็นการจุดฉนวนให้ประชาชนเกิดความอัดอั้นตันใจ ผลักดันให้เดินทางออกมารวมตัวกันที่ถนนราชดำเนินมากขึ้น ส่วนที่ จ.ภูเก็ต ขณะนี้ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน แต่ละคืนก็มีประชาชนเดินทางออกมารวมตัวรับฟังข้อมูลข่าวสารกันอย่างต่อเนื่อง โยที่ไม่เกรงกลัวว่า จะถูกเจ้าหน้าที่รัฐจับกุมดำเนินคดีแต่อย่างใด

ฉะ! “เหลิม” แน่จริงมาจับ “ยามฯภูเก็ต” ไม่หวั่น

ส่วนกรณีที่วันนี้ (17 มิ.ย.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมากล่าวสร้างกระแสเชิญชวนประชาชนให้ออกมาร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯ อีกครั้งว่า ใครที่ติดตั้งจานดาวเทียม ASTV สามารถรับชมการรวมตัวชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรได้ แต่หากมีผู้ใดผู้หนึ่งมีการตั้งจอโปรเจคเตอร์ถ่ายทอดบรรยากาศการรวมตัวชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ ในที่สาธารณะ และเชิญชวนประชาชนให้ออกมารรวมตัวกัน จะขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ใดก็ได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น

กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต เห็นว่า เป็นคำสั่งที่ปิดกั้นข้อมูลข่าวสารประชาชนโดยใช้อำนาจเผด็จการอย่างแท้จริง และไม่หวั่นไหวต่อคำสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด จะยังคงเดินหน้าตั้งจอโปรเจคเตอร์ถ่ายทอดการรวมตัวชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต และประชาชนชาวภูเก็ตไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วไปแต่อย่างใด

อีกทั้ง สถานที่ดำเนินกิจกรรมก็มีการขออนุญาตใช้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถูกต้องตามระเบียบ ไม่ได้กีดขวางการจราจร หรือไปรบกวนใคร และผู้ที่เดินทางมารับฟังข้อมูลข่าวสารก็เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้สร้างความวุ่นวาย หรือก่อกวนจนมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติแต่อย่างใด ตามที่มีเจ้าหน้าที่ของภาครัฐบางหน่วยที่เดินทางมาจับตา โดยใช้คำว่าตรวจสอบพฤติกรรมของประชาชน