หนองคาย- ผู้ว่าฯ หนองคาย รับลูก มท.1 เตรียมเรียกผู้ประกอบการเคเบิลในจังหวัด แจงข้อกฎหมายมาตรา 85 อ้างไม่ได้ขู่ แต่หากยังขืนถ่ายทอดจะบันทึกเทปแจ้งความจับ ขณะที่ผู้ประกอบการถูกกดดันหนัก แม้ถ่ายทอดสัญญาณเป็นกลาง ทั้งช่องที่เห็นด้วยกับรัฐและตรวจสอบรัฐ แย้มแม้ถูกขู่ด้วยข้อกฎหมาย ก็จะรอมติสมาคมเคเบิลก่อนจะถอดหรือถ่าย ASTV ต่อ
จากกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ได้มีคำสั่งโดยระบุว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ ASTV ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 85 ผู้ใดโฆษณา หรือประกาศแก่คนทั่วไปให้กระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
การถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรฯ ถือว่ามีความผิด เนื่องจากเป็นการชุมนุมที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 และ 216 ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถแจ้งจับสถานีโทรทัศน์ ASTV ได้ทันที รวมถึงเคเบิลทีวีที่มีการรับสัญญาณไปเผยแพร่ ส่วนผู้ที่มีการรับสัญญาณของ ASTV ไม่มีความผิดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยัน สถานีโทรทัศน์ ASTV สามารถออกอากาศได้ แต่จะต้องไม่ถ่ายทอดสดเรื่องที่เป็นการกระทำความผิด
หลังจากรับทราบคำสั่งแล้ว ในวันนี้ (13 มิ.ย.) เวลาประมาณ 14.00 น. นายเจด็จ มุสิกวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้เรียกผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมนานประมาณ 1 ชั่วโมง โดยได้มีการตรวจสอบจำนวนบริษัทผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในพื้นที่ว่ามีจำนวนกี่ราย มีใครเป็นเจ้าของบ้าง
จากการหารือได้ข้อสรุปว่า จังหวัดจะเชิญผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทั้งหมดในจังหวัดหนองคายมาชี้แจงข้อกฎหมาย มาตรา 85 ว่าการเผยแพร่มีความผิดทางกฎหมายให้ทราบในวันที่ 14 มิ.ย.51 เวลา 10.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดหนองคาย
อย่างไรก็ตาม จังหวัดจะไม่บังคับให้ผู้ประกอบการเคเบิลปฏิบัติตาม ก็ให้ผู้ประกอบการเลือกตัดสินใจเอาเองว่าจะเลือกทำตามข้อกฎหมาย หรือจะเอาใจสมาชิก ทั้งนี้ทั้งนั้นทางจังหวัดจะไม่มีคำสั่งปิดเคเบิล แต่หลังจากที่ได้แจ้งข้อกฎหมายให้ผู้ประกอบการทราบแล้ว
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการเคเบิลใดยังถ่ายทอดสัญญาณของ ASTV อยู่ ก็จะทำการบันทึกเทปรายการที่ออกอากาศทางเคเบิลนั้นๆ เป็นหลักฐาน แล้วจะนำเทปบันทึกดังกล่าวเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวีรายนั้น ในความผิดตามมาตรา 85
ส่วนผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นรายใด ที่เห็นว่าการกระทำของจังหวัดเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถแจ้งความกลับต่อจังหวัดได้ ซึ่งจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดยินดีที่จะเป็นจำเลยถูกกล่าวหา
ด้านผู้ประกอบการเคเบิลทีวีรายหนึ่งในจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้โทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับการส่งสัญญาณแพร่ภาพออกอากาศของ ASTV ให้กับสมาชิกของบริษัทว่า มีขั้นตอนการเผยแพร่ภาพอย่างไร ใครเป็นเจ้าของกิจการเคเบิลทีวี
หลังจากที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้สั่งการให้จังหวัดดำเนินการกับบริษัทเคเบิลทีวีที่ถ่ายทอดรายการของ ASTV ก็ได้มีสมาชิกที่รับบริการเคเบิลทีวีโทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียด ข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นจำนวนหลายราย
โดยมีทั้งสมาชิกรายเดือน และรายปี กรณีสมาชิกรายเดือนแจ้งว่าหากบริษัทถอดสัญญาณช่อง ASTV ออกจากเคเบิลก็จะยกเลิกการติดตั้งเคเบิลทีวีทันที ส่วนสมาชิกรายปีแจ้งว่าจะไม่ต่ออายุสมาชิกกับทางบริษัทอีกและจะไปซื้อจานดาวเทียมของ ASTV ติดตั้งที่บ้านแทน
ขณะที่ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีหลายรายเกิดความกดดันอย่างมากต่อการกระทำของภาครัฐ และเสียงตอบรับของประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 ช่วงที่ ASTV มีการถ่ายทอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งนั้น ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในจังหวัดหนองคายได้รับคำสั่งในลักษณะเดียวกัน คือ ห้ามแพร่ภาพรายการดังกล่าวของ ASTV เมื่อผู้ประกอบการทำตามคำสั่ง ก็เกิดผลตามมา ในลักษณะที่มีสมาชิกจำนวนมากโทรศัพท์เข้ามาต่อว่า พร้อมกับยกเลิกใช้บริการเป็นระนาว ซึ่งผู้ประกอบการไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นอีก
ผู้ประกอบการในจังหวัดหนองคายยืนยันว่า ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด มีการนำเสนอทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นช่อง MV ที่สนับสนุนรัฐบาล หรือช่อง ASTV ที่ทำการตรวจสอบรัฐบาล โดยทั้งสองช่องนี้เป็นโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่เป็นทางเลือกของประชาชนที่จะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารทั้งสองด้าน ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าสิ่งใดถูกหรือผิด และสามารถเลือกชมรายการตามช่องต่างๆ ที่ประชาชนเห็นว่ามีประโยชน์กับตนเองและสังคม
การปิดกั้นเช่นนี้ถือว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน ซึ่งในการประชุมร่วมกับทางจังหวัดในวันพรุ่งนี้ไม่ว่าจะมีผลอย่างไรก็จะยังไม่ถอดสัญญาณ ASTV ออก จนกว่าจะมีมติจากสมาคมเคเบิลทีวีฯ แจ้งถึงการดำเนินการภายใต้มติของสมาคม
จากกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ได้มีคำสั่งโดยระบุว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ ASTV ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 85 ผู้ใดโฆษณา หรือประกาศแก่คนทั่วไปให้กระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
การถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรฯ ถือว่ามีความผิด เนื่องจากเป็นการชุมนุมที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 และ 216 ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถแจ้งจับสถานีโทรทัศน์ ASTV ได้ทันที รวมถึงเคเบิลทีวีที่มีการรับสัญญาณไปเผยแพร่ ส่วนผู้ที่มีการรับสัญญาณของ ASTV ไม่มีความผิดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยัน สถานีโทรทัศน์ ASTV สามารถออกอากาศได้ แต่จะต้องไม่ถ่ายทอดสดเรื่องที่เป็นการกระทำความผิด
หลังจากรับทราบคำสั่งแล้ว ในวันนี้ (13 มิ.ย.) เวลาประมาณ 14.00 น. นายเจด็จ มุสิกวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้เรียกผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมนานประมาณ 1 ชั่วโมง โดยได้มีการตรวจสอบจำนวนบริษัทผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในพื้นที่ว่ามีจำนวนกี่ราย มีใครเป็นเจ้าของบ้าง
จากการหารือได้ข้อสรุปว่า จังหวัดจะเชิญผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทั้งหมดในจังหวัดหนองคายมาชี้แจงข้อกฎหมาย มาตรา 85 ว่าการเผยแพร่มีความผิดทางกฎหมายให้ทราบในวันที่ 14 มิ.ย.51 เวลา 10.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดหนองคาย
อย่างไรก็ตาม จังหวัดจะไม่บังคับให้ผู้ประกอบการเคเบิลปฏิบัติตาม ก็ให้ผู้ประกอบการเลือกตัดสินใจเอาเองว่าจะเลือกทำตามข้อกฎหมาย หรือจะเอาใจสมาชิก ทั้งนี้ทั้งนั้นทางจังหวัดจะไม่มีคำสั่งปิดเคเบิล แต่หลังจากที่ได้แจ้งข้อกฎหมายให้ผู้ประกอบการทราบแล้ว
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการเคเบิลใดยังถ่ายทอดสัญญาณของ ASTV อยู่ ก็จะทำการบันทึกเทปรายการที่ออกอากาศทางเคเบิลนั้นๆ เป็นหลักฐาน แล้วจะนำเทปบันทึกดังกล่าวเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวีรายนั้น ในความผิดตามมาตรา 85
ส่วนผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นรายใด ที่เห็นว่าการกระทำของจังหวัดเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถแจ้งความกลับต่อจังหวัดได้ ซึ่งจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดยินดีที่จะเป็นจำเลยถูกกล่าวหา
ด้านผู้ประกอบการเคเบิลทีวีรายหนึ่งในจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้โทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับการส่งสัญญาณแพร่ภาพออกอากาศของ ASTV ให้กับสมาชิกของบริษัทว่า มีขั้นตอนการเผยแพร่ภาพอย่างไร ใครเป็นเจ้าของกิจการเคเบิลทีวี
หลังจากที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้สั่งการให้จังหวัดดำเนินการกับบริษัทเคเบิลทีวีที่ถ่ายทอดรายการของ ASTV ก็ได้มีสมาชิกที่รับบริการเคเบิลทีวีโทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียด ข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นจำนวนหลายราย
โดยมีทั้งสมาชิกรายเดือน และรายปี กรณีสมาชิกรายเดือนแจ้งว่าหากบริษัทถอดสัญญาณช่อง ASTV ออกจากเคเบิลก็จะยกเลิกการติดตั้งเคเบิลทีวีทันที ส่วนสมาชิกรายปีแจ้งว่าจะไม่ต่ออายุสมาชิกกับทางบริษัทอีกและจะไปซื้อจานดาวเทียมของ ASTV ติดตั้งที่บ้านแทน
ขณะที่ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีหลายรายเกิดความกดดันอย่างมากต่อการกระทำของภาครัฐ และเสียงตอบรับของประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 ช่วงที่ ASTV มีการถ่ายทอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งนั้น ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในจังหวัดหนองคายได้รับคำสั่งในลักษณะเดียวกัน คือ ห้ามแพร่ภาพรายการดังกล่าวของ ASTV เมื่อผู้ประกอบการทำตามคำสั่ง ก็เกิดผลตามมา ในลักษณะที่มีสมาชิกจำนวนมากโทรศัพท์เข้ามาต่อว่า พร้อมกับยกเลิกใช้บริการเป็นระนาว ซึ่งผู้ประกอบการไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นอีก
ผู้ประกอบการในจังหวัดหนองคายยืนยันว่า ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด มีการนำเสนอทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นช่อง MV ที่สนับสนุนรัฐบาล หรือช่อง ASTV ที่ทำการตรวจสอบรัฐบาล โดยทั้งสองช่องนี้เป็นโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่เป็นทางเลือกของประชาชนที่จะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารทั้งสองด้าน ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าสิ่งใดถูกหรือผิด และสามารถเลือกชมรายการตามช่องต่างๆ ที่ประชาชนเห็นว่ามีประโยชน์กับตนเองและสังคม
การปิดกั้นเช่นนี้ถือว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน ซึ่งในการประชุมร่วมกับทางจังหวัดในวันพรุ่งนี้ไม่ว่าจะมีผลอย่างไรก็จะยังไม่ถอดสัญญาณ ASTV ออก จนกว่าจะมีมติจากสมาคมเคเบิลทีวีฯ แจ้งถึงการดำเนินการภายใต้มติของสมาคม